เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการแข่งรถของ 2 นักแข่งรถยนต์ ระหว่าง เจมส์ ฮันต์ นักแข่งรถมาดเพลย์บอย (รับบทโดย Chris Hemsworth ) และ นิกิ เลาด้า อัจฉริยะด้านการปรับแต่งเครื่องยนต์ (รับบทโดย Olivia Wilde) ซึ่งทั้งคู่ ได้พบกันครั้งแรกในการแข่งขันระดับ Formula Three โดยครั้งนั้นในช่วงสุดท้าย มีจังหวะที่รถของทั้งคู่ ขับเบียดกันไปมาก่อนเข้าโค้งสุดท้าย และมีจังหวะเบียดกัน ทำให้ทาง นิกิ เลาด้า ยอมถอนคันเร่งและปล่อยให้ เจมส์ ฮันต์แซง และเข้าเส้นชัยไปในที่สุด หลังการแข่งขัน นิกิ ได้เข้ามาต่อว่าถึงการกระทำของ เจมส์ ในทำนองว่า “การขับรถของนาย มันอันตรายและอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้” แต่เจมส์ ฮันต์ กลับไม่สนใจ แถมยังพูดจายียวน นิกิ ว่าเค้าเป็นคนขี้ขลาดจนแพ้ในที่สุด ทำให้นิกิโกรธมากและเกลียด เจมส์ ฮันต์มาก ถึงขั้นมองว่าเป็นศัตรูกันเลยทีเดียว ในเวลาต่อมา นิกิ หวังจะเข้ามาแข่งขันในระดับ Formula One ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการแข่งขันรถยนต์โดยได้จ่ายเงินเพื่อที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งของทีม Formula One แต่ทว่าเขายังไม่มีชื่อเสียงในการแข่งขันเลย จึงไม่ได้รับการยอมรับจากเจ้าของทีม แต่ด้วยความอัจฉริยะในด้านการปรับแต่งเครื่องยนต์ที่เขามี เขาได้เข้าไปดูรถของทีมและได้บอกให้ทีมช่างปรับแต่งรถตามที่เขาบอกจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ ในวันทดสอบสนาม เขาได้ให้นักแข่งพื่อนร่วมทีมของเขาขับรถที่เขาปรับแต่งขึ้นมาโดยบอกกับเจ้าของทีมว่า รถที่เขาทำ สามารถวิ่งได้เร็วกว่ารถคันเดิมถึง 2 วินาที จนกระทั่งทำการทดสอบ ผลออกมาคือเร็วกว่าถึง 2.3 วินาที ทำให้เจ้าของทีมถึงกับอึ้งและถามว่าทำได้อย่างไร เขาจึงได้ต่อรองเรื่องสัญญาและได้เข้ามาเป็นนักแข่ง Formula One ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตัดมาทางด้านเจมส์ ฮันต์ ซึ่งยังเป้นนักแข่งระดับ Formula Three อยู่ และกำลังจะมีแผนขยับขึ้นมาในระดับ Formula Two แต่เจมส์ ได้ข่าวว่า นิกิ ได้เข้าไปแข่งในระดับ Formula One แล้ว เขาจึงได้คุยกับเพื่อนร่วมทีม และทุกคนเห็นพร้อมต้องกันว่าจะเข้าไปแข่งในระดับ Formula One ด้วย โดยเข้ามาโดยการกู้เงินจากไฟแนนซ์และได้สร้างทีมขึ้นมาเพื่อเข้าแข่งขันในที่สุด พอเริ่มเปิดฤดูกาล ทั้งคู่ได้แข่งขันกันอย่างสูสีหลายสนาม แต่ด้วยตอนนี้ นิกิ ได้ขยับตัวเองจากนักแข่ง โนเนม กลายเป็นนักแข่งที่เริ่มมีชื่อเสียง โดยการชนะหลายๆสนาม และได้ย้ายเข้าไปร่วมทีม Ferrari ในที่สุด ผลสุดท้าย จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งแชมป์โลกเลยทีเดียว หลังจากได้รางวัล เจมส์ ฮันต์ ได้เข้ามาพูดในทำนองว่า “ตอนนี้รถของเขาสู้นายไม่ได้ ทำให้นายชนะไปในที่สุด แต่ถ้าเมื่อไหร่เขามีรถที่สูสี รับรองว่า นิกิ ไม่มีทางชนะเขาแน่นอน” หลังจบฤดูกาลแรก เจมส์ มีความกระหายที่อยากจะชนะ จนเขาได้ทุ่มเทในการซ้อมมาก แต่เหมือนว่า โชคชะตาไม่เข้าข้าง ทีมของเจมส์ ไม่มีเงินจ่ายให้ไฟแนนซ์ และต้องยุบทีมไปในที่สุด ทำให้เจมส์พยายามหาทางที่จะเข้าไปแข่งให้ได้ โดยได้โทรไปขอร้องให้พี่ชายช่วย ซึ่งเทพีแห่งโชคชะตาก็หันมาเข้าข้างเจมส์ เพราะนักแข่งทีม McLaren ได้ถอนตัวกระทันหัน เจมส์จึงได้สมัครเพื่อเข้าไปทดสอบ พร้อมทั้งบอกข้อดีของเขาว่า ถ้าได้เขาไป เขาจะทำให้ทีมเป็นแชมป์โลก ทำให้เจ้าของทีม ตัดสินใจเลือกเขาในที่สุด หลังจากเขาได้เข้าทีม เจมส์ได้พูดกับนิกิว่า ปีนี้จะเป็นการแข่งแบบแฟร์ๆ แล้ว เพราะรถของทั้งคู่เสมอกัน นักแข่งทั้งคู่ มีรถที่เท่าเทียมกัน ต้องมาตัดสินกันในสนามได้เลย กระทั้งเริ่มแข่ง 2 สนามแรก ยังเป็นแชมป์โลกอย่างนิกิ ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยเจมส์ ฮันต์ แต่ทว่า สนามที่ 3 เป็นเจมส์ ฮันต์ ที่เบียดแซงได้รับชัยชนะไปในสนามนี้ แต่ นิกิ ได้เข้าไปให้ข้อมูลกับทีมงาน ให้ยื่นประท้วงว่า รถของ เจมส์ ฮันต์ ปรับแต่งผิดกติกา จนทำให้เขาถูกปรับแพ้ ส่งผลให้ เจมส์ เข้าไปต่อว่า นิกิ เรื่องนี้ และทั้งคู่ก็มีปากเสียงกันอีก ทำให้ทั้งคู่ เกลียดกันมากขึ้น พอหลังจบสนามที่ 3 ทีมของ McLaren ต้องใช้เวลาจูนเครื่องนานหลัยสนามเลย กว่าจะอยู่ในสภาพพร้อมแข่งได้ ทำให้ตอนนี้ นิกิ มีคะแนนนำ เจมส์อยู่ถึง 50 คะแนน ซึ่งดูและปีนี้ นิกิ น่าจะได้แชมป์โลกไปครองอีกสมัย ตัดมาฉากไคล์แมกของหนัง เมื่อมาถึงสนามที่ยากที่สุด ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการแข่ง คือมีฝนตกหนัก ทำให้นิกิ ขอร้องให้นักแข่งทั้งหมด มาโหวตกันเพื่อจะลงความเห้นว่า ให้ยกเลิกการแข่งขันในวันนี้เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจากการแข่งขัน แต่เป้นด้านเจมส์ ที่ปั่นหัวนิกิ โดยการพูดแซะทำนองว่า ถ้ายกเลิกไป ก็เท่ากับนายจะได้แชมป์โลกเร็วขึ้น เป็นเกมส์ที่ไม่แฟร์ ถามทิ้งท้ายว่านิกิ ขี้ขลาด ทำให้นักแข่งส่วนใหญ่ลงความเห้นที่จะแข่งต่อ จนกระทั้งการแข่งขันเริ่ม มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง ซึ่งครั้งนี้เป็นรถของ นิกิ ที่ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรง และตัวเขาเองถูกไฟคลอดนานกว่า 1 นาที เจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวเขาส่งโรงพยาบาล และต้องพักแข่งขันไประยะเวลาหนึ่ง จนกว่าเขาจะหาย ถึงจะกลับมาแข่งได้ เป็นโอกาศให้ เจมส์ ฮันต์ ไล่ทำคะแนนในช่วงนี้ จนไล่ตีตื้นขึ้นมา ในช่วงที่นิกิรักษาตัว เขาได้ดูการแข่งขันทุกนัดที่เจมส์แข่ง และยิ่งทำใหเขามีความแค้นและอยากกลับมาแข่งให้เร็วที่สุด โดยให้หมอรักษาเขาอย่างเต็มที่และยอมที่จะเจ็บปวดเพื่อให้กลับมาแข่งเร็วที่สุด ซึ่งก็ทันช่วงท้ายของฤดูกาลจริงๆ เขาได้กลับมาแข่งในสนามแรก และเข้าเป็นอันดับ 4 ส่วนเจมส์ ฮันต์ รถพังในสนาม จนทำให้คะแนนของ นิกิ กลับมานำเจมส์อยู่ 3 คะแนน ก่อนถึงสนามสุดท้าย เมื่อวันแข่งขัน Final Race มาถึง เป็นการแข่งขันที่ญีปุ่น และสภาพอากาศไม่สู้จะดี คือมีฝนตกหนักมาตลอดก่อนการแข่งขัน รอบนี้ ทางเจมส์ฮันต์รู้สึกผิดแต่เหตุการครั้งก่อน จึงอยากจะขอให้โหวตยกเลิกการแข่งลง แต่ด้วยเป็นสนามสุดท้าย และลิขสิทธิ์การถ่ายทอด ได้ขายออกไปหมดแล้ว จึงจำเป็นต้องจัดการแข่งขันต่อไป ก่อนแข่ง ทั้งคู่ได้ยกมือทักทายกัน ดูเหมือนว่าการมีศัตรูที่สร้างแรงผลักดันให้กัน ตอนนี้จะเปลี่ยนมาเป็นมิตรกันได้แล้ว การแข่งขันสนามสุดท้าย จะตัดสินว่า ใครจะเป็นแชมป์โลกการแข่งขัน Formula One ครั้งนี้ เมื่อเริ่มแข่ง ฝนก็ตกหนักอยู่เหมือนเดิม จนทำให้มีจังหวะนึง ที่นิกิ นึกถึงภรรยา และความปลอดภัยของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจนำรถออกจากการแข่งขัน ไปแบบงงๆ ของทีมงาน แต่ทั้งหมดได้เคารพการตัดสินใจของเขา ตัดมาทางด้านเจมส์ เขามีโอกาศที่จะได้แชมป์โลกให้ได้ เพียงแต่ว่าเงื่อนไขคือ เขาจะต้องเขาเส้นชัยอย่างน้อย อันดับที่ 3 ให้ได้ โดยตลอดการแข่งขัน เขาได้ขับรถอยู่ในกลุ่มนำตลอด จนกระทั้งเหลือ 4 รอบสุดท้าย ยางรถของเขาอยู่ในสภาพที่แย่ จนต้องเขา Pit เพื่อเปลี่ยนยาง ทำให้อันดับเขาตกลงไปหลายอันดดับ และเกียร์รถก็หักด้วย แทงมือเขาจนเลือดอาบ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ ก่อนออกจาก Pit ทีมงานบอกให้เขาขับช้าๆ เพื่อรักษาสภาพให้เข้าเส้นชัยอย่างปลอดภัย แต่เจมส์เอง ไม่ยอม และสู้ที่จะเอาแชมป์โลกมาให้ได้ ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จ เข้าเข้าเป็นอันดับที่ 3 และได้แชมปืโลกสมัยนี้ไปครอง หลังจากจบการแข่งขัน เจมส์ ฮันต์ก็ทำตัวเพลบอยสุดๆ คือ กิน เล่น เที่ยว ต่างจาก นิกิ ที่เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งในปีหน้า เมื่อทั้งคู่ได้มีโอกาศมาเจอกัน ตอนนี้ การสนทนาของทั้งคู่ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นยอมรับและบอกซึ่งกันและกันว่า การมาถึงจุดนี้ได้ เพราะได้แรงผลักดันมาจากตัวคู่แข่งทั้งคู่ ตัวหนังก็ตัดเข้าฉากเล่าประวัติ ว่าเจมส์แข่งได้อีก 2 ซีซั่นก็เลิกแข่งไปและได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 45 ปี ส่วนนิกิ ก็ได้แชมป์โลกอีกถึง 2 สมัยในเวลาต่อมา เรื่องราวอาจจะยาวไปหน่อย แต่รับประกันความมันส์ของหนังเรื่องนี้ครับ อยากให้เพื่อนๆ ได้ไปลองรับชมกันดู แล้วจะรู้ว่า สิ่งที่กล่าวมา มันยังไม่ได้ครึ่งกับอัธรถที่คุณจะได้รับชมด้วยตัวเองเลยครับ หนังนี้เรื่องทำรายได้ไปถึง 98 ล้านเหรียญสหรัฐและได้คะแนนจาก IMDB ไป 8.1/10 คะแนน เลยทีเดียว Cr. ภาพปก >> https://www.patsonic.com/movie/review-rush/Cr.ภาพประกอบ >> Link 1 Link 2 Link 3