สวัสดีค่า หลังจากที่หายไปนาน วันนี้เรากลับมาแล้ว กลับมาพร้อมกับเรื่องราวดี ๆ ที่อยากแชร์ หลังจากได้รับกระแสตอบรับที่ดี (หรือเปล่าไม่รู้) ในบทความแนะนำซีรีส์เกาหลี FEEL GOOD เราจึงอยากจะมาแชร์ซีรีส์ที่เราดูแล้วชอบมากจนอยากบอกต่อ เป็นซีรีส์ที่สาวกเกาหลีไม่ควรพลาด ถ้าไม่ดูก็ถือว่าพลาดแต่ถ้าไม่อยากพลาดอะไรสนุก ๆ ก็ดูกันให้อิ่มเอมใจกันไปเลยจ้า แต่ถ้าใครที่เคยดูครบแล้วทุกเรื่องก็ดูซ้ำวนไปเรื่อย ๆ ก็ได้นะคะ โดยซีรีส์ที่เราเลือกมานั้นเรารวมทุกแนวมาเลย ชอบแนวไหนก็ดูแนวนั้น แต่เรื่องที่เลือกมารับประกันความสนุกโดยนักดูซีรีส์อย่างเราTempted / Great Seducer เรื่องนี้ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะเราดูเรื่องนี้ซ้ำนับครั้งไม่ถ้วนเลยค่ะ สนุกมากค่ะทุกคน ถึงแม้ความสัมพันธ์ของตัวละครและเนื้อเรื่องจะทำให้เรางง ๆ อยู่บ้าง จริง ๆ เราพยายามทำความเข้าใจตัวละครอยู่นะคะว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจในบางจุดอยู่ดี ซึ่งนั่นแหละค่ะคือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของทั้ง 4 คน mood ของเรื่องให้ความรู้สึกถึงความลึกลับ ซ่อนเงื่อน ตรงตัวกับชื่อเรื่อง ดูจากนักแสดงหลักทั้ง 4 คนก็เดาได้ไม่ยากว่าคาแรคเตอร์แต่ละคนจะไปในทิศทางไหน ควอนซีฮยอน รับบทโดย อูโดฮวาน ต้องแกล้งไปจีบนางเอกซึ่งก็คือ อึนแทฮี รับบทโดย จอย red velvet ตามคำสั่งของ ซูจี รับบทโดย มุนกายอง โดยลึก ๆ แล้วพระเอกก็ชอบซูจีอยู่ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอใช้ให้พระเอกไปแกล้งจีบผู้หญิงคนอื่นทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบมีความหึงหวงพระเอกอยู่ด้วย เป็นไงล่ะคะแค่เริ่มแรกก็งงแล้ว แถม เซจู รับบทโดย คิมมินแจ ก็ดันแอบชอบซูจีอีก ซึ่งทั้ง ซีฮยอน ซูจี และ เซจู เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด ทั้งพระพระเอกและเซจูก็ทำอะไรตามใจซูจีทุกครั้ง จนกระทั่งพระเอกมาเจอนางเอก ทุกอย่างค่อย ๆ เปลี่ยนไป ความเย็นชาต่อความรักของพระเอกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความรักที่มีให้กับนางเอกของเรา ท่ามกลาง mood เทาๆ ของเรื่อง จากแค่แกล้งจีบจนเกิดเป็นความรักขึ้นมาจริง ๆ พอสุดท้ายซูจีกลับบอกให้พระเอกบอกเลิกนางเอกซะอย่างงั้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันต่อเอาเองนะคะ แต่ขอบอกว่าการแกล้งจีบของพระเอกไม่ใช่ว่ามาหลอกทำอะไรมิดีมิร้ายนางเอกนะคะ ระหว่างที่ทั้งสองเป็นแฟนกัน พระเอกดูแลนางเอกดีมากจริง ๆ ค่ะ และทั้งสองก็มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน นอกจากนี้แล้วโดฮวานหล่อมากค่ะ มองมุมไหนก็มีเสน่ห์ ส่วนจอยก็สวยมากค่ะ ฝีมือการแสดงไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ คะแนนความประทับใจส่วนตัว : 10/10At Eighteen / Moment at Eighteenเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่มีปมอะไรแต่ผิดคาดเพราะปมของตัวละครยุ่งเหยิงซะจนเดาทางแทบไม่ได้ เป็นซีรีส์ใส ๆ วัยมัธยมที่ครบรสมาก โดย ชเวจุนอู รับบทโดย องซองอู ต้องย้ายมาเรียนที่โรงเรียนใหม่แห่งนี้ ซึ่งทำให้เขาได้พบกับ ยูซูบิน รับบทโดย คิมฮยางกี และที่ขาดไม่ได้คือ มาฮวียอง รับบทโดย ชินซึงโฮ ที่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง เราชอบเรื่องนี้ตรงที่ว่ามีการใส่ประเด็นความหลากหลายทางเพศให้กับตัวละครอย่าง โอเจ รับบทโดย มุนบิน Astro เราว่าเป็นการสื่อเกี่ยวกับสังคมของวัยมัธยมได้ชัดเจนเพราะยุคนี้อะไรหลายอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว ทุกคนมีความชอบที่แตกต่างกัน แต่เรื่องนี้ดูแล้วสงสารพระเอกมาก เหมือนเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ไม่ว่าจะโดนกลั่นแกล้งยังไงก็อดทนตลอด เพราะเขาไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบอดีตอันเป็นเหตุให้ต้องย้ายโรงเรียนเหมือนในครั้งนี้ อีกทั้งซีรีส์เรื่องนี้ยังแทรกประเด็นครอบครัวและความกดดันจากพ่อแม่ที่ส่งผลให้บางตัวละครตัดสินใจทำอะไรผิด ๆ รวมถึงยังถ่ายทอดบทบาทของครูได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ ว่าแท้จริงแล้วการเป็นครูที่ดีคือไม่ใช่แค่สอนแล้วก็คอยเอาใจเด็กหรือผู้ปกครองหรือคอยทำตามคำสั่งเท่านั้น ในทางกลับกันครูต้องคอยสังเกตพฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงของเด็กเพื่อให้คำแนะนำที่จะทำให้เขาเดินไปในทางที่ถูกต้อง เป็นอีกเรื่องที่เราเชียร์ให้ดูเลยค่ะ สนุกจริง ๆ คะแนนความประทับใจส่วนตัว : 10/10Extraordinary Youต่อด้วยเรื่องวัยมัธยมอีกเรื่อง คราวนี้พลิกมาเป็นแนวแฟนตาซีที่บอกเลยว่า ถ้าไม่ได้ดูตั้งแต่แรกจะงงมาก ๆ เพราะขนาดเราดูตั้งแต่แรกยังแอบงงเลยค่า เรื่องราวคร่าว ๆ คือนางเอกป่วยเป็นโรคหัวใจ และมีเรื่องราวแปลก ๆ มากมายเกิดขึ้นกับเธอ จนเธอมารู้ว่าแท้จริงเธออยู่ในการ์ตูนเรื่องหนึ่ง หนำซ้ำเธอยังเป็นแค่ ตัวประกอบ ที่กำลังจะตาย ดังนั้นนางเอกจึงมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงบทตัวประกอบของเธอจนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหลายอย่างเพราะเมื่อไหร่ที่เรื่องราวในการ์ตูนไม่ได้เป็นไปตามบท การทำให้ตัวประกอบตัวอื่น ๆ มีบทบาทขึ้นมา ก็จะทำให้เหตุการณ์ต่อ ๆ ไปต่างไปจากบทเดิมและเรื่องก็จะไม่ดำเนินไปตามที่นักเขียนเขียนไว้ และเราจะเห็นนางเอกวาร์ปไปฉากนั้นที ฉากนี้ที ดูไปลุ้นไปมากว่านางเอกจะสามารถเปลี่ยนแปลงบทตัวประกอบของเธอได้ไหมและจะคู่กับใคร เป็นอีกเรื่องที่น่าดูมาก ๆ คะแนนความประทับใจส่วนตัว : 8/10My ID Is Gangnam Beautyสำหรับสาวกซีรีส์เกาหลีไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องนี้ เราเชื่อว่าหลายคนคงดูกันแล้ว แต่เราจะตอกย้ำความฟินให้คนที่ยังไม่เคยดูว่าต้องรีบหาเวลาดูเพื่อไม่ให้พลาดความฟินนี้ ดูจากชื่อเรื่องก็น่าจะพอเดาทางได้ว่านางเอกของเรานั้นเคยทำศัลยกรรมมาก่อนและก็ได้มาเจอกับพระเอกที่มหาวิทยาลัย แต่แท้จริงแล้วพระเอกนั้นเคยเห็นนางเอกมาก่อนแล้ว เรื่องนี้ไม่ได้มีปมซ่อนเงื่อนอะไรขนาดนั้น แต่หลังจากที่ดูเราอยากให้ทุกคนหันกลับมาให้ความสำคัญกับคุณค่าจริง ๆ ของตัวเราเอง ทุกวันนี้ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทนอยู่กับสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าเป็นปมด้อย เราสามารถทำในสิ่งที่เพิ่มความมั่นใจให้เรา เราสามารถทำศัลยกรรมได้ถ้าเราคิดว่ามันจะช่วยทำให้เรามั่นใจขึ้นเพราะนี่คือร่างกายเรา เรามีสิทธิ์ตัดสินใจในสิ่งที่ดีต่อตัวเองโดยที่เราไม่ต้องไปใส่ใจว่าใครเขาจะว่าอย่างไรเพราะสุดท้ายเขาไม่ได้มาเข้าใจความรู้สึกเราจริง ๆ ไม่ได้มาเผชิญเหตุการณ์แบบเรา มีแต่เราที่เข้าใจตัวเองมากที่สุด ดังนั้นเราจึงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเราเอง การศัลยกรรมจึงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรคะแนนความประทับใจส่วนตัว : 9/10Are you Human ?เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่เรามักเห็นจนชินตาในซีรีส์เกาหลีซึ่งแต่ละเรื่องก็จะนำเสนอในประเด็นที่ต่างออกไปซึ่งเรื่องนี้ก็จะถ่ายทอด เรื่องราวของ นัมชิน รับบทโดย ซอคังจุน เป็นลูกชายเจ้าของบริษัทใหญ่ที่ประสบอุบัติเหตุจนอาการโคม่าและแม่ของเขาก็ได้ทำการสร้างหุ่นยนต์ที่มีลักษณะเหมือนกับเขาทุกอย่าง ชื่อว่า นัมชินทรี และมากไปกว่านั้นคือทั้งนิมชินและนัมชินทรีมีนิสัยต่างกันสุดขั้ว เหตุการณ์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรก็ไปหาดูกันเลยจ้า สนุกแน่นอนคะแนนความประทับใจส่วนตัว : 8/10I’m Not a Robotมาที่เรื่องราวเกี่ยวกับหุ่นยนต์อีกเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็ต่างไปจากเรื่องก่อนหน้าคือ พระเอกของเราเป็นโรคที่แปลกมากคือแพ้มนุษย์ด้วยกัน เขาจึงต้องหาหุ่นยนต์มาคอยอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งเขาก็ได้หุ่นยนต์รับใช้ ฮาจีทรี มา แต่ถ้าเป็นหุ่นยนต์จริง ๆ เรื่องมันจะสนุกได้อย่างไรล่ะคะ เพราะฮาจีทรี ไม่ใช่หุ่นยนต์แต่เป็นมนุษย์ มีเลือดมีเนื้อเหมือนกับพระเอกและก็เป็นนางเอกของเรานี่เอง อย่างนี้อาการแพ้มนุษย์ของพระเอกจะไม่กำเริบหรือเมื่อต้องอยู่ใกล้พระเอก ไปติดตามกันได้ใน I’m Not a Robotคะแนนความประทับใจส่วนตัว : 8/10Cheese In The Trapเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราดูแล้วดูอีก ดูซ้ำไปซ้ำมา ส่วนตัวเราชอบเนื้อหาของเรื่องนี้นะ สะท้อนออกมาได้หลายมุมดี ทั้งสังคมของมหาวิทยาลัย การคบเพื่อน การทำงานร่วมกับเพื่อน รวมถึงการทำงาน ต่าง ๆ มากมาย แถมตัวละครยังมีปมปัญหาของตัวเองอีก เรียกได้ว่าแต่ละตอนมีเรื่องให้ขมวดคิ้วทุกครั้ง พระเอกก็เป็นคนเย็นชา เข้าถึงยาก ส่วนนางเอกเป็นรุ่นน้องที่ต้องเรียนเซคเดียวกับพระเอก เราจึงได้ยินคำ ซอนเบ เกือบทั้งเรื่อง หลังจากทั้งสองตกลงเป็นแฟนกัน เรื่องราวก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีอุปสรรคเข้ามาตลอด ทั้งพระรองเองที่คอยช่วยเหลือนางเอกจนทำให้มีเรื่องกับพระเอกเป็นประจำ ทั้งที่ในอดีตทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาก เป็นเรื่องราวความรักที่อัพเกรดขึ้นมาจากวัยมัธยมแต่ก็ไม่ได้ดูโตมาก แอบบอกก่อนว่าถึงแม้ตอนจบจะทำให้ใครหลาย ๆ แอบเศร้า แต่สำหรับเรา เราคิดว่ามันจบได้สมบูรณ์แบบตามที่มันควรจะเป็นแล้ว สนุก เศร้าเคล้าน้ำตา หลายอารมณ์จริง ๆ ค่ะคะแนนความประทับใจส่วนตัว : 10/10The K2เจอเรื่องหวาน ๆ มากันเยอะแล้ว มาที่เรื่องราวบู๊ ๆ กันบ้าง เรื่องนี้ จีชางอุค และ ยุนอา ไม่ทำให้เราผิดหวังเลยจริง ๆ เป็นอีกเรื่องที่เราดูมากกว่า 1 รอบ เรื่องราวก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมาก พระเอกได้รับหน้าที่ให้มาเป็นบอร์ดี้การ์ดในชื่อ The K2 ให้นางเอก โดยก่อนหน้านี้คนรักของพระเอกโดนฆ่า การกลับมาเกาหลีของเขาก็เพื่อทำภารกิจอะไรบางอย่าง และการที่ได้อยู่ใกล้นางเอกทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกดี ๆ ให้กัน เราจะได้เห็นการต่อสู้ การบู๊ ของชางอุคทั้งเรื่องเลยค่ะ ที่สำคัญ ยุนอา สวยมาก สวยทุกฉากเลย มีฉากฟิน ๆ น่ารัก ๆให้ได้ดูแน่นอน แต่ก็จะหนักไปทางดราม่าและแอคชั่นซะส่วนใหญ่ แต่ก็มีฉากให้จิกหมอนกันเป็นระยะ คะแนนความประทับใจส่วนตัว : 10/10Praise Of Death / Hymn Of Deathเป็นเรื่องที่เรา recommend มาก ๆ เป็นซีรีส์สั้น 6 ตอน เป็นแนวเมโลดราม่าที่ดูแล้วอึดอัดมากตั้งแต่ต้นจนจบ เราสัมผัสได้ถึงความเศร้า ความอึดอัดในใจของตัวละครได้อย่างเต็มเปี่ยม เป็นเรื่องที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริงของนักโซปราโนหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ญี่ปุ่นยึดครองเกาหลี นางเอกได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น พระเอกก็ไปเรียนที่ญี่ปุ่นเช่นกันแต่ไปเรียนด้านการเขียนบทละคร ทั้งสองพบกันจากการรวมกลุ่มกันของนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ที่ศึกษาอยู่ที่โตเกียวเพื่อทำละครเผยแพร่วัฒนธรรมเกาหลีท่ามกลางการยึดครองของญี่ปุ่น โดยที่นางเอกไม่รู้มาก่อนว่าพระเอกแต่งงานแล้ว และมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย ตรงกันข้ามกับนางเอกอย่างสิ้นเชิง โดยก่อนที่นางเอกจะรู้ความจริง ทั้งสองก็เกิดความรู้สึกดี ๆ ให้กัน แต่เป็นความสัมพันธ์ที่ดูแล้วอึดอัดมาก เหมือนพูดคำว่ารักได้ไม่เต็มปาก พอมารู้ความจริงหลังจากที่ไปบ้านพระเอก นางเอกก็ถอยห่างออกมา หลังเรียนจบ พระเอกต้องกลับมาทำสืบทอดธุรกิจครอบครัวตามที่พ่อต้องการ ว่าถ้าหากยอมให้พระเอกเรียนเกี่ยวกับการเขียนบทจะต้องกลับมาสืบทอดธุรกิจครอบครัว แต่นั่นไม่ใช่หนทางที่พระเอกต้องการ ทั้งยังต้องอยู่กับคนที่ตนไม่ได้รัก เขาจึงเลือกที่จะแอบไปหานางเอกและสานสัมพันธ์กันอย่างลับ ๆ แต่ไม่นานความลับก็ถูกเปิดเผย พระเอกจะตัดสินใจอย่างไร จะเลือกทำตามหัวใจตนหรือทำตามคำสั่งของพ่อ เราแนะนำว่าให้ไปดูเอาเอง ขนาดมีแค่ 6 ตอนแต่เป็น 6 ตอนที่สนุกและเต็มไปด้วยคุณภาพของนักแสดงทุกคน ทำให้เราเชื่อจริง ๆ ว่าเส้นทางความรักของทั้ง 2 นั้นลำบากมาก หนำซ้ำยังอยู่ในช่วงที่ญี่ปุ่นเข้ามาสร้างบาดแผลในใจให้คนเกาหลีอีก นางเอกเองก็ถูกกดดันจากหลาย ๆ ฝ่าย สุดท้ายแล้วทั้งสองจะตัดสินอย่างไรต่อไปกับความรักที่ถูกกีดกันนี้ แถมได้ อีจงซอก กับ ชินฮเยซอน มาแสดงนำก็การันตีได้เลยว่าต้องสนุก เพราะจงซอกเล่นดีมากจริง ๆ เราไม่ได้อวยเลยค่ะ เล่นเป็นคนที่เก็บความอึดอัดเอาไว้ในใจ แววตาก็เต็มไปด้วยความอึดอัดตลอดเวลา ส่วนฮเยซอนก็สวยมาก ๆ สวยแบบมีสง่าราศีอ่ะค่ะ พอนักแสดงเข้าถึงบทบาท เมื่อมารวมกับองค์ประกอบอื่นในเรื่องก็ยิ่งเสริมทัพให้ซีรีส์สมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก เราแนะนำให้ลองไปฟังเพลง Praise Of Death กันได้นะคะ ฟังแล้วก็จะทำให้อินมากขึ้นกว่าเดิมคะแนนความประทับใจส่วนตัว : 10/10Strong Woman Do Bong Soonเป็นซีรีส์แนวโรแมนติกคอมเทดี้ที่แทรกความแฟนตาซีมานิดหน่อย นางเอกเป็นคนที่พละกำลังเยอะมาก ๆ และใช้พละกำลังของตัวเองคอยช่วยผู้อื่นเสมอ วันหนึ่งได้มาเจอกับพระเอกที่เป็นเจ้าของบริษัทเกม และเข้าก็รู้ความลับของนางเอก พระเอกจึงสัญญากับนางเอกว่าถ้ามาเป็นบอร์ดี้การ์ดให้ตน จะยอมให้ทำงานที่บริษัทเกม ความใกล้ชิดจึงเกิดเป็นความรัก เราว่าเรื่องนี้ดูเพลินดีค่ะ ไม่ค่อยมีดราม่า จะออกแนวคอมเมดี้มากกว่า ตอนท้ายจะมีเรื่องให้เราลุ้นอยู่บ้าง ใครที่มองหาซีรีส์คลายเครียดเราแนะนำเรื่องนี้เลยคะแนนความประทับใจส่วนตัว : 8/10จบไปแล้วสำหรับซีรีส์เกาหลี 10 เรื่อง ที่เรานำมาแนะนำทุกคน บางคนอาจจะดูครบหมดแล้วก็ไปดูซ้ำอีกได้หรือบางคนอาจจะยังดูไม่ครบก็ไปหาดูกันได้เช่นกัน เราแลือกมาหลายแนวจริง ๆ แต่ละเรื่องก็มีความสนุกที่แตกต่างกัน ทุกเรื่องสนุกหมด อยู่ที่ว่ามันจะถูกจริตความชอบเราหรือไม่ และคะแนนความประทับใจก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น ซึ่งก็อยู่ที่ความชอบ บางเรื่องเราชอบแต่คนอื่นอาจจะไม่ชอบ เราเลยแนะนำว่าอยากให้ลองดูหลาย ๆ เรื่อง บางเรื่องที่คนอื่นบอกว่าสนุก มันอาจจะไม่สนุกสำหรับเราก็ได้ ที่สำคัญนักแสดงแต่ละคนก็เล่นได้ดีทั้งนั้น หาเวลาว่าง ๆ ดูซีรีส์สนุก ๆ คลายเครียดก็ไม่ได้เสียหายอะไร เติมความสุข เติมสีสันให้ชีวิตตัวเอง จะดูเพื่อความบันเทิงหรือดูเพื่อความรู้ก็ได้ทั้งสอง เพราะสุดท้ายหนัง ซีรีส์ ละคร ก็อยู่ที่เราตีความ และผู้ผลิตเองก็มีจุดประสงค์การสะท้อนเรื่องราวที่ต่างกันออกไป และท้ายที่สุดของที่สุด เราขอให้ทุกคนมีความสุขกับการดูซีรีส์ที่เราแนะนำนะคะ ภาพปก :https://programs.sbs.co.kr , http://jtbc.joins.comภาพประกอบ : ภาพที่ 1 , ภาพที่ 2 , ภาพที่ 3 , ภาพที่ 4 , ภาพที่ 5 , ภาพที่ 6 , ภาพที่ 7 , ภาพที่ 8 , ภาพที่ 9 , ภาพที่ 10 , ภาพที่ 11