สวัสดีค่า ขอออกตัวก่อนเลยว่าปัจจุบันคนเขียนอายุ 24 ปี ปัจจุบันก็ทำงานแล้ว และไม่ได้ทำงานอะไรที่เกี่ยวกับสายการ์ตูนเลยด้วย แต่การดูการ์ตูนเนี่ยกลับเป็นเหมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกายเลยซะทีเดียว ฮ่าๆ(ตัดภาพมาปัจจุบันคือดูน้อยมาก แอบเศร้า) การ์ตูนสำหรับเราในวัยเด็กเนี่ย มันเป็นอะไรที่มากกว่าภาพของตัวละครสีสันสวยๆวิ่งไปมาบนหน้าจอโทรทัศน์ การ์ตูนเนี่ยเปรียบเสมือนเพื่อนของเราตั้งแต่เด็ก อารมณ์เหมือนถ้ามีโนบิตะก็ต้องมีโดราเอม่อนยังไงอย่างงั้น พอมาเริ่มโตขึ้น ด้วยกิจวัตรอะไรหลายๆอย่างที่เราต้องทำในแต่ละวัน เราเลยมีความจำเป็นที่ต้องห่างจากสิ่งเหล่านี้ไป ซึ่งมันก็คือสิ่งที่ต้องแลกมากับการเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งเมื่อเรามองดูการ์ตูนสมัยนี้ สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือวิวัฒนาการ ด้วยอุปกรณ์ที่มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้ภาพคมขึ้น สมจริงมากขึ้น มันกลับทำให้เรารู้สึกมันไม่สนุกเท่าที่สมัยเรายังเป็นเด็ก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อาจเป็นเพราะเรายังติดกับการ์ตูนที่ใช้มือวาด คิดถึงกลิ่นอายลายเส้นแบบเก่าๆ ที่ไม่ได้ดูเพอร์เฟค ไม่ได้สมจริง กลับกลายเป็นว่ามีเสน่ห์ เราเลยอยากจะมาแนะนำการ์ตูนที่เราคิดถึงกันในปัจจุบัน บางเรื่องเด็กสมัยนี้อาจจะยังคุ้นตา บางเรื่องก็อาจจะไม่ ซึ่งบางเรื่องก็หาดูได้ใน True ID ได้เหมือนกัน 1. Courage the cowardly dog หรือในชื่อไทยที่คุ้นหูกันดีคือ หมาน้อยผู้กล้าหาญแต่เรามักติดหูจากประโยคในหนังที่ชื่อว่า เคอร์เรจเจ้าตูบจอมขี้ขลาด ซะมากกว่า คือเรื่องนี้เราชอบมากๆ ให้100/10 เลยก็ว่าได้ สมัยที่เราดูก็คือดูจากช่อง cartoon network และปัจจุบันเรื่องนี้ได้เข้า True ID แล้ว ซึ่งในความรู้สึกเราคือเรื่องนี้มีเนื้อหาที่สนุก แปลก บางตอนก็มีความหลอน และลายเส้นที่มีเอกลักษณ์แบบมาก(ก. ล้านตัว) คือมันเป็นเรื่องของหมาที่ชื่อว่า "เคอร์เรจ" ที่แปลว่า กล้าหาญ แต่ในเรื่องเนี่ยมันเป็นหมาที่ขี้กลัวมาก แต่พอเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับเวลม่าที่เป็นเจ้าของหมาในเรื่อง เคอร์เรจเนี่ยสู้ไม่ยั้งเลย เรียกได้ว่าสู้จนลืมกลัวผีเลยก็ว่าได้ ทำให้เรามองว่าความรักของหมาเนี่ยไม่แพ้มนุษย์เลย 2. The Mask (หน้ากากเทวดา)เรื่อง The Mask บอกเลยว่าเป็นการ์ตูนสายฮาและมีความทะลึ่งปนทะเล้นในหลายๆฉาก แต่เรายังจำได้ดีว่าเมื่อหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดูทีไร ก็มักนั่งขำคนเดียวอยู่หน้าทีวีเสมอ การ์ตูนเรื่องนี้ตอนเป็นการ์ตูนก็ว่าดังแล้ว พอสร้างเป็นภาพยนตร์ก็ดังขึ้นไปอีกด้วยเช่นกัน เรื่องย่อ ก็ตรงตามชื่อเลย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับหน้ากากไม้อันหนึ่ง ซึ่งเป็นหน้ากากที่เป็นที่สิงสถิตของเทพโลกิ ซึ่งเทพโลกิเป็นเทพแห่งความวุ่นวาย ด้วยฤทธิ์เดชที่อยู่ในหน้ากากสามารถเปลี่ยนผู้ที่สวมใส่ให้มีพลังได้ แน่นอนว่าได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งความวุ่นวายแล้วมีหรือที่พลังจะธรรมดา พลังที่ได้มาก็จะมีความกวนประสาท ขี้เล่น(เกินไป) ตลอดๆ โดยเรื่องราวจะดำเนินผ่านตัวละครที่ชื่อว่า Stanley Ibkiss ที่หมาของเจ้าตัวไปพบหน้ากากโดยบังเอิญ ซึ่ง Stanley ก็มักใช้หน้ากากในการแก้ปัญหาของเขา ไม่ว่าจะเป็นการแก้เผ็ดเจ้าของห้องเช่านิสัยเสีย ไปจนถึงการช่วยเหลือผู้อื่นแบบกวนๆ ก็ทำให้เรื่องราวมีสีสันชวนน่าติดตาม 3.Popeye (ป๊อปอาย)เรื่องนี้ อาจไม่จัดอยู่ในหมวดหมู่ เก่า(ไม่มาก) สักเท่าไหร่ เพราะเอาเข้าจริง ป๊อปอาย ถือเป็นการ์ตูนที่เก่ามาก ย้อนกลับไปในปี 2472 หรือ ค.ศ. 1929 คิดดูว่าเก่ากว่าสงครามโลกครั้งที่ 1 อีก ถือว่าเป็นอะไรที่คลาสสิค เป็นการ์ตูนที่ยังคงคอนเซ็ปง่ายๆที่อยากสอนให้เด็กกินผัก ก็ต้องดูเรื่อง ป๊อปอาย กะลาสีที่พอกินผักโขมทีไร ก็จะมีพละกำลังขึ้นมาพร้อมสู้ตัวร้ายเพื่อช่วยเหลือยอดหวานใจโอลีฟเสมอ ซึ่งเราขอสารภาพว่าผักโขมที่ว่าเหม็นเขียว ก็กลายเป็นผักจานโปรดของคนเขียนด้วยเหมือนกันเพราะเรื่องนี้ ว่าแล้วก็เดินไปหยิบผักโขมมากินเล่นจิ้มน้ำพริกดีกว่า 4. Tom and Jerry (ทอมแอนเจอร์รี่)การ์ตูนอมตะอีกเรื่องที่ยังคงคอนเซ็ปอมตะตลอดกาลในการวิ่งไล่จับ เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดเยอะ เพราะคงไม่มีใครไม่รู้จัก เจ้าหนูเจอร์รี่ กับเจ้าแมวทอม ที่วิ่งไล่กันมามากกว่าหลายทศวรรษก็ยังจับไม่ได้สักกะที เนื้อเรื่องที่เข้าใจง่าย ขบขัน ที่ดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ อีกทั้งในหลายๆตอน ก็ยังแฝงไปด้วยมิตรภาพ (รึเปล่า?) ระหว่างเจ้าแมวทอมและเจ้าหนูเจอร์รี่ ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่อยู่ในใจเราจนถึงทุกวันนี้ 5. Samurai Jack (ซามูไรแจ็ค)แหม่ ถ้าใครเป็นสาวก cartoon network ถ้าไม่รู้จักเรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ซะแล้ว กับซามูไรหลงยุค ที่ถูกจอมมารส่งไปในยุคอนาคต และพยายามหาทางย้อนกลับไปยุคของเขาเอง บางตอนที่เราได้ดูนั้นกลับพบว่าหลายครั้งที่ซามูไร แจ๊คสามารถกลับไปที่โลกของเขาได้ ถ้าเขาเลือกตัวเองก่อนคนอื่น แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องนี้คงไม่ติดลิสต์การ์ตูนที่เราชอบจนถึงทุกวันนี้หรอก 6. Dexter's labatory (ห้องทดลองของเด็กซ์เตอร์)หากใครยังจำได้กับเจ้าหนูอัจฉริยะผมส้ม ตัวเล็ก นามว่า เด็กซ์เตอร์ กับพี่สาวตัวกวน ดีดี้ ที่มักเต้นบัลเลต์ และแอบเข้ามาที่ห้องทดลองลับของเด็กซ์เตอร์เสมอล่ะก็ เราบอกได้เลยว่า คุณได้เกิดในยุคเดียวกับเรา ฮ่าๆ คือเรื่องนี้เราชอบหน้าตาติดรำคาญพี่สาวตัวเองของเด็กซ์เตอร์มาก เราว่าถ้าเรื่องนี้ใครมีน้องชาย หรือใครมีพี่สาว น่าจะอินได้ง่ายเลยทีเดียว เพราะเรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า "ต่อให้เราเป็นอัจฉริยะ เราก็มักแพ้ทางพี่ตัวเองเสมอ" (ฮา) 7. Scooby-Doo! (สกูบี้-ดู)"ไหน..หมา?" ประโยคติดหูจากเจ้าตูบแสนตะกละที่ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นหมาที่ชื่อว่า สกูบี้ดู กับแก๊งนักสืบวัยรุ่น อันประกอบด้วย เฟรด แช็คกี้ เวลม่า และเดฟเน่ ชาวแก๊งนี้ที่มักพาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในสถานการณ์แปลกๆ ที่มีผู้ต้องสงสัยเป็นผี(ปลอม)และสัตว์ประหลาด(ปลอม) เสมอๆ แต่ก็มีบางครั้งที่เจอดีเข้าให้เหมือนกัน เป็นการ์ตูนนักสืบที่สนุก ครบทุกรส ไม่ว่าจะลี้ลับ ตลก ผจญภัย และที่เป็นสีสันในเรื่องก็หนีไม่พ้นหมาพูดได้ สกูบี้ดู นั่นเอง 8. Powerpuff Girls (เดอะพาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์)"สารพัดของกุ๊กกิ๊ก" "โมโจ โจโจ้""สารเคมี X"คือสามคำที่พูดขึ้นมาแล้วคนต้องนึกถึงเรื่อง พาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์ แน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ สามสาวทรงพลังและน่ารักของศาสตราจารย์ยูโทเนียม ที่สร้างจาก น้ำตาล เครื่องเทศ สารพัดของกุ๊กกิ๊ก และสารเคมี X เกิดเป็น พาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์ ที่ประกอบด้วย บลอสซัม(สีแดง) บัตเตอร์คัพ(สีเขียว) และบับเบิลส์(สีฟ้า) ซึ่งสามสาวก็จะมีภารกิจช่วยโลกและขจัดเหล่าร้ายในทุกๆวัน และคู่ปรับตัวฉกาจก็คือ โมโจ โจโจ้ เจ้าลิงอัจฉริยะที่เคยเป็นสัตว์เลี้ยงผู้ช่วยของศาสตราจารย์ยูโทเนียมนั่นเอง 9. The Adams family (ครอบครัวแอดดัมส์)เสียงดีดนิ้ว2เปลาะ และเสียงเปียโนแบบออร์แกนเครื่องใหญ่ ที่เป็นเอกลักษณ์หลักของดนตรีเปิดเรื่อง Adams family ยังคงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เรายังจำได้จนถึงปัจจุบันและคิดถึง ครอบครัวแบบผีๆ ที่ประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูก 2 คน อา ยาย และพ่อบ้านร่างยักษ์หน้านิ่ง และลักษณะนิสัยประหลาดผิดมนุษย์(ปกติ) เช่น การเล่นกัน(ไล่ฆ่า)ของสองพี่น้องระหว่าง Wednesday และ Pugsley ซึ่งคงไม่พี่น้องคู่ไหนบนโลกที่จะเล่นได้โหดเหมือนสองพี่น้องคู่นี้อีกแล้ว ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราคิดว่ามันตลกแบบดาร์คๆ และมีความสยองขวัญแบบย่อยง่าย เป็นเสน่ห์ที่ทำให้เรื่องนี้พิเศษ และคงไม่มีครอบครัวไหนที่จะแปลกและหลอนได้เท่าครอบครัวนี้อีกแล้ว...จริงมั้ย? ถ้าไม่จริงหรือว่าคุณมีมือที่ขาดเป็นพี่เลี้ยงหล่ะ? 10. Road runner (โร๊ด รันเนอร์)"บี๊ปๆ" ยังจำเสียงนี้กันได้อยู่มั้ย? มันคือเสียงของตัวละครนกโร๊ด รันเนอร์ ที่เป็นนกที่มีฝีเท้าที่ไวมาก แต่พูดไม่ได้ ที่หนีการจับของหมาป่าโคโยตี้ได้เสมอ เจ้าหมาป่าโคโยตี้ในเรื่องก็ช่างขยันสรรหาวิธีการในการไล่จับเจ้านกโร๊ด รันเนอร์ ต่างๆนานา ไม่ว่าจะใช้ระเบิด วางกับดัก สร้างภาพลวงตาก็ยังไม่สามารถจับได้แม้แต่ปลายขนของเจ้านกโร๊ด รันเนอร์ ซึ่งก็ไม่เข้าใจจนถึงปัจจุบันว่า ถ้าจะเหนื่อยขนาดนี้ เปลี่ยนเหยื่อจะง่ายกว่ามั้ย ฮ่าๆ แต่ถ้าเปลี่ยนเหยื่อ เรื่องราวไล่จับเหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้นล่ะสิ โถ... ถ้าจะเหนื่อยไปอีกนานนะเนี่ย ภาพปก: จากPIC 1: cartoon network/ PIC 2 : amazon prime/ PIC 3 : Retro Toons/ PIC 4 : WB Kids/ PIC 5 : Cartoon Network Asia/ PIC 6 : cartoon network UK/ PIC 7 : cartoon network/ PIC 8 : cartoon network/ PIC 9 : Warner Brother/ PIC 10 : WB Kids