ปัญหาใหญ่ของคนเป็นหนี้ ท้ายที่สุด (แต่ไม่สุดท้าย) ก็คือการ “ถูกฟ้อง” และมักจะมีคำถามต่อว่า จะต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง บางคนไม่มีงานประจำ มีเพียงรายได้จากการรับจ้างบางครั้งบางคราว และไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ให้ยึด บางคนมีครบหมดทุกอย่าง ทั้งงานประจำและทรัพย์สิน บางคนอาจมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้เราต้องตัดสินใจ ว่าจะไปศาลหรือไม่ หากไปจะมีข้อได้เปรียบอะไรไปต่อสู้ในศาลบ้างหรือเปล่า ในบทความนี้เรามีข้อแนะนำสิ่งที่เป็นความกังวลอีกหนึ่งอย่างก็คือ หากไม่ได้จ่ายตามที่เจ้าหนี้ฟ้องศาล เราจะต้องติดคุกชดใช้หรือไม่? ตอบตรงนี้ให้สบายใจได้เลยว่า “ไม่ติดคุก ไม่ติดคุก ไม่ติดคุก” นะจ๊ะ.. เพราะเป็นคดีแพ่ง... OK นะคะ... ขั้นตอนต่อไป เราไปดูกันว่าจะต้องเตรียมความพร้อมยังไงกันบ้างเครดิตภาพ : Free-Photosการเตรียมตัวเพื่อไปสู้คดีตามหมายศาล 1. ทำความเข้าใจคำฟ้องคำฟ้องจะมากจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราไม่จ่ายมานานแค่ไหนแล้ว เจ้าหนี้จะระบุมาให้เราทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินต้น / ดอกเบี้ย / ค่าติดตามทวงถาม / เบี้ยปรับ / ค่าธรรมเนียม และอื่น ๆ ลองเคาะคำนวณแยกออกมาพิจารณาดู ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ย หากเกินกว่ากฎหมายกำหนดที่ 15% ต่อปี ก็สามารถนำไปเป็นข้อต่อสู้ได้เครดิตภาพ : jackmac342. หาข้อต่อสู้ที่ได้เปรียบให้เจออายุความหนี้บัตรเครดิต 2 ปี / บัตรกดเงินสด,สินเชื่อส่วนบุคคล 5 ปี / สัญญาเงินกู้ 10 ปี และดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด 15% ต่อปี ดังนั้นให้ไปดูว่าหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรอื่น ๆ ของเรา มีข้อต่อสู้ที่ได้เปรียบส่วนไหนอยู่บ้าง จะให้ดี หาผู้รู้ที่ชำนาญทางนี้เข้ามาช่วยอีกแรง เพราะเรามีโอกาสชนะคดีสูงมาก (เค้าชนะกันมาเยอะแล้ว หากเข้าข่ายได้เปรียบ)เครดิตภาพ : QuinceMedia3. ไปศาลตามนัดและคุยกับทนายโจทก์ด่านแรกเราจะเจอกับทนายโจทก์ก่อนใช่ไหม? อย่าไปกลัวหากเค้าจะมีคำพูดแกมขู่เล็ก ๆ เพราะเป็นเรื่องปกติ ให้อดทนและไม่ต้องไปสนใจ แต่ให้ถามเลยว่า “จะลดให้เท่าไร” เพราะทางเจ้าหนี้จะมียอดที่หักส่วนลดในมืออยู่แล้ว ให้ขอต่อรองไปเลย เผื่อจะได้ยอดที่พอใจ ใกล้เคียงกับที่เราตั้งใจเอาไว้ แต่หากไม่ลงตัว ก็ไปต่อสู้กันในศาล โดยใช้ข้อได้เปรียบในข้อ 2 เข้าต่อสู้ (ถ้ามี) และให้ศาลท่านตัดสินให้เครดิตภาพ : mohamed_hassanทิ้งท้ายไว้ตรงนี้ว่า หากเราไม่ไปศาล อาจจะมีการพิจารณาคดีลับหลังได้ ด้วยเหตุของการผิดนัดของเราเอง โดยศาลจะตัดสินให้เราใช้หนี้ไปตามคำฟ้อง และหากเราไม่สนใจใช้หนี้ตามกำหนด เรื่องก็จะเดินไปสู่ขั้นตอนของการบังคับดี เพื่อยึดทรัพย์ต่อไป ซึ่งเป็นข้อเสียของผู้ถูกฟ้องที่มีทรัพย์สินอย่างมาก แต่หากเราไม่มีทรัพย์ใด ๆ ก็เป็นอันรอดพ้นเพิ่มเติมอีกนิดว่า ระยะเวลาบังคับคดีคือ 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลพิพากษา ดังนั้น 10 ปีนี้ หากเจ้าหน้าที่บังคับคดีสืบทราบได้ว่า เรามีทรัพย์ใด ๆ หรือทำงานมีเงินเดือน ก็จะเข้าอายัดได้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน และส่วนนี้คือสิ่งที่เราต้องระวัง หากคิดจะไม่ไปศาลตามหมายฟ้องเครดิตภาพปก : jarmoluk