ประเทศฝรั่งเศสนับว่าเป็นอีกประเทศอันดับต้น ๆ ของโลก ที่ใครหลายคนฝันว่าอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต เนื่องจากเป็นประเทศที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาหารเลิศรส แฟชั่นเลิศหรู รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ชวนตื่นตาตื่นใจ ส่วนมากเรามักจะคุ้นเคยกับการกล่าวถึงเมืองปารีสในแง่มุมต่าง ๆ ดังนั้นบทความนี้ผู้เขียนขอแนะนำเมืองอื่น ๆ ของประเทศฝรั่งเศสที่นอกเหนือจากเมืองปารีส เพื่อเป็นอีกตัวเลือก หากคุณผู้อ่านกำลังวางแผนเพื่อไปเที่ยวที่ประเทศฝรั่งเศส 1. เมืองLyon (ลียง) นับว่าเป็นอีกเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศสรองจากเมืองปารีส เป็นเมืองที่มีการคมนาคมสะดวกสบาย เมื่อเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจากเมืองปารีสมาเมืองลียงจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองลียงที่ขึ้นชื่อคือโบสถ์ฟูร์วิแยร์(Fourvière) เป็นโบสถ์ที่ตั้งอยู่บนภูเขา นักท่องเที่ยวมักขึ้นไปชมวิวเมืองลียงบนโบสถ์แห่งนี้ ขอบคุณภาพจาก: Pixabay ในทุก ๆ ปีช่วงอาทิตย์แรกของเดือนธันวาคมจะมีงานเทศกาลแสงไฟ หรือเรียกว่าLa Fête des Lumières ในภาษาฝรั่งเศส โดยจะมีการประดับหลอดไฟและมีการแสดงโชว์แสงไฟรอบเมืองเพื่อเป็นการขอบคุณพระแม่มารีย์ของชาวคริสต์ เป็นอีกเทศกาลที่ไม่ควรพลาดหากวางแผนมาเที่ยวเมืองนี้ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ภาพถ่ายโดยผู้เขียน นอกจากนี้เมืองลียงยังถือว่าเป็นมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร โดยมีเมนูอาหารประจำท้องถิ่นที่นักท่องเที่ยวต่างต้องลิ้มลองสักครั้งเมื่อมาเยือน เช่น อองดุยแยท (Andouillette) คือไส้กรอกที่ทำจากหมูและไส้หมู หมักด้วยไวน์ ใส่หัวหอมและเครื่องเทศต่าง ๆ 2. เมืองAnnecy (อานซี) เป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์คล้ายกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ล้อมรอบด้วยภูเขาจากเทือกเขาแอลป์ ซึ่งหากนั่งรถไฟจากเมืองนี้ไปประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงเมืองเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้เมืองนี้ยังได้รับฉายาว่าเป็นเมืองเวนิสของฝรั่งเศสเพราะมีลักษณะเมืองคล้าย ๆ กับเมืองเวนิสประเทศอิตาลี คือล้อมรอบด้วยน้ำจากทะเลสาบAnnecy โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือเพื่อชมวิวบรรยากาศรอบเมือง ขอบคุณภาพจาก: Pixabay 3. เมืองAix-en-Provence (เอ็กซองโพรวองซ์) เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องการมาเดินชมทุ่งดอกลาเวนเดอร์ หากต้องการชมดอกลาเวนเดอร์ควรไปช่วงเดือนเมษายนถึงกลางเดือนมิถุนายน หากไปหลังจากนั้นดอกลาเวนเดอร์จะบานและร่วงหมดต้น ทำให้พลาดโอกาสถ่ายรูปสวย ๆ นอกจากนี้สามารถเดินเที่ยวชมในตัวเมือง เพื่อเลือกซื้อของฝากที่ชาวบ้านเอามาขาย โดยมีให้เลือกซื้อมากมาย ของฝากขึ้นชื่อของเมืองนี้เช่น ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ทำจากดอกลาเวนเดอร์ มะกอกดอง มะเขือเทศแห้ง เป็นต้น ขอบคุณภาพจาก: Pixabay 4. เมืองToulouse (ตูลูส) เป็นเมืองที่มีความคึกคักและมีสีสันตามสไตล์เมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เมืองนี้ได้รับขนานนามว่าเป็นเมืองสีชมพู หรือLa ville rose ในภาษาฝรั่งเศส โดยมีเอกลักษณ์คือบ้านเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วเมืองทำจากอิฐแดง ถือว่าเป็นอีกเสน่ห์ของเมืองตูลูสที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเมืองนี้ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน 5.เมืองSaint-Malo (แซงต์มาโล) เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นBrittany ทางทิศตะวันตกของประเทศฝรั่งเศส ติดกับฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเกาะล้อมรอบด้วยทะเล น้ำทะเลทางฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกจะค่อนข้างใสสะอาดเมื่อเทียบกับทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส ดังนั้นหากใครต้องการมาพักผ่อนตากอากาศ เล่นน้ำทะเล เดินเล่นแบบสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ขอแนะนำให้มาเมืองนี้ค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ขอบคุณภาพปกจาก: Pixabay