The society เรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มนักเรียนที่ต้องปกครองกันเองหลังจากทุกอย่างเปลี่ยนไป เริ่มจากการไปทัศนศึกษานอกเมืองแต่เกิดพายุเข้าอย่างนักจึงต้องหยุดชะงักรีบกลับเมืองทันที แต่พบว่าเมืองที่ทุกคนเติบโตนั้นไม่มีผู้ปกครองคนใดอยู่เลยแม้แต่เพียงคนเดียวหลังจากพายุได้ปิดเส้นทางเข้าออกเมือง ถนนบางสายถูกตัด เป็นเหตุการณ์ที่หาสาเหตุไม่ได้ ทุกคนรวมตัวกันเพื่อหาทางออก มีผู้นำสูงสุดแต่ใครหลายคนไม่ได้ให้ความร่วมมือ เกิดความขัดแย้งบ่อยครั้งนำไปสู่โศกนาฏกรรม นอกจากนี้ยังตั้งกลุ่มออกเดินทางเพื่อไปหาคำตอบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สังคมเล็กๆ ปกครองโดยนักเรียน เป็นเกมทางการเมืองในรูปแบบหนึ่ง มีการพยายามยึดอำนาจสอบสวนการฆาตกรรม ใครที่ชื่นชอบซีรีย์แนวนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน ดูได้เรื่อย ๆ เผลออีกทีจบซีซั่นซะแล้ว ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชื่นชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ สถานการณ์เช่นนี้ยากต่อการควบคุมให้อยู่ในความดูแลของผู้นำเพียงคนเดียว ซึ่งแต่ละคนมีความต้องการที่ต่างกัน อยากจะออกนอกลู่ที่ผู้นำวางเอาไว้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะส่วนรวมต้องมาก่อนเป็นอันดับหนึ่ง ทุกคนต่างก็อยากมีชีวิตรอดและค้นหาคำตอบของสิ่งที่เกิดขึ้น ความโดดเด่นของเรื่องเลยก็คือการแบ่งพรรคออกเป็น 2 ฝั่ง ความสนุกอยู่ตรงนี้ค่ะ ใครมีเห็นด้วยกันฝั่งก็เลือกฝั่งนั้น แต่ความเห็นแก่ตัวมีอยู่ในทุกคน ในท้ายที่สุดแล้วจะมีชีวิตรอดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้นำที่มีอายุเท่ากับทุกคน Lucifer หรือ ยมทูตล้างนรก ซีรีย์ตลกขบขันมีด้วยกันถึง 5 season ยมทูตที่ลาพักร้อนมายังโลกมนุษย์พบกับนางเอกคุณแม่ลูกเดี่ยว มีอาชีพคือตำรวจ แน่นอนว่าเรื่องจะต้องดำเนินไปในทิศทางของอาชญากรรม ความดื้อของลูซิเฟอร์พยายามขอเป็นผู้ช่วยเดคเกอร์ ถึงเขาดูจะไม่น่าเชื่อถือไปบ้างเพราะการพูดจาเกี่ยวกับพระเจ้าผู้เป็นพ่อของเขาเอง ที่ลงโทษด้วยการให้ปีกแต่ลูซิเฟอร์ไม่ต้องการ หรือส่งพี่ชายคนโตมาตามดูพฤติกรรมและขอให้กลับไปยังนรก อีกทั้งการที่ถูกกลั่นแกล้งเขามักจะโทษผู้เป็นพ่ออยู่เสมอ แต่เพราะด้วยอะไรบ้างอย่างที่เคยผูกพันธ์กับเดคเกอร์เมื่ออดีต ทำให้เขายังคอยตามไปทำงานด้วยทุกที่และเกิดความรักขึ้นกับคุณตำรวจ ถึงลูซิเฟอร์จะดูเล่นตลกในสายตามนุษย์แต่เขาจริงจังมากเลยทีเดียว เป็นซีรีย์ดูได้เพลินๆ ไม่มีเบื่อ ผู้เขียนกลับไปดูรอบที่2แล้ว เพราะน้ำเสียงของพระเอกน่าฟังมาก หยุดดูไม่ได้เลยหล่ะค่ะ ในเนื้อเรื่องจากเน้นหนักไปทางอาชญากรรมที่ลูซิเฟอร์เป็นผู้ตัดสินว่าใครจะไปนรกหรือสวรรค์ สอดแทรกเรื่องราวระหว่างพระเจ้าที่กำลังลงโทษลูกตัวเอง โดยลูซิเฟอร์เองเขาพูดเอาไว้แบบนี้ ความรักของพี่ชายที่ปลูกกับมนุษย์และมีครอบครัวด้วยกัน เป็นปัญหาว่าจะเอาลูกน้อยไปอยู่ที่สวรรค์หรือโลกมนุษย์ เต็มไปด้วยข้อคิดในด้านความรักของพ่อแม่ ตัวพระนาง และหญิงคนแรกของโลกนั่นคืออีฟที่มั่นคงต่อลูซิเฟอร์ Trinkets 3 สาว3 สไตล์ที่มีสถานะทางสังคมแตกต่างกันแต่กลับเป็นเพื่อนกันได้ดีเยี่ยม เพราะนิสัยชอบจิ๊กของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของพวกเธอจากการเข้ารับบำบัดนิสัยนี้นี่เองที่ทำให้ค่อย ๆ เริ่มสนิทสนมและไว้เนื้อเชื่อใจกัน ซึ่งต่างคนต่างมีปัญหาของตัวเองและความรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เป็นอยู่ นอกจากนี้เนื้อเรื่องยังได้บอกเล่าเส้นทางความรักของแต่ละคนว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เป็นอีกหนึ่งซีรีย์ที่ไม่ยาวมาก ตอนละไม่เกิน 30 นาที ดูจบได้ภายใน 1 วัน ใครที่ชื่นชอบแนวนี้ตามไปดูกันได้เลยค่ะ พื้นฐานของครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่จะหล่อหลอมให้ลูกเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม แต่ด้วยนิสัยของตัวหลักแล้วไม่ควรทำตามอย่างยิ่งนะคะ เป็นแนวคอมมีดี้ โรแมนติกดูคลายเครียดได้ค่ะ The mist หมอกปริศนาที่มีสัตว์ประหลาดคอยฆ่าชีวิตคนเมื่อเข้าไปในหมอกนี้ เมืองทั้งเมืองถูกปิดลง ผู้คนที่อยู่ตามอาคารไม่สามารถออกไปขัางนอกได้ บางตัวละครดื้อดึงที่จะออกไปข้างนอกแต่กลับถูกคร่าชีวิตอย่างสยดสยอง ตลอดทั้งเรื่องผู้เขียนเองก็เอาใจช่วยตัวละครอย่างเควินว่าจะสามารถไปหาครอบครัวได้หรือไม่ อันตรายที่มองไม่เห็นเมื่ออยู่ในหมอก สำหรับผู้เขียนเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นซีรีย์ยังไม่ว้าวมากทำไร ดูไม่มีอะไรให้ติดตาม ตอนจบค่อนข้างผิดหวังเพราะไม่สมเหตุสมผลที่ตัวละครนี้ต้องเสียชีวิต หลาย ๆ ตัวละครออกจะน่าเบื่อไปเสียหน่อย ถ้าใครไม่ติดอะไรมากก็ดูได้เรื่อย ๆ ค่ะ Dark ซีรีย์เยอรมัน ใครที่ดูจนจบและเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดถือว่าจีเนียส! เพราะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวใน 3 ช่วงเวลาของตัวละครรุ่นพ่อแม่ ทุกอย่างเริ่มต้นจากการหายตัวไปของเด็กวัยรุ่น ซึ่งตรงกับในปี1986 ได้มีเหตุการณ์แบบเดียวกันเกิดขึ้น ในทุก ๆ 33 ปีจะเกิดเรื่องราวลึกลับที่ทุกคนพยายามจะคำตอบกับการข้ามเวลาไปมา การกระทำในอดีตส่งผลถึงปัจจุบันและปัจจุบันส่งผลถึงอนาคต เป็นเรื่องที่ซับซ้อน ลึกซึ้ง ดูไปดูมาถึงกับเกิดคำถามมากมาย ต้องตั้งใจดูมากค่ะ เป็นเรื่องที่มีคนวิเคราะห์เจาะลึกลงไป สามารถไปตามอ่านเพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องเพิ่มเติมได้ เป็นอีกหนึ่งซีรีย์ที่เหมือนไม่ใช่แค่ซีรีย์อย่างเดียว หากดูเพลิน ๆ คลายเครียดแนะนำเลยว่า ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะยิ่งดูยิ่งเครียด เรื่องนี้กลิ่นอายคล้ายกับ stranger things แต่การดำเนินเรื่องของ Dark ผู้เขียนคิดว่าเข้มข้นมากกว่า เพราะเป็นการย้อนเวลาใน 3 ช่วง ประกอบการการนำเสนอค่อนข้างที่จะเอื่อยไปบ้าง บางอย่างเมื่อเฉลยออกมาก็รู้สึกว่าคุ้มค่ามากกับการที่อดทนดู โดยรวมแล้วมีทั้งข้อดีและข้อเสียสผมกันไป ต่อให้ตั้งใจดูก็มีหลายมุมที่เรา เอ้ะ? บ้างเหมือนกันค่ะ ในส่วนของการกระทำของตัวละครที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เมื่อได้ย้อนกลับไปในอดีตเราก็เข้าใจมากขึ้นว่าทำไมเขาถึงเป็นเช่นนี้ เป็นอีกเรื่องที่ผู้เขียนชื่นชอบมากเป็นพิเศษ The half of it เอลลี่ ชู เธอเรียนเก่งมากแต่ด้วยนิสัยไม่ชอบสุงสิงกับใครทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อน แต่กลับเป็นที่รู้จักกันดีเพราะเธอเก่งการเขียนเรียงความจึงมักจะรับจ้างจากคนในชั้น เนื้อเรื่องก็คือพอลจ้างให้เธอเขียนจดหมายรักหาเอสเตอร์ เป็นภาพยนตร์โรแมนติกแต่ไม่ค่อยมีฉากกุ๊กกิ๊ก จะแทรกคำคมความรักจากหนังสือไว้เยอะมาก ตัวผู้สื่อสารก็คือเอลลี่และเอสเตอร์ ส่วนพอลนั้นเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกนี้เลย เดาไม่ถูกเลยว่าใครจะลงเอยกับใครกันแน่ ในตอนจบค่อยข้างดี แต่ผู้เขียนอยากให้มีภาคต่อจากคำพูดทั้งของเอลลี่และเอสเตอร์ว่าจะกลับมาเจอกันในอีก 3-4 ปี ข้างหน้า และพอล เขาจะเป็นอย่างไรต่อจากนั้น ผู้เขียนให้9/10 โดยเฉพาะคำพูดของเอลลี่ที่พูดว่า "ความรักไม่ใช่การอดทน เมตตา และถ่อมตน ความรักคือความยุ่งเหยิง เลวร้าย เห็นแก่ตัว และกล้าหาญ" เมื่อมองในมุมมองของคนที่ไม่อินกับความรักแล้ว ข้อความนี้ไม่มีอะไรที่ไม่จริงเลยค่ะ หากรักกันควรรักด้วยใจจริง ไม่อดทนกับความรัก พบเจอกับปัญหาที่แก้ไม่ได้หลายต่อหลายครั้ง ก็อธิบายได้แล้วว่าเป็นความยุ่งเหยิงที่ควรจะเลิกลากันไป ใครที่ชื่นชอบกับนิยาม คำคมความรัก เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด The Perfect Date ภาพยนตร์โรแมนติกไม่ติดเรท เกี่ยวกับบรู๊คส์ เขามีความพยายามที่จะหาคำตอบในชีวิตว่าต้องการอะไร เขามีความฝันที่จะเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังแต่ด้วยสถานะของทางบ้าน บรู๊คส์จึงพยายามหาเงินด้วยตัวเองโดยการสร้างแอปพลิเคชั่นหาคู่ขึ้นมา เขาจะเป็นคู่เดตให้กับสาว ๆ ที่ต้องการหาคู่เดตปลอม ๆ เพื่อหลอกใครสักคน เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก ไม่เครียด ดูได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ จะเห็นความน่ารักของพระนางที่เคมีตรงกั๊น ตรงกัน ผู้เขียนชื่นชอบกับความพยายามของพระเอกที่อยากเข้ามหาลัยวิทยาลัยชื่อดังแต่ไม่มีจำนวนเงินมากพอ จึงหาเงินด้วยตัวเองเพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีมาก ๆ นะคะ Reality High ดานี่คนธรรมดา สไตล์การแต่งตัวของเธอเชยมากถึงขั้นที่ว่าไม่มีเพื่อนคนไหนชอบ แต่เธอตกกลุมรักแฟนของเพื่อนร่วมชั้น แต่ไม่นานทั้งสองก็เลิกกัน ด้วยความที่เธอเป็นอาสาสมัครอยู่ที่คลีนิคสัตว์จึงได้ใกล้ชิดกับคนที่ชอบแอบ นั่นคือคาเมรอน เขาใจดีกับดานี่มาก ๆ อีกทั้งยังชวนไปปาร์ตี้ที่บ้าน อดีตแฟนของคาเมรอนเองก็ดูไม่ชอบดานี่เท่าไรนักจึงแสร้งทำว่าสนิทกัน โดยชวนไปช้อปปิ้งพร้อมกับถ่ายรายการเรียลลิตี้ของเธอ นั่นเป็นเหตุผลที่ดานี่ต้องห่างจากเพื่อนสนิทและคาเมรอนเองเพราะเธอหลงไปกับสิ่งใหม่ๆ ที่อเล็กซาให้ เนื้อเรื่องง่าย ๆ ดูได้สบาย ๆ ไม่เครียดมาก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ ข้อคิดในเรื่องนี้ก็คือ ไม่ควรหลงระเริงไปกับสิ่งภายนอกจนลืมความเป็นจริงและผู้คนรอบข้าง ต่อให้เราจะสนุกกับชีวิตมากแค่ไหนก็ตามแต่ต้องไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง และครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อมีปัญหามาแล้ว คนแรกที่จะอยู่กับเราก็คือ ครอบครัว อีกหนึ่งข้อคิดที่เห็นได้ชัดก็คือ เพื่อน เมื่อเพื่อนทำผิดแล้ว ควรตักเตือนเขาและแก้ไขสิ่งที่ควรจะถูกต้อง แต่เมื่อเขาไม่ฟัง เราทำได้แค่ถอยห่างออกมา เลือกคบกับคนที่ดีและไม่เหยียดคนอื่น รูปภาพหน้าปกโดยผู้เขียนขอบคุณรูปภาพจาก รูปที่1 เดอะ โซไซตี / รูปภาพที่2 ยมทูตล้างนรก/ รูปภาพที่3 เพื่อนลัก นักจิ๊ก / รูปภาพที่4 เดอะ มิสต์ / รูปภาพที่5 ดาร์กรูปภาพที่6 รักครึ่งๆ กลางๆ / รูปภาพที่7 ผู้ชายขายรัก / รูปภาพที่8 #เรียลลิตี้ไฮ