Ted Talks คือเวทีการพูดที่จะเชิญผู้ที่เชี่ยวชาญในแต่ละศาสตร์มาแลกเปลี่ยนความรู้หรือข้อคิดต่าง ๆ ภายใต้คำขวัญที่ว่า “ความคิดที่ควรค่าแก่การเผยแพร่” (Ideas Worth Spreading) โดยใช้เวลาไม่นานมาก บางคลิปก็ 5 นาที บางคลิปก็ 30 นาที แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 17-18 นาทีได้ ถึงแม้จะเป็นคลิปที่ระยะเวลาไม่นานมากแต่ความรู้ที่ได้อัดแน่นและมีประโยชน์อย่างมหาศาลแน่นอน เนื่องจากเป็นแหล่งความรู้ที่ผมมักจะไปเยี่ยมชมอยู่บ่อย ๆ มีหลายคลิปที่ดูแล้วผมชื่นชอบและคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านเช่นเดียวกับผม แต่เนื่องด้วยคลิปใน Ted Talks มีหัวข้อค่อนข้างหลากหลาย และมีจำนวนคลิปเยอะมาก ผมจึงขอรวบรวบคลิปที่ผมคิดว่าน่าสนใจมาแนะนำและสรุปคร่าว ๆ ให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกัน โดยบทความนี้จะขอแนะนำ 5 คลิปที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา mindset สำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะผมมองว่าความคิดเป็นต้นกำเนิดของการกระทำต่าง ๆ หากเรามีทัศนคติที่ดีก็จะนำพาการกระทำไปสู่หนทางที่ดีได้ หากอยากรู้แล้วว่ามีคลิปไหนน่าสนใจบ้างเชิญอ่านได้เลยครับ**หากสนใจดูคลิปเพิ่มเติมก็คลิกไปที่ชื่อคลิปได้เลยครับ ผมได้ใส่ลิงค์ไว้ให้แล้ว1. Grit: the power of passion and perseverance | Angela Lee Duckworth Angela Duckworth เธอเป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ผู้เขียนหนังสือที่ชื่อว่า “GRIT : The Power of Passion and Perseverance” ซึ่งใน Ted talks นี้เธอได้พูดถึงตอนที่เธอทำงานเป็นครูสอนเด็กเกรด 7 (เทียบเท่าม.1) และได้พบว่าเด็กที่ได้เกรดเฉลี่ยสูงในการเรียนกลับไม่ใช่เด็กที่มีไอคิวสูงหรือเด็กที่มีพรสวรรค์ในการเรียน จากนั้นเธอจึงลาออกจากการเป็นครูไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทเพื่อทำการวิจัยว่าอะไรที่ทำให้เด็ก ๆ เหล่านี้ประสบความสำเร็จได้ต่างกัน สิ่งที่เธอค้นพบจากการวิจัยกับเด็กหลาย ๆ คน และกลุ่มคนจากหลาย ๆ อาชีพ จนได้ข้อสรุปว่าปัจจัยนั้นคือ “ความเพียร”2. The power of believing that you can improve | Carol Dweck ศาสตราจารย์แครอล ดเว็ค เป็นที่รู้จักกันดีจากหนังสือขายดีของเขาที่ชื่อว่า “Mindset” ที่โด่งดังมาก ๆ จนเป็นหนึ่งในหนังสือที่ บิล เกตส์ แนะนำให้อ่านเลยที่เดียว ใน Ted talks นี้เธอได้พูดถึงปฏิกิริยาที่เด็ก ๆ ใช้ตอบสนองเวลาเจอกับปัญหาหรือความล้มเหลวที่เข้ามา ซึ่งบ่งบอกถึงกรอบความคิดของเด็ก ๆ เหล่านั้น เด็กที่มีกรอบคิดแบบพัฒนาได้(growth mindset) จะชอบความท้าทาย และมองว่าปัญหาที่กำลังพบเจอคือโอกาสที่จะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองมากขึ้น ในขณะที่เด็กที่มีกรอบคิดแบบตายตัว(fixed mindset) จะมองว่าปัญหาคือตัวตัดสินความล้มเหลวของเขา ทำให้พวกเขาเศร้าและหดหู่ แต่ศาสตราจารย์แครอลบอกว่ากรอบคิดเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ โดยแนะนำให้ชมเด็ก ๆ อย่างสร้างสรรค์ โดยแทนที่จะชมความฉลาดหรือพรสวรรค์ ให้เปลี่ยนมาชมที่ความพยายาม ความมุ่งมั่น หรือกระบวนการคิดของเขาแทน3. Inside the mind of a master procrastinator | Tim Urban Ted talks นี้ฟังค่อนข้างสนุกเลยทีเดียวเพราะผู้พูดอย่าง Tim Urban ได้เล่าเรื่องของ “คนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง” ด้วยภาพการ์ตูนที่เข้าใจง่ายและค่อนข้างตลกเลยทีเดียว เขาได้อธิบายให้เห็นถึงภายในสมองของคนที่มีนิสัยผัดวันประกันพรุ่งว่าทำงานแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างไร และเขาได้สรุปไว้ว่าการผัดวันประกันพรุ่งมี 2 ลักษณะด้วยกันคือการผัดวันประกันพรุ่งแบบมีเส้นตายซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะแม้ว่าเราจะขี้เกียจในตอนแรกก็ตามแต่เมื่อมีเส้นตายมากำหนดมันทำให้เรารู้ว่าต้องทำให้เสร็จตามเวลาที่กำหนดนี้ และอีกลักษณะหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากังวลก็คือการผัดวันประกันพรุ่งแบบไม่มีเส้นตายกำหนด หากเป็นเช่นนี้ระยะเวลาที่ใช้ก็จะถูกเลื่อนไปเรื่อย ๆ จนอาจจะไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งทำให้เปลืองเวลาชีวิตอย่างมาก4. The skill of self confidence | Dr. Ivan Joseph Dr. Ivan Joseph พูดถึงเรื่องของ “ความเชื่อมั่นในตัวอง” เขาบอกว่าทักษะนี้เป็นสิ่งที่ฝึกฝนได้ ผ่านการทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะการทำแบบนี้จะทำให้ความประหม่าหายไปจนมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น หากรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองเรื่องไหนก็ฝึกฝนเรื่องนั้นบ่อย ๆ และอีกเรื่องที่สำคัญในการเสริมสร้างความมั่นใจคือ“การพูดกับตัวเอง” โดยเขาบอกว่ามีคนมากมายที่จะคอยบอกกับเราว่าเราทำไม่สำเร็จแล้วทำไมเรายังเป็นอีกคนที่จะต้องบอกตัวเองเช่นนั้นด้วย เพราะว่าความคิดของเราส่งผลต่อการกระทำของเราโดยตรง ฉะนั้นเราควรพูดให้กำลังใจตัวเองแทนที่จะพูดในแง่ลบกับตัวเอง และพยายามอยู่ให้ห่างจากคนที่บั่นทอนกำลังใจคุณด้วย และสิ่งหนึ่งที่ Dr. Ivan Joseph แนะนำไว้ตอนท้ายก็คือ “ไม่มีใครจะเชื่อในตัวคุณนอกจากคุณจะเชื่อเสียก่อน”5. Secrets of success in 8 words, 3 minutes | Richard St. John Ted talks คลิปนี้ถึงแม้จะสั้นเพียง 3 นาทีกว่า ๆ แต่ Richard St. John ได้อัดแน่นเนื้อหาแบบย่อยง่ายไว้ให้เราได้นำไปใช้ปรับเปลี่ยนวิธีคิดของเรา เขาได้ตอบคำถามให้เด็กนักเรียนม.ปลายคนหนึ่งที่ถามเขาว่า “ทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จ?” จนเขานึกขึ้นได้ว่าเขาทำงานอยู่กับ Ted ซึ่งเต็มไปด้วยคนที่ประสบความสำเร็จ เขาจึงใช้เวลา 7 ปี ในการสัมภาษณ์คนถึง 500 บทสัมภาษณ์ สรุปเคล็ดลับสู่ความสำเร็จออกมาได้ 8 ข้อดังนี้ (1)รักงานที่ทำ (2)ขยัน (3)ต้องเก่งที่สุดในด้านนั้น (4)มุ่งมั่น (5)ผลักดันตัวเอง (6)บริการผู้อื่น (7)ไอเดีย (8)อดทน และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้ นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความรู้ที่มีอยู่ใน Ted Talks เท่านั้น หากใครที่ชื่นชอบหาความรู้เพื่อนำมาพัฒนาตนเองผมแนะนำเลยครับ เพราะนอกจากจะได้ความรู้ทางวิชาการ ข้อคิดดี ๆ แล้วนี่ยังเป็นช่องทางหนึ่งที่ผมใช้ฝึกฟังภาษาอังกฤษอีกด้วย ผมมักจะได้ยินคนเขาแนะนำว่าถ้าอยากฝึกฟังภาษาอังกฤษก็ให้ฝึกกับการดูหนัง แต่สำหรับผมการดูหนังมันค่อนข้างนานและถ้ามัวแต่อ่าน subtitle ก็ทำให้ดูหนังไม่รู้เรื่อง นี่จึงเป็นช่องทางหนึ่งที่ผมคิดว่าเหมาะกับผมที่สุดละ ถ้าใครที่เริ่มฝึกฟังภาษาอังกฤษแล้วไม่ชอบการดูหนังแบบผมก็ลองฝึกผ่าน Ted Talks ได้นะครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกคนนะครับ :)ขอบคุณภาพประกอบจาก TED ภาพปก/ภาพที่1/ภาพที่2/ภาพที่3/ภาพที่4/ภาพที่5/ภาพที่7/ขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube ภาพที่6/