เรียกได้ว่าน่าเบื่อไปตามๆกันกับการหยุดพักยาวหนีโรคร้ายอย่างโควิด-19 ช่วงแรกๆอาจจะเป็นเหมือนฝันที่ไม่กล้าฝัน ที่คนคนหนึ่งจะกล้าฝันแต่การนอนอยู่บ้านไม่ทำอะไรเลยก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ หากแต่ยิ่งนานวันเข้าเริ่มรู้สึกว่าเอ๊ะ! ไม่มีอะไรจะทำหรือไม่มีอะไรจะดูแล้ว ฉะนั้นวันนี้ขอพาไปแนะนำหนังสยองขวัญที่มีทั้งอึดอัด โดนหลอกซ้ำซ้อนจากผีที่มีระดับ เรียกได้ว่าต่อให้ดูหนังสยองขวัญมากี่พันเรื่องก็ต้องโดนหลอกตลบหลังจนอ้าปากค้างอย่างแน่นอน เรื่องแรก: The Others (2001)ความสยองขวัญ: 7ความอี๋แหวะเลือดสาด: 1ความน่าติดตามของพล็อตเรื่อง: 9 เนื้อเรื่องย่อ: เป็นเรื่องราวของแม่หม้ายลูกสองที่แสนจะเคร่งศาสนา ทั้งสามต้องอยู่บ้านลำพังเนื่องจากสามีไปรบที่ฝรั่งเศสช่วงสงครามโลกและไม่มีทีท่าจะกลับมาสักที ชีวิตประจำวันก็ดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งจู่ๆก็มีคนรับใช้ครอบครัวหนึ่งเข้ามาสมัครทำงานในบ้านหลังนี้และได้รู้ความลับที่ว่าลูกทั้งสองของเจ้านายแพ้แดดอย่างรุนแรงแต่เรื่องนี้ยังไม่น่าตกใจเท่ากับเรื่องแปลกๆที่เกิดขึ้นในคฤหาส์นหลังนี้ที่เด็กทั้งสองยืนยันได้ว่ามีใครก็ไม่รู้อาศัยอยู่กับพวกเธอด้วย รีวิว: หนังเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก เป็นการดำเนินเรื่องที่ไม่หวือหวา ค่อนข้างจะเรียบทีเดียวแต่กลับหยุดดูไม่ได้จ้าเพราะในความเรียบง่ายของการดำเนินเรื่องนั้นกลับมีปมและความทะแม่งๆเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งช่วงพีคของเรื่องที่ความลับค่อยๆเปิดเผยกลายเป็นว่าทุกอย่างที่คาดเดาไว้ไม่ถูกเลย นี่ยอมใจผู้กำกับและคนเขียนบทเลยเจ้าค่ะ ส่วนตัวไรต์ชอบความอึดอัดของเรื่องและความปิดหูปิดตาของตัวละครแม่ที่เลือกจะไม่ฟังลูกๆแม้จะสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดจนกระทั่งต้องเจอกับตัว ส่วนด้านฝั่งคนรับใช้ก็เป็นเหมือนคนถือกุญแจที่จะหาคีย์เวิร์ดมาใส่ในเรื่อง ตอนจบ: พูดได้เต็มปากว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่จบได้ดีและทำไรต์อ้าปากค้างกับความ plot twisted นี้มาก ต้องดู ยังไงก็ต้องดูห้ามพลาด! เรื่องต่อไป: The Exorcism of Emily Rose (2005) ความสยองขวัญ: 8ความอี๋แหวะเลือดสาด: 1ความน่าติดตามของพล็อตเรื่อง: 9 เนื่อเรื่อง: มาจากเค้าโครงเรื่องจริงซึ่งเป็นเรื่องราวการว่าความต่อสู้คดีของวัยรุ่นสาว Emily Rose ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และโดนฟ้องเอาเรื่องบาทหลวงและครอบครัวของตัว Emily เองที่งมงายใช้วิธีไล่ผีแต่สุดท้ายเธอกลับตายอย่างน่าอนาถ ซึ่งทนายสาวผู้ดูแลเคสในการแก้ต่างให้จำเลยอย่างบาทหลวงต้องหาหลักฐานว่าหญิงสาวที่ตายไม่ได้ป่วยเพราะโรคลมบ้าหมูขั้นรุนแรงอย่างที่คนอื่นคิด ซึ่งการต่อสู้กับทฤษฏีฝั่งของวิทยาศาสตร์นั้นทำเอาทนายสาวเครียดแทบบ้าและต้องหาหลักฐานที่หนักขึ้น การเอาความจริงและความเชื่อที่เป็นนามธรรมมาสู้แทบไม่มีโอกาสชนะและยิ่งขุดเรื่องราวลึกเท่าไร สิ่งเหล่านั้นที่เคยทำร้ายและทำลาย Emily ก็ดูจะขัดขวางและพร้อมทำร้ายเธอทุกเมื่อเช่นกัน รีวิว: เป็นการเล่าเรื่องแทบสลับฉากได้ดีมากถึงมากที่สุดโดยเรื่องนี้จะมีการเล่าย้อนไปถึงช่วง Emily ก่อนจะเกิดเรื่องและหลังจากเกิดเรื่อง อีกทั้งเพราะเป็นเค้าโครงเรื่องจริงและมีเทปบันทึกภาพของ Emily เอาไว้ด้วย และเพราะแบบนี้ยิ่งต้องมีการเปรียบเทียบถึงความเสมือนจริงใช่มั้ยล่ะคะ แต่ไรต์บอกไว้เลยว่าฉากทำพิธีของบาทหลวงค่อนข้างหลอนพอๆกับคลิปเทปที่อัดไว้ซะติดตาเลยล่ะค่ะ ในส่วนของการดำเนินเรื่องที่เน้นไปทางเรื่องราวการหลักฐานเพื่อต่อสู้ในชั้นศาลนั้นดูแล้วลุ้นไปกับตัวละครทนายจริงๆ หนังดูเหมือนจะทำเราเครียดไปกับการหาหลักฐานแต่กลายเป็นว่ายิ่งดูไปเรื่อยๆกลับหลอนขึ้นมาซะงั้นลิ้งค์คลิปเทปของจริงของ Emily Rose (ชื่อจริงๆคือ Anneliese Michel) : กดเพื่อรับชมข้อมูลเพิ่มเติม ตอนจบ: ตอนจบมีช่วงบีบคั้นอยู่ตอนประกาศว่าใครเป็นฝ่ายชนะในศาลแต่ก็ตามหนังแนวสืบสวนทั่วไปไม่ได้มีอะไรน่าทึ่งแต่ไม่ได้ถือว่าจบแย่นะคะแค่หนังแนวนี้ไม่ค่อยมีตอนจบน่าตื่นตาเฉยๆ เอาเป็นว่าถ้าใครชอบแนวสยองขวัญแบบลุ้นระทึก เรื่องนี้ไรต์แนะนำให้ไปตำด่วนค่ะ เรื่องสุดท้าย: 1408 (2007)ความสยองขวัญ: 10ความอี๋แหวะเลือดสาด: 1ความน่าติดตามของพล็อตเรื่อง: 10 เนื่อเรื่อง: เมื่อนักเขียนนิยายสยองขวัญไม่มีศรัทธาในภูตผีปีศาจ เรื่องที่เขียนก็คงจะไม่ออกรสให้น่าอ่าน ฉะนั้นเขาจึงตามหาสถานที่ที่มีผีจริงๆเพื่อพบเจอและเอามาเขียนเป็นนิยายได้แบบสมจริง หวยไปออกที่ห้องเลข 1408 ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง ในตอนแรกพนักงานก็เถียงปากฉีกถึงหูว่าไม่อนุญาตแต่ท้ายที่สุดความอยากรู้อยากลองของนักเขียนนิยายคนนี้ก็ทำให้เขาได้ไปพักห้อง 1408 สมใจโดยมีข้อแม้ของทางโรงแรมที่ว่า ‘จะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นเพราะถือว่าเตือนแล้ว’ รีวิว: เรื่องนี้เป็นมากกว่าผี มันคือปีศาจที่มาในรูปของการหลอนประสาท การดำเนินเรื่องไม่มียืดเยื้อ เริ่มเรื่องมาปุ๊บก็ลุ้นระทึกตั้งแต่แรก เรื่องที่เกิดขึ้นภายในห้องโคตรปั่นประสาททั้งตัวละครและคุณผู้ชมมากๆค่ะ เป็นการหลอกอีกแบบที่อึดอัดและไม่มีทางออกของเรื่อง ที่ทำได้คือนั่งดูการเล่นตลกของปีศาจในห้องจนจบเท่านั้นจริงๆค่ะ ตอบจบ: เรื่องนี้มีการสร้างตอนจบขึ้นมาสองแบบ เป็นแบบที่ผู้กำกับวางไว้และเป็นแบบที่เอาใจคนดูซึ่งส่วนตัวไรต์ค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับการกระทำแบบนี้ รู้สึกว่ามันทำให้หนังที่ทั้งเรื่องดีมากๆดูไม่ขลังเพราะคนดูเลือกตอนจบได้ไรงี้ แต่นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวนะคะซึ่งคนอื่นๆอาจจะไม่ได้คิดแบบนี้ก็ได้ ยังไงก็โฟกัสที่พล็อตเรื่องที่ดีมากจนยกให้เป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญตลอดกาลจริงๆดีกว่า สามเรื่องสามรส เรียกได้ว่าเป็นการยกระดับหนังสยองขวัญให้น่ากลัวโดยการสร้างปริศนาหรือความซับซ้อนให้ผู้ชมไปคิดต่อยอดเองมากกว่าจะมี jump sacred ผู้อ่านสามารถเลือกจะไปชมกับความเรียบง่ายแต่ทำเอาขนลุกซู่ หรือการสืบสวนที่อึดอัดและน่าสะอิดสะเอียน หรือสุดท้ายกับเรื่องราวชวนลุ้นระทึกจนไม่กล้ากระพริบตา แต่ภาพยนตร์สยองขวัญนั้นมีอีกเป็นล้านเรื่อง ฉะนั้นครั้งหน้าไรต์จะเอาเรื่องไหนมาแนะนำนั้น อย่าลืมมาติดตามกันด้วยนะคะ กิ้วๆ ขอขอบคุณรูปภาพจากรูปปกจากไรต์เอง / รูปภาพแรก / รูปภาพที่ 2 / รูปภาพที่ 3 / รูปภาพที่ 4 / รูปภาพที่ 5 / รูปภาพที่ 6