อื่นๆ

แชร์ประสบการณ์ สอนพิเศษตามบ้าน รายได้ดี !!

1.4k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
แชร์ประสบการณ์ สอนพิเศษตามบ้าน รายได้ดี !!

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาว True ID ทุกคน

วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การสอนพิเศษตามบ้าน ซึ่งเป็นงานที่เราทำเพื่อหารายได้ระหว่างเรียน การเป็นครูสอนพิเศษ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "ติวเตอร์" เป็นอาชีพหนึ่งที่นิสิตนักศึกษาและคนทำงานทั่วไปมักจะทำเพื่อหารายได้เสริม เป็นงานที่ได้ค่าตอบแทนสูงและยังได้ประสบการณ์มากมายอีกด้วย อีกทั้งในปัจจุบัน ผู้ปกครองนิยมส่งลูกหลานเรียนพิเศษกันมากขึ้น เพื่อเพิ่มทักษะทางด้านวิชาการและด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน รวมทั้งการเรียนศิลปะ ดนตรี และอื่น ๆ ทำให้งานสอนพิเศษมีเยอะ สามารถหาได้ง่าย และใช้ต้นทุนไม่มาก ซึ่งโดยปกติแล้ว เรทรายได้ค่าสอนพิเศษตามบ้าน จะอยู่ที่ 200-300บาท/ชั่วโมง  และมักจะเรียนครั้งละ 2 ชม. ทำให้มีรายได้ต่อครั้งอยู่ที่ 400-600 บาทเลยทีเดียว

Advertisement

Advertisement

สำหรับใครที่สนใจอยากจะเริ่มต้นเป็นติวเตอร์ อยากลองสอนพิเศษ วันนี้เราก็จะมาแนะนำแนวทางที่เราใช้ แบ่งปันช่องทางการหางานสอน การเตรียมชีทประกอบการสอน และทริคในการสอนพิเศษอีกเล็กน้อย งั้นไปเริ่มกันเลยดีกว่า :)

อันดับแรก เราจะต้องรู้ตัวเราเองก่อนว่าเราถนัดวิชาอะไรและสามารถสอนชั้นไหนได้บ้าง เพื่อจัดกลุ่มนักเรียนของเรา อย่างเช่น บางคนเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ถนัดวิชาเคมีกับชีวะ สามารถสอนเนื้อหาได้ทั้งของม.ต้นและม.ปลาย  หรือบางคนเรียนอักษรฯ เอกภาษาอังกฤษ สามารถสอนได้ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมปลาย เรื่องของวิชาและระดับชั้นที่จะสอนมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนอาจจะชอบสอนเด็กเล็ก สอนการบ้าน วิชาทั่วไป บางคนอาจจะชอบสอนเด็กที่โตหน่อย สอนติวเข้าโรงเรียนดัง ติวเข้ามหาวิทยาลัย

นักเรียนสำหรับเรา เราชอบสอนเด็กเล็ก ชั้นอนุบาล-ประถมต้น เพราะว่าเนื้อหาไม่ยาก เน้นกิจกรรมในห้องเรียนเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชาการที่อัดแน่น แต่จุดที่ยากก็คือการควบคุม ต้องใช้จิตวิทยาในการดึงความสนใจให้น้อง ๆ ตั้งใจเรียนจนจบคาบเรียน

Advertisement

Advertisement

สำหรับเด็กโต ประถมปลาย-มัธยม จะค่อนข้างรู้เรื่องและเชื่อฟังบ้างแล้ว ไม่ค่อยดื้อมาก แต่เนื้อหาจะยากขึ้นตามระดับชั้น ดังนั้นเราต้องมีการทำการบ้าน เตรียมตัวสอนอย่างดี เพื่อเราจะได้อธิบายเนื้อหาให้น้อง ๆ เข้าใจได้ง่ายและถูกต้อง

ต่อมาหลังจากที่เรารู้ว่าเราต้องการจะสอนวิชาอะไร ระดับชั้นไหน เราก็ทำการค้นหานักเรียน หางานสอนพิเศษ ซึ่งการหานักเรียนสามารถทำได้หลากหลายวิธี

1.หาด้วยตัวเอง : เราอาจจะทำโปสเตอร์รับสอนพิเศษ นำไปโพสต์ตามช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ หรือถ้าแถวบ้านเรามีเด็ก ๆ เยอะ เราอาจจะเริ่มรับสอนเด็กแถวบ้านก่อนก็ได้ อาจจะทำโบรชัวร์ไปแจกจ่ายตามบ้านของน้อง ๆ

2.หาตามกลุ่ม Facebook : ในเฟสบุ๊คจะมีกลุ่มหางานสอนพิเศษมากมาย ทั้งงานสอนพิเศษตามบ้านและงานสอนพิเศษของสถาบันต่าง ๆ ให้เราเลือกวัน เวลา และสถานที่ที่เราสามารถไปสอนได้สะดวก

Advertisement

Advertisement

กลุ่มหางานสอนทริคในการเลือกงานสอน

  • เลือกวิชาที่เราถนัด เราจะได้สอนและอธิบายได้อย่างเข้าใจ
  • เลือกงานที่ใกล้บ้าน หรือไม่ต้องเดินทางไกลมากนัก
  • เลือกวัน เวลา ที่เราสะดวก

หลังจากเราหานักเรียนได้แล้ว ขั้นต่อมาก็จะเป็นการเตรียมสอน เตรียมเนื้อหาที่จะสอน เราควรประเมินผู้เรียนคร่าว ๆ ว่าเขามีพื้นฐานประมาณไหน อาจจะอิงจากเนื้อหาที่เรียนที่โรงเรียนก็ได้ค่ะ ดูว่าเขาอ่อนวิชาไหนบ้าง ควรเสริมหรือติวตรงไหนเข้มเป็นพิเศษ เพื่อที่เราจะได้เตรียมเนื้อหาที่จะสอนได้เหมาะสมกับผู้เรียน

สำหรับเอกสารประกอบการเรียนหรือชีทเรียน เราสามารถใช้หนังสือที่มีขายตามร้านหนังสือทั่วไปหรือจะทำชีทเรียนขึ้นมาเองก็ได้ อีกวิธีหนึ่งที่เราใช้เป็นประจำ คือการหาชีทสอนพิเศษตามกลุ่มเฟสบุ๊ค ในเฟสบุ๊คจะมีกลุ่มที่เหล่าบรรดาครูจะมาแบ่งปันสื่อการสอนต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถนำชีทจากตรงนี้ไปใช้สอนน้อง ๆ ได้

กลุ่มกลุ่มในเฟสบุ๊คก็จะมีเพจที่ทำสื่อการเรียนการสอนมาขายออนไลน์ บางเจ้าจะขายเป็นหนังสือเย็บเล่ม ส่งทางไปรษณีย์ บางเจ้าจะขายเป็นไฟล์เอกสารแทน ซึ่งเราเองสอนเด็กเล็ก จึงจะต้องใช้ชีทเรียนที่น่ารัก ๆ มีสีสันเพื่อดึงดูดความสนใจ เราจะเลือกซื้อชีทสอนจากเพจต่าง ๆ นี้บ้างในบางครั้ง

เพจเพจเพจหลังจากเตรียมชีทสอนเสร็จสรรพ เราก็ควรทบทวนเนื้อหาคร่าว ๆ อีกรอบก่อนสอน อาจจะหาทริคใหม่ ๆ เทคนิคการจำต่าง ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจได้ง่ายขึ้น อาจจะหาเกมความรู้มาแทรกระหว่างทำการสอนก็ได้ เพื่อให้การเรียนการสอนไม่น่าเบื่อเกินไป

นักเรียนในการไปสอนพิเศษ เราควรจะตรงต่อเวลา ไม่ไปสาย ควรเผื่อเวลาการเดินทางทุกครั้งนะคะ และเราควรสอนอย่างตั้งใจ ค่อย ๆ อธิบายเนื้อหาให้ผู้เรียนเข้าใจ หลังจากสอนไปสักระยะหนึ่งอาจมีพักเบรกบ้างเพื่อให้เด็ก ๆ ผ่อนคลายมากขึ้น การเป็นติวเตอร์ ก็เหมือนเป็นครูคนหนึ่งที่จะต้องมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่และตั้งใจทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด หลังจากที่สอนจบคาบเรียนแล้ว เราควรคุยกับผู้ปกครองถึงพัฒนาการของน้อง ๆ เล่ารายละเอียดว่าน้อง ๆ ยังอ่อนตรงจุดไหนและเก่งเรื่องไหนบ้าง เพื่อให้ผู้ปกครองรู้สึกอุ่นใจและรับรู้ถึงความใส่ใจของเรา วิธีนี้จะทำให้เราได้สอนพิเศษน้องไปเรื่อย ๆ เลยก็ได้นะคะ :)

ภาพหน้าปกโดย canva.com

ภาพประกอบทั้งหมดโดย ผู้เขียน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์