แจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! เครื่องแน่น ๆ รสชาติดีงามมาก ๆคะ พี่น้องทุกครัวที่น่ารักต้องชอบแน่ ๆ เรามาบันทึกสูตรนี้เอาไว้ วันนี้แม่ครัวอารมณ์ดี เพราะเป็นวันหยุดจึงได้มาทำแจ่วบอง มาฝากค่ะ แจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! เป็นแจ่วบอง ต้นกำเนิดของที่บ้านโดยเฉพาะ สูตรนี้ท่านได้มาจากบรรพบุรุษทางภาคอีสานขนานแท้ ทำเก็บไว้รับประทานได้ยาวนานหลายเดือนเลย คนทางบ้านเวลาไปทุ่งไปนามักจะพกพาไปด้วยเสมอ ขาดไม่ได้เลย ก็คือ แจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! สะดวกทุกอย่าง กินง่าย อยู่ง่าย สบายท้อง ทุกครั้งต้องมี "แจ่วบอง" เอามาห่อด้วยใบตองยิ่งดี ถ้าเรากลับต่างจังหวัด เราชอบเอา แจ่วบองดิบ ห่อใบตองแล้วย่างกับไฟ รู้ไหม???ว่า กลิ่นหอมมาก ๆ แซ่บนัวมากขอบอก ส่วนผักไปหาเอาตามทุ่ง ตามนา มีมากมายเลย แต่ในวันนี้ อยากทำเก็บไว้เอาไว้กินยามเลิกงานกลับบ้านมา ได้กินก็สดชื่น มีเรี่ยวมีแรง ขึ้นมาทันที่ไม่แพ้เมนู ส้มตำ เลยค่ะ หลังจากทำแล้วก็แบ่งเพื่อนบ้านไปด้วย ยังสร้างมิตรไมตรี อีกทาง " แจ่วบอง" หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ น้ำพริกปลาร้าหรือจะเรียกปลาร้าสับ นั้นเองค่ะ โดยเฉพาะคนทางภาคอีสาน จะรู้จักกับ" แจ่วบอง "เป็นอย่างดี แต่คนภาคอื่น ๆ ก็นิยมรับประทานไม่แพ้กันนะคะ บางครั้งแอบอิจฉา คนทางภาคอีสาน เพราะ มีแต่เมนูแซ่บ ๆ ทั้งนั้น อาหารอีสานมีกรรมวิธีการปรุงและการทำหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าเมนูไหนเมื่อพูดขึ้นมาก็จะร้อง ออ!!!!! กันเลยที่เดียว จะเป็น ก้อยกุ้ง ก้อยเนื้อ แกงหน่อไม้ แกงอ่อม แจ่วบอง ซุบหน่อไม้ ซกเล็กเนื้อ น้ำตกหมู ลาบเนื้อ ลาบหมู ส้มตำ เป็นต้น โดยส่วนตัว เป็นคนทานปลาร้า และทานบ่อย ทั้งข้างทางไปจนถึงร้านในห้าง แต่ก็ไม่ได้รังเกียจคนที่ไม่ทานปลาร้า เพราะมันเป็นความชอบแต่ละบุคคลเหมือนทุเรียน ที่บางคนไม่ชอบกลิ่น หรือไม่ชอบรสชาติ หรือบางคนไม่กินกุ้ง เพราะแพ้กุ้ง แพ้อาหารทะเล หรือบางคนไม่กินเนื้อวัว เพราะความเชื่อส่วนบุคคล วันนี้ก็จะมาแนะนำวีธีการทำอย่างละเอียด แต่เป็นสูตรที่ดัดแปลงจากหลาย ๆ สูตรนะคะ เพราะจะไม่ใส่กระเทียมสดหั่น หัวหอมแดงสดหั่น แต่จะเป็น กระเทียมเจียว หอมเจียว สำเร็จ แทน อันนี้เอาตามความสะดวกนะคะ แต่เราลองทำสูตรนี้ดู ส่วนรสชาติ จะเป็นยังไง ไปดูกันค่ะ แจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! ก่อนอื่น เราก็ต้องเตรียมวัตถุดิบและเครื่องปรุง ให้พร้อมก่อนนะคะ วัตถุดิบและเครื่องปรุง 1. ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด 1 มัด ราคา 10 บาท ให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แบบฝอย ที่หั่นฝอยแล้ว เรานำมาตำให้ละเอียดอีกครั้งก็ได้นะคะ 2. ปลาร้าตัว 1 ถุง ราคา 10 บาท สับปลาร้า ให้ละเอียด (เอาแต่เนื้อ) 3. กระเทียมเจียว หรือกระเทียมสดหั่น 1 ถุง ราคา 10 บาท 4. หอมเจียว 1 ถุง ราคา 20 บาท (ไม่ใส่ก็ได้นะคะ) 5. พริกป่น 1 ถุง ราคา 10 บาท 6. น้ำมะขามเปียก เครื่องปรุง 1.น้ำปลา 2. น้ำตาล 3. ผงชูรส วิธีทำแจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! 1. พริกแห้งคั่วที่เราใช้จะซื้อมานะคะ แบบละเอียดช่วยประหยัดเวลาค่ะ ส่วน ตะไคร้ ใบมะกรูด ข่า ตะไคร้ กระเทียม นำมาหั่น ตอนที่หั่น แนะนำว่าให้หั่นแบบละเอียด ละเอียดมากเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะเวลาตำจะได้ไม่ต้องตำนาน และเนื้อของแจ่วบองจะได้ไม่หยาบจนเกินไปค่ะ แบ่งตำทีละนิด จะได้ตำง่ายค่ะ แล้วก็คั่วให้สุก โดยใช้ไฟอ่อนนะคะ ถ้าไฟแรงเกินไป เครื่องจะไหม้ ตอนนี้เราจะได้กลิ่นหอมของการคั่วสมุนไพร 2.นำปลาร้ามาสับเอาเฉพาะเนื้อปลาร้านะคะ และสับให้ละเอียด อันนี้เรามีปลาร้าน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะจะได้ความหอมของเครื่องเทศเต็ม ๆ ถ้าเพื่อน ๆ ทำ ใส่ปลาร้าเพิ่มอีก 1 ถุง น่าจะกำลังดีค่ะ 3. จากนั้นก็นำทั้งหมดมาคั่ว หรือผัด รวมกันในกระทะ ทั้งสมุนไพรคั่วแล้ว และปลาร้าสับลงไปคั่วพร้อมกันอึกครั้ง คนให้เข้ากัน ตอนนี้จะได้กลิ่นหอมของปลาร้ากับสมุนไพร ปรุงรสตอนนี้เลยค่ะ ใส่น้ำปลา น้ำตาล ผงชูรสเล็กน้อย ชิมตามความต้องการค่ะ เพราะว่าปลาร้าแต่ละที่ มีรสชาติไม่เหมือนกัน เราก็ค่อย ๆ เติมที่ละนิด แล้วชิมดูค่ะ อันนี้เราใส่ ผงชูรส ครึ่งช้อนชา น้ำตาลครึ่งช้อนชา เหยาะน้ำปลาใส่เล็กน้อยเพราะปลาร้ามีความเค็มอยู่แล้วตอนนี้ขาดรสอะไร ก็ปรุงเพิ่มได้เลยนะคะ 4.ปรับไฟอ่อนสุด ๆ แล้วใส่เครื่องสมุนไพรโรยหน้าปลาร้าสับลงไปอีกครั้งนะคะ เสร็จแล้วค่ะ แจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! 5.ถ้าแจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! ยังแห้งเกินไป แนะนำให้เติมน้ำมะขามเปียก ใส่น้ำปลาร้าเพิ่มอีก หรื่อให้ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ในตอนคั่วก็ได้ แต่ลดส่วนน้ำปลาด้วยนะคะ เดี๋ยวจะเค็มเกินไป ชิมตามชอบ ตักใส่กระปุกเก็บไว้หลายเดือนค่ะ สรุป แจ่วบองของดี "ต้องลอง" แซ่บแน่ !!! ในวันนี้ รสชาติ ถือว่าดีตามที่ชอบเลยค่ะ แบ่งเอาให้เพื่อนชิม หลายคนบอกว่าอร่อย เราดีใจมากค่ะ ตามสูตรที่ทำอันนี้ ได้สองถ้วยนะคะ ทำแล้วแซ่บ จึงอยากชวนให้เพื่อน ๆ ลองทำดูค่ะ ข้อดีของสูตรนี้ คือ เก็บไว้ได้นาน เพราะทุกอย่างสุกหมดเลย ปลาร้าก็สุก กินแล้วไม่ท้องเสียแน่นอนค่ะ ข้อเสียที่เราเจอ คือ แจ่วบองแห้งไปหน่อย อาจจะเป็นตอนคั่วที่ใช้ไฟแรงเกินไป ปล.ขอแถมเรื่องของปลาร้า เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน การหมักเป็นกระบวนการถนอมอาหารอย่างหนึ่งที่เรารู้จักกันดี อาศัย ยีสต์ และแบคทีเรียที่อยู่ในอากาศ ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายโปรตีนเส้นยาวให้เป็นโปรตีนเส้นเล็ก ๆ ทำให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เนื้อปลาร้ามีสารอาหารครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ได้แก่ สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรท ไขมัน โปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ แต่มีปริมาณที่แตกต่างกัน และเมื่อเทียบกับอาหารหมักดอง ประเภทอื่น ๆ ได้แก่ ปลาเจ่า ปลาจ่อม ปลาส้มฟัก น้ำปลา และกะปิ ปรากฏว่าปลาร้ามีคุณค่าทางอาหารค่อนข้างสูงกว่าอาหารปลาหมักดองประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลาร้าที่ทำจากปลาช่อนจะมีโปรตีนสูงมาก โปรตีนเส้นเล็กๆ ที่ดูดซึมได้ง่ายทำให้ร่างกายได้รับโปรตีนมากขึ้น ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอกได้ นอกจากนั้นในปลายังมีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งหัวใจ และหลอดเลือด เกร็ดความรู้ รู้หรือไม่???? ปลาร้า เป็นแหล่ง" วิตามินเค "ที่ยอดเยี่ยม เช่นเดียวกับถั่วเน่า เต้าหู้ยี้ของบ้านเรา หรือ “นัตโตะ” ถั่วเน่าญี่ปุ่น โดย วิตามินเคนั้นช่วยทั้งหยุดเลือด และช่วยนำพาแคลเซียมเข้ากระดูกได้ดี และยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมายมาย แต่ข้อควรระวังในการรับประทานปลาร้าก็มี เพื่อดูแลสุขภาพของเราเอง ดังนั้น ควรทำให้ปลาร้าสุก ก่อนบริโภค ทุกครั้ง จะมีความปลอดภัยสูงขึ้น และไม่ทำให้เกิดสูญเสียคุณค่าทางอาหารมากนัก Cr.รูปภาพทั้งหมดโดยเจ้าของบทความ