(ภาพปกโดยผู้เขียน) อาหารไทยนั้น จัดเป็นอาหารที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ต่างก็นิยมรับประทานกันเป็นอย่างมากอย่างเช่น ผัดไทย หรือว่าจะเป็นต้มยำกุ้ง และที่จะขาดไปไม่ได้เลยอีกอย่างก็คือ ส้มตำ ที่ล้วนเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อและยังเป็นเอกลักษณ์ที่ประจำชาติไทยไปแล้วก็ว่าได้ ซึ่งถ้าได้ยินชื่ออาหารเหล่านี้ก็จะทำให้เรานึกถึงประเทศไทยขึ้นมาทันที แต่ถ้าพูดถึงอาหารที่ตกทอดกันมาเป็นรุ่น ๆ จากคุณปู่ คุณย่านั้นก็ล้วนแล้วแต่ก็มีสูตรที่ลับเฉพาะของครอบครัวกันทั้งนั้น ซึ่งคนในยุคสมัยนี้นั้นก็อาจไม่เคยได้เห็น หรือได้ยิน ชื่อกันมาก่อนบ้างเลยก็มี อย่างเช่นอาหารที่ครอบครัวของผู้เขียนนั้น ชอบที่จะทำทานกันเป็นประจำก็คือ แกงต้มกะทิปอด ที่จะมีสูตรลับเฉพาะจากคุณยายเช่นกัน เป็นสูตรโบราณที่หาทานได้ยาก และไม่ค่อยจะได้พบเห็นตามร้านอาหาร หรือตามท้องตลาดทั่วไปมากนัก ดังนั้นในครั้งนี้ผู้เขียนก็จะนำเอาขั้นตอนในการทำแกงต้มกะทิปอดนั้นมาฝากกันอย่างละเอียดทุกขั้นตอนกันไปเลยค่ะ เริ่มแรกเราก็ไปดูส่วนผสมกันก่อนนะคะว่ามีอะไรกันบ้าง ปอดวัวแห้ง 2 ขีด (200 กรัม) มะพร้าวขูด 6 ขีด (600 กรัม) เกลือ 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง(สำหรับคั้นทำหัวกะทิ) อีก 3 ถ้วยตวง(สำหรับคั้นทำหางกะทิ) มะขามเปียก 2 ฝัก น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา หัวหอมแดง 5 หัว เมื่อเตรียมส่วนผสมครบแล้ว เราก็มาเริ่มทำขั้นตอนแรกกันเลยค่ะ นำปอดวัวแห้งมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปแช่น้ำทิ้งไว้เพื่อให้ปอดนิ่ม นำมะพร้าวขูดมาคั้นเพื่อทำเป็นหัวกะทิแล้วแยกใส่ถ้วยไว้ต่างหาก ต่อจากนั้นก็คั้นหางกะทิใส่ลงในหม้อสำหรับแกงเลย ปอกหัวหอมแล้วซอยให้ละเอียด นำปอดที่ได้แช่น้ำไว้แล้ว ไปล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง แล้วจึงใส่ปอดลงไปในหม้อที่เป็นหางกะทิ โดยการบีบน้ำออกจากปอดให้หมดแล้วจึงค่อยใส่ปอดลง ไป ตามด้วยหัวหอมซอย เกลือ มะขามเปียก แล้วนำขึ้นตั้งไฟให้เดือด เมื่อน้ำกะทิเดือดแล้ว ก็คนให้จนทั่วกันก่อนจะเคี่ยวต่อเรื่อยไปจนกระทั่งปอดเปื่อย เมื่อปอดเปื่อยแล้ว จึงเติมน้ำตาลทรายลงไป แล้วชิมให้มีรสที่เค็มนำ ตามด้วยรสหวานเล็กน้อย เมื่อชิมรสได้ที่แล้วก็นำหัวกะทิมาใส่ลงในหม้อ แล้วก็รอให้เดือดอีกครั้งเป็นขั้นตอนสุดท้าย ก็เป็นอันเสร็จสิ้นสำหรับขั้นตอนการทำแกงต้มกะทิปอดกันแล้วค่ะ เมื่อได้รู้ถึงขั้นตอนและวิธีการทำกันไปแล้ว ก็นำไปลองทำกันดูได้นะคะ เผื่อว่าเมนูแกงต้มกะทิปอด สูตรโบราณนี้ อาจจะไปเป็นเมนูประจำครอบครัวของทุกท่านก็เป็นได้ (ภาพโดยผู้เขียน)