แกงกะทิหมูสับปะรด หรือ ภาษาใต้จะเรียกชื่อว่า แกงทิย่านัด คำว่า “ย่านัด” ในภาษาใต้แปลว่าสับปะรด สามารถนำสับปะรดมาประกอบอาหารได้ด้วยรสชาติที่มีความเปรี้ยวนิด หวานหน่อย นำมาใส่ลงในเมนูอาหารสำหรับแกงเพื่อเพิ่มรสชาติให้เมนูอาหารอร่อยมากยิ่งขึ้น คนภาคใต้จะนิยมทำเมนูแกงกะทิหมูสับปะรด ถ้าเราเข้าไปร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ หนึ่งในเมนูนั้นจะต้องมีแกงกะทิหมูสับปะรดอยู่แทบทุกร้าน เพราะทานได้ง่ายใช้หมูสามชั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้พอดีคำ นำไปปรุงกับพริกแกงกะทิของปักษ์ใต้รสชาติเข้ากันดี จึงเป็นที่นิยมชื่นชอบ และสับปะรดยังมีประโยชน์มากมายนอกจากจะนำมาประกอบอาหารแล้ว ยังมีประโยชน์อื่นอีกเช่น ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทานเพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักอาจจะลดมื้อเย็นลงและทานสับปะรดแทนจะช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะในสับปะรดมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่จึงทำให้คนที่ทานสับปะรดแทนมื้อเย็น จะไม่หิวข้าวจะช่วยให้อิ่มท้อง ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและบำรุงผิวพรรณอีกด้วย แต่สับปะรดถ้าทานเยอะไปจะระคายเคืองปาก เราควรรับประทานอย่างพอเหมาะพอดีด้วยนะ พูดมาขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าวันนี้จะมาทำเมนู แกงทิย่านัด หรือ ภาคกลางจะเรียกว่า แกงกะทิสับปะรด เป็นเมนูที่หลายคนชื่นชอบเป็นพิเศษ บางคนอาจจะเป็นอาหารจานโปรด รับประทานเป็นประจำ ทานบ่อยขนาดนี้ทำเองดีกว่า ไม่ต้องไปซื้อตามร้านอาหารแล้ว ทำเองง่าย ๆ ได้ที่บ้านเลย วันนี้จูปิเตอร์มีขั้นตอนการทำอาหารง่าย ๆ มาฝากกัน มีวัตถุดิบและวิธีทำดังนี้ วัตถุดิบ 1.เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้น 500 กรัม 2.สับปะรดหั่นเป็นชิ้น 500 กรัม 3.น้ำกะทิ 500 กรัม 4.พริกแกงกะทิ 1 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ 6.กะปิ 1/2 ช้อนโต๊ะ 7.เกลือ 1 ช้อนชา วิธีทำ 1.นำน้ำกะทิใส่ลงไปในหม้อแล้วตั้งไฟ ถ้าจะให้อร่อยยิ่งขึ้น ซื้อกะทิสดมาคั้นน้ำเองดีกว่านะ จูปิเตอร์ก็ซื้อมาคั้นเองเหมือนกันจะได้มีความหอม หวาน มันของน้ำกะทิสด ๆ 2.พอน้ำเริ่มร้อนแล้วให้ใส่พริกแกงกะทิ กะปิ น้ำตาลปี๊บ และเกลือลงไป ใส่กะปิ ใส่น้ำตาลปี๊บ ใส่เกลือ ให้ละลายส่วนผสมทั้งหมดที่ใส่ลงไปจนเข้ากันดี 3.เมื่อน้ำเดือดและส่วนผสมของเราเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่เนื้อหมูที่เราหั่นเตรียมไว้ลงไป ที่จูปิเตอร์ใส่ไปในวันนี้คือเนื้อหมูส่วนขาหน้า แต่จะให้ดีควรใส่เนื้อหมูสามชั้นลงไปจะน่ารับประทานกว่า วันนี้ร้านที่ซื้อเนื้อหมูประจำบอกว่าเนื้อสามชั้นหมด จูปิเตอร์ก็อดเลย 5555 วันนี้ขอใส่เนื้อหมูขาหน้าแทนไปก่อนแล้วกันนะ 4.จากนั้นรอให้หมูสุกก่อน พอหมูสุกแล้วให้เราใส่สับปะรดที่หั่นเตรียมไว้ปิดท้ายได้เลย ควรใช้สับปะรดแก่ในการทำอาหารนะ 5.เมื่อใส่สับปะรดลงไปแล้ว รอประมาณ 10 นาที เพื่อให้สับปะรดเข้ากัน เสร็จแล้วปิดแก๊ส ตักใส่จาน ทานกับข้าวได้เลย เป็นไงบ้างเมนูอาหารสำหรับวันนี้ แกงกะทิหมูสับปะรด น่าเสียดายวันนี้จูปิเตอร์ไม่ได้ใส่เนื้อหมูสามชั้นลงไปด้วย จะบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้เนื้อหมูหรือหมูสามชั้นนะ สามารถใส่เนื้อไก่หรือเนื้อสัตว์อื่นแทนกันได้ ส่วนรสชาติเราก็สามารถปรุงแต่งเพิ่มเติมได้ ปรับแต่งได้ตามที่เราต้องการ เพราะเราทำเองทานเองอร่อยของเรา ไม่ต้องออกไปซื้อกับข้าวข้างนอกก็อร่อยได้ที่บ้าน ทานได้หลายคนหรือหลายมื้อ ประหยัดเงินในกระเป๋าไปอีก อีกทั้งแกงกะทิหมูสับปะรดมีความหอมกะทิผสมกับพริกแกงชวนให้หิวกันเลยทีเดียว รสชาติของน้ำกะทิที่มีความละมุนบวกกับสับปะรดที่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยวที่ตัดกันอย่างลงตัวพอดี ถ้าราดลงบนข้าวสวยร้อน ๆ รับรองทานข้าวได้อีกหลายจานแน่ เครดิตภาพทั้งหมดโดย : จูปิเตอร์