เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่าประเทศไทยนั้นได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ หลายพื้นที่ในประเทศมีฝนตกซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของเหล่าเกษตรกร หลายคนเริ่มที่จะเพาะปลูกพืชของต้นเองเพื่อหวังรอผลผลิตที่จะเป็นรายได้หล่อเลี้ยงชีวิต ฝนที่ตกนั้นทำให้ผืนดินที่เคยแห้งแล้งในช่วงฤดูร้อนกลับมาชุ่มชื้นอีกครั้งและยังทำให้บนผืนดินได้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีกด้วยต้นไม้ต่าง ๆ เริ่มแตกยอดแข่งกันผลิใบอ่อน เมล็ดพืชพันธุ์ที่เคยหล่นล่วงฝังอยู่ใต้ดินเริ่มงอกเจริญเติบโตขึ้น และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นมาด้วยหลังจากฝนตก นั่นคือบรรดาเห็ดหลากหลายชนิดที่ต่างผุดขึ้นมาช่วยเพิ่มสีสันให้กับผืนดิน ซึ่งจะมีทั้งแบบมีพิษและแบบที่สามารถรับประทานได้ สิ่งที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้คือเรื่องราวของเห็ดชนิดหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นมาหลังจากฝนตก เป็นเห็ดที่สามารถรับประทานได้ มีรสชาติแสนอร่อยและมีราคาค่อนข้างแพง นั่นก็คือ “เห็ดเผาะ”เห็ดเผาะ หรือเรียกอีกชื่อว่า “เห็ดถอบ” เป็นเห็ดที่เกิดขึ้นจากเชื้อราที่ฝังตัวอยู่ตามรากไม้มีลักษณะเป็นก้อนกลมออกแบน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 – 3 เซนติเมตร มีสีขาวปนเหลือง และมีรากเป็นลักษณะใยห่อหุ้มเอาไว้ ซึ่งเห็ดเผาะนั้นจะเกิดขึ้นจากใต้ผิวดินเมื่อได้รับความชื้นเพียงพอ เราจึงจะสามารถพบเจอเห็ดเผาะได้ในช่วงฤดูฝนพื้นที่ที่สามารถพบเจอเห็ดเผาะได้จะมีลักษณะเป็นป่าเขตร้อน ซึ่งจะพบมากในป่าที่เรียกว่า “ป่าเต็งป่ารัง” เพราะเชื้อราที่ทำให้เกิดเห็ดเผาะนั้นมักจะอยู่ตามรากของต้นเต็งหรือต้นรังเป็นส่วนใหญ่สำหรับชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้กับผืนป่าเขตร้อนนี้ กิจกรรมที่ขาดไม่ได้ก็คือการเข้าป่าเพื่อหาเก็บของป่ามาขาย และในช่วงฤดูฝนแบบนี้การออกไปเก็บเห็ดเผาะจึงเป็นสิ่งที่หลายคนต่างกระตือรือร้นที่จะทำกันเพราะมันช่วยสร้างรายได้ให้กับพวกเขาเป็นอย่างมากแถมเห็ดเผาะยังเป็นเมนูที่แสนอร่อยอีกด้วยการที่จะได้เห็ดเผาะที่แสนอร่อยมาครอบครองนั้นสามารถทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ได้ง่ายดายนัก ซึ่งต้องเริ่มจากการมีร่างกายที่พร้อมและมีอุปกรณ์สำหรับหาเห็ด คือ ช้อน หรือคราดขนาดเล็ก ที่จะเอามาใช้สำหรับเก็บเห็ดหรืออาจจะขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนว่าจะใช้อุปกรณ์สำหรับหาเห็ดแบบใด หลังจากเตรียมความพร้อมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเดินทางเข้าป่า โดยเราจะต้องสามารถคาดคะเนได้ว่าป่าแบบใดเหมาะที่จะมีเห็ดเผาะขึ้น (ในที่นี้คือป่าที่เรียกว่า "ป่าเต็งป่ารัง") และต้องรู้ว่าปริมาณฝนที่ตกนั้นทำให้เกิดความชื้นเพียงพอที่จะเกิดเห็ดเผาะขึ้นได้ หรือถ้าไม่รู้อะไรเลยก็ต้องคอยอาศัยฟังข่าวจากผู้คนที่มีความชำนาญในการเข้าป่าว่าช่วงไหนจะมีเห็ดเผาะเกิดขึ้นจะได้เป็นการไม่เสียเที่ยว การหาเห็ดเผาะนั้นเราจะสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในบางครั้งเพราะเห็ดจะเติบโตและดันดินโผล่พ้นขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจนหรือไม่เห็ดก็อาจถูกบดบังด้วยเศษใบไม้ กิ่งไม้หรือเศษหินก้อนเล็ก ๆ จึงต้องใช้คราดคราดเพื่อให้มองเห็น และในบางครั้งเห็ดก็อาจจมอยู่ใต้ผิวดิน การมีอุปกรณ์สำหรับขุดหาอย่างคราดหรือช้อนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากการจะหาเห็ดเผาะให้ได้ปริมาณมาก ๆ จะต้องใช้ความพยายามค่อนข้างสูงในการคุ้ยเขี่ยหรือการเดินตามหาในระยะทางไกล ๆ หรือถ้าโชคดีก็อาจจะพบแหล่งที่มีเห็ดเผาะขึ้นจำนวนมาก ทั้งยังต้องแข่งขันกับผู้คนที่ต่างออกตามล่าหาเห็ดเผาะด้วยกันอีก โดยเห็ดเผาะที่หากันได้นี้จะขายกันในราคา 250 - 350 บาทต่อกิโลกรัมเลยทีเดียวถือว่ามีราคาค่อนข้างสูงแต่ก็ต้องแรกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อยกันพอสมควร เห็ดเผาะที่หาได้ถ้าไม้ได้ขายไปก็มักจะเอามาทำอาหารกันในครอบครัว ซึ่งสามารถรังสรรค์เมนูได้หลากหลายอย่างมากไม่ว่าจะเป็น แกงคั่วเห็ดเผาะ แกงเรียงเห็ดเผาะ ต้มยำเห็ดเผาะ ฯลฯ เป็นต้นเห็ดเผาะจึงเป็นเห็ดที่หลาย ๆ คน ต่างอยากจะได้ลิ้มลองรสชาติของมันอย่างมาก เพราะในหนึ่งปีนั้นเราจะสามารถหาเห็ดเผาะได้เพียงแค่ครั้งเดียวคือในช่วงฤดูฝน ซึ่งในปัจจุบันนี้ผืนป่าที่เป็นแหล่งก่อกำเนิดเห็ดเผาะที่ให้เราได้รับประทานนั้นมีปริมาณลดลงไปเรื่อย ๆ ทำให้ปริมาณเห็ดที่เกิดขึ้นลดลงไปด้วย ดังนั้นแล้วเราจึงควรช่วยกันอนุรักษ์และดูแลผืนป่าให้คงอยู่เพื่อที่จะได้มีเห็ดเผาะที่แสนอร่อยนี้ไว้รับประทานกันตลอดไปภาพถ่ายโดย Sad dog