อื่นๆ

เหตุใดเราจึงพ่ายแพ้ตัวเอง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เหตุใดเราจึงพ่ายแพ้ตัวเอง

เคยรึเปล่ากับการตั้งเป้าหมายเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่ วางแผนหลายต่อหลายอย่างเอาไว้อย่างดิบดี แต่สุดท้ายเราก็คว้าน้ำเหลว พ่ายแพ้ต่อตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนท้อแท้และล้มเลิกความตั้งใจเหล่านั้นจนจบสิ้น บางคนก็เลิกฝันเลิกหวัง แต่เชื่อไหมว่าทุกคนสามารถชนะตัวเองได้ และคุณเองก็มีความสามารถนั้นอยู่ด้วยเช่นกัน

พยายามรูปจาก Pixabay

ทำอย่างไร เมื่อสิ่งหยอกเย้าเพลิดเพลินมีมากเกินไปในปัจจุบัน?

เป็นที่แน่นอนว่าเราหลุดโฟกัสจากเป้าหมายได้ง่ายมาก ยิ่งเป็นคนที่ควบคุมความต้องการของตัวเองได้ยากแล้ว ความทุ่มเทของเราจะหันเหไปกับเรื่องนู้นเรื่องนี้ที่มักไม่ใช่เรื่องของเราเลย แต่มันก็ดูมีความสุขเพลิดเพลินจนเราลืมไปแล้วว่า เป้าหมายของเรา สิ่งที่เราควรโฟกัสอยู่คืออะไร สิ่งที่เราต้องการคืออะไร

มันไม่ใช่เรื่องผิดที่จะเสพสื่อบันเทิง แต่การเพลิดเพลินจนเสียเวลาโดยใช่เหตุ แบบรู้ตัวอีกทีก็นอนดึกตื่นเช้า หรือหมดไปแล้วหนึ่งวันโดยยังไม่ได้ทำตามเป้าหมาย ทำตามความมุ่งหวังของชีวิต มันก็เหมือนเป็นความพ่ายแพ้ต่อสิ่งที่เราไม่ได้ต้องการจริง ๆ และแล้วเราก็เสียเวลาอันแสนมีค่าของตัวเองไปอีกแล้ว!

Advertisement

Advertisement

ผู้เขียนเป็นหนึ่งคนที่ติดเกม ติดยูทูป ติดเฟสบุ๊ก เอามาก ๆ แบบว่าว่างเป็นจับโทรศัพท์เปิดทุกสามนาที อย่างกับโทรศัพท์เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเลยทีเดียว ยิ่งวันหยุดนะว่างจัดเล่นจนตาล้าไม่ได้พักผ่อน และสุดท้ายก็ไม่ได้ทำตามแผนการที่เราเคยวางเอาไว้

สื่อรูปจาก Pixabay

ทำอย่างไรเราถึงจะออกมาจากความสุขที่ไม่ได้เพิ่มความหมายให้กับชีวิตเรา?

ทำอย่างไรถึงจะมีทั้งความสุขและความหมายนะ?

ดูเหมือนว่าคำตอบของผู้เขียนจะเป็นเรื่องของการควบคุมตนเอง เพื่อให้ทุกอย่างสมดุลพอดี แค่เสพสุขเพื่อให้ชีวิตมีสุขวันละนิด แต่ไม่ให้หลงใหลเผลอไผลไปกับอารมณ์ชั่ววูบของตนมากมายนัก สร้างความมุ่งมั่นของตัวเองอย่างแรงกล้าขึ้นมาอีกครั้ง ปลุกตัวเองที่เกียจคร้านนอนสันหลังยาว กลับมารักความฝันของตนอีกรอบ แล้วทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดของเราไปกับสิ่งสำคัญนั้น ทั้งแรงกาย แรงใจ เวลา เงินตรา เพราะใคร ๆ ก็รู้อยู่แล้วว่า ตัวเรานั้นเกิดมาได้เพียงแค่ครั้งเดียว

Advertisement

Advertisement

ผู้เขียนจำได้ว่า มีครั้งหนึ่งผู้เขียนกำลังนั่งทำงานอยู่บนรถตู้ทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่เจอครอบครัว ไม่เจอคนรักมาสักอาทิตย์กว่า วันนั้นมีข่าวดาวหางกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาเฉียดโลก อยู่ ๆ ผู้เขียนก็นึกกลัวความตายขึ้นมากระทันหัน เพราะว่าเรายังไม่ได้ใช้ชีวิตของตัวเองเลยนี่นา วันนี้ก็มีโอกาสเพียงเล็กน้อยมาก ๆ ที่โลกจะแตก แต่หากมันเป็นวันสุดท้ายจริง คงเสียดายมากที่เรายังไม่ได้ทำอะไร ยังไม่ได้สร้างชีวิตที่เราต้องการเลย

การใช้ชีวิตแบบแค่วันละครั้ง “จะทำอะไรก็ทำเลย ชีวิตคนเราอยู่ได้ไม่นานหรอก” มันช่างเป็นคำพูดที่ทรงพลังในการเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง และไม่ต้องเสียดายทีหลัง แต่เอาเข้าจริงการคิดเช่นนี้ทุกวันช่างเป็นชีวิตที่เครียดอยู่เหมือนกันผมลองมาแล้ว และก็ไม่เข้าใจว่าจะกดดันตัวเองให้เร่งรีบ จนทิ้งความสุขของความเนิบช้า ละเอียดละอ่อนละเมียดละไมไปทำไม ผมว่าการควรควบคุมไฟของตน น่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ไฟที่ร้อนแรงมากเกินไป อาจจะเผาทั้งตัวเองและคนรอบข้าง กลับกันไฟที่เบาเกินไปก็ดันอ่อนแรงมอดดับและไร้พลังไม่ทันกาลเสียอย่างนั้น

Advertisement

Advertisement

ฝึกสติรูปจาก Pixabay

แล้วทุกคนควรฝึกควบคุมตนเองด้วยวิธีไหนอะไรดี เพราะแต่ละวิธีคนเราก็จริตไม่เหมือนกัน อย่างผู้เขียนเองก็นั่งสมาธิไม่ได้ เดินจงกรมไม่ได้ แต่ควบคุมตัวเองได้ตอนนั่งรถโดยสาร หรือตอนอ่านหนังสือก็จะมีสมาธิดีที่สุด ตอนฟัง Podcast เช่นกัน นั่นก็แล้วแต่คนจะเลือกวิธีฝึกควบคุมตนเอง เมื่อควบคุมตนเองได้ แน่นอนว่านั่นหมายถึงเราชนะตนเอง อย่างน้อยเราก็ฝึกควบคุมบังเหียนชีวิต ด้วยจิตของเราซึ่งเอาชนะสิ่งเร้า และเลือกเวลาให้จมไปกับสิ่งที่เราต้องการ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์