คนดี มักกลัวการถูกเกลียดจนเอาแต่คอยตามใจอีกฝ่ายและไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่แท้จริง ส่งผลให้คนรอบข้างไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ในความสัมพันธ์ของคู่รักก็เช่นกันค่ะ คนดีมักจะกลัวการถูกปฏิเสธ กลัวถูกเกลียด และกลัวว่าตัวเองต้องเจ็บปวด จึงไม่ค่อยแสดงความรู้สึกที่แท้จริงเวลาพูดคุยกันหรือเวลาออกเดตก็ไม่เป็นฝ่ายนำหรือเสนอแนะทำให้อีกฝ่ายไม่รู้จริง ๆ แล้วเจ้าตัวอย่างทำอะไรกันแน่ ขอบคุณภาพจาก freepik.comหากเป็นแบบนี้อีกฝ่ายจะกังวลว่า “เขาไม่สนใจเรารึเปล่า ไม่สนุกที่มาเดตกับเราหรอ ฝืนคบกับเราด้วยรึเปล่านะ” เวลาผ่านไปนาน ๆ เข้า อีกฝ่ายจะรู้สึกว่าการพยายามทุ่มเทความรู้สึกให้คุณเป็นเรื่องที่เหนื่อย น่าเบื่อ และอาจขอเลิกไปทั้ง ๆ ที่มองว่าคุณ “ก็เป็นคนดีอยู่หรอกนะ” ยิ่งเราเป็นคนดีและจริงจังมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งกลัวการเข้าไปอยู่ในใจของอีกฝ่าย แต่การไม่แสดงความรู้สึกที่แท้จริงจะทำให้ระยะห่างของทั้งคู่ไม่มีวันลดลง เพราะฉะนั้นเราเป็นคนดี ความรักก็มักยิ่งไม่พัฒนาแล้วต้องเลิกราไปในที่สุดค่ะ หากเรารู้สึกว่า “อีกฝ่ายก็คงชอบเราเหมือนกัน” ก็ควรเป็นฝ่ายเอ่ยก่อนว่า “คืนนี้จะโทรไปหานะ” คราวหน้าอยากไปเที่ยวที่ไหน หรือลองถามว่าขอจับมือได้ไหมถึงจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเรารู้สึกยังไง บางครั้งเราอาจแกล้งโกรธเพื่อดึงความรู้สึกของอีกฝ่ายออกมาบ้าง หากรู้สึกชัดเจนแล้วว่าอีกฝ่ายก็ชอบเราเช่นกันค่ะ เราก็ต้องพยายามทำตัวให้เป็นที่รักมากขึ้น ถ้าจะเน้นย้ำความรู้สึกที่มีต่อกันก็ต้องพูดออกไปว่า “เราชอบคุณนะ” หรือ เป็นแฟนกันนะ ขอบคุณภาพจาก freepik.comการแสดงออกให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเราชอบเขา จะทำให้เขามองคุณในฐานะเพศตรงข้าม แม้มีโอกาสโดนปฏิเสธว่า “ฉันไม่ได้คิดกับคุณแบบนั้น” แต่คนเราจะรู้สึกพอใจที่ได้ “เป็นที่รัก” และเกิดความรู้สึกรับตอบได้ง่าย การใช้คำพูดหรือพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรักหรืออารมณ์ตื่นเต้า จึงทำให้ความรู้สึกของทั้งคู่เข้าใกล้กันมากขึ้นค่ะ ลองเข้าเว็บไซต์หาคู่ดูบ้าง แน่นอนว่าถ้าเราไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จักวิธีเข้าหาหรือไม่คุ้นเคบกับการคบหาเพศตรงข้าม ย่อมกังวลและไม่กล้าเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่หากไม่เป็นฝ่ายเข้าหาก่อน เราจะไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกริยาตอบสนองยังไงและไม่รู้ว่าวิธีเข้าหาของตัวเองนั้นดีหรือไม่คะ เช่น ถ้าเราพูดบางสิ่งแล้วอีกฝ่ายแสดงสีหน้าหวาดระแวงเราจะรู้ว่าคำพูดนี้ใช้ไม่ได้แต่ถ้าไม่พูดเลย เราจะไม่รู้ว่าคำพูดไหนควรพูดหรือไม่ควรพูด เพราะฉะนั้นหากไม่สั่งสมประสบการณ์สนทนากับเพศตรงข้าม ต่อให้ผ่านไปนานแค่ไหน เราก็ไม่อาจสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากไปกว่าการเป็นเพื่อนได้ค่ะ..” ขอบคุณภาพจาก freepik.comในปัจจุบัน ผู้คนนิยมใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น ทำให้การเข้าหาเพศตรงข้ามกลายเป็นเรื่องง่าย วิธีหนึ่งที่ช่วยได้คือการใช้เว็บไซต์หาคู่ แม้อาจดูไม่น่าไว้ใจและเข้าไปพัวพันกับอาชญากรรมได้ง่าย แต่ถ้าเป็นเว็บไซต์ที่บริหารโดยบริษัทขนาดใหญ่จะมีกระบวการลงทะเบียนที่รัดกุม ต้องยืนยันตัวบุคคลด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรประจำตัวประชาชน จึงค่อนข้างปลอดภัยและเชื่อถือได้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบอีเมลที่สมาชิกส่งหากัน และมีมาตรการป้องกันทำผิดในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การหลอกขายสินค้าหรือหลอกให้แต่งงาน เรียกได้ว่าปลอดภัยกว่าการไปนัดบอดหรือปาร์ตี้หาคู่ ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าผู้ร่วมงานเป็นใครและมาจากไหน เว็บไซต์หาคู่ช่วยให้เรามีโอกาสพูดคุยกับเพศตรงข้ามโดยไม่ต้องคิดอะไรมากค่ะ ให้ความรู้สึกคล้ายกับกาเล่นเกมจับหนุ่มหรือจีบสาว จนกว่าจะมีการนัดพบกันจริง ๆ ขอบคุณภาพจาก freepik.comสมมติว่าอีกฝ่ายไม่ตอบกลับหรือขาดการติดต่อไปเฉย ๆ เราก็ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดมากนักและในเมื่อเป็นแค่การส่งอีเมลหาคนที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน เราจะติดต่อหาอีกฝ่ายบ่อยแค่ไหนก็ได้ การพูดคุยแบบออนไลน์นั้นมีไว้เพื่อค้นหาที่เราอยากพบหน้าจริง ๆ หากเราเข้ากับอีกฝ่ายไม่ได้ก็แค่หยุดส่งอีเมลหากัน ขั้นตอนนี้ช่วยคัดกรองคนได้ดีทีเดียวค่ะ บางคู่อาจนัดพบกันเพียงครั้งเดียวแล้วจบ แต่บางคู่ก็นัดพบกันอีกและสานความสัมพันธ์จนใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในระหว่างนั้นเราจะได้สังเกตว่าอีกฝ่ายมีปฏิกริยาต่อคำพูดหรือการกระทำของเรายังไง เช่น “ถ้าเราทำแบบนี้เขาจะไม่ชอบ” หรือ ถ้าทำแบบนี้เขาจะดีใจ คนเราล้วนปฏิกริยาตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน บางครั้งเราอาจเจอคนที่มีปฏิกริยาตรงกันข้าม เมื่อทำบ่อย ๆ ก็จะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายมากขึ้นและรู้สึกว่าควรทำตัวยังไง ขอยกตัวอย่าง ในประเทศญี่ปุ่นค่ะ มีชายหญิงที่โสดมากกว่าสิบล้านคน เพราะฉะนั้นต่อให้ทุกคนออกเดตกับคนไม่ซ้ำหน้าทุกวันก็ต้องใช้เวลาถึง 27,000 ปีถึงจะได้เจอหน้ากันครบทุกคนแหน่ะ (อันนี้ก็เป็นการยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะคะ) เมื่อมีคนโสกมากขนาดนี้ ต่อให้ถูกใครปฏิเสธเราก็ยังเริ่มต้นกับคนใหม่ได้เสมอค่ะ หากสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ เราย่อมมีความรักที่ดีขึ้นได้ในครั้งต่อ ๆ ไปค่ะ “คนที่เลิกไม่ได้ จะสื่อความรู้สึกชอบออกไปไม่ได้ ทำให้อีกฝ่ายกังวล ส่วนคนที่เลิกได้ จะมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมากขึ้นค่ะ...” ขอบคุณภาพปกจาก freepik.com