เหตุผลทำไมถึงเราต้องนิยมทานผักบุ้งบ่อย ๆ เพราะในปัจจุบันนั้นเป็นไปไม่ได้เลย หากเราจะหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้า ที่เกิดจากอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยเฉพาะจากหลอด LED คือ หลอดไฟ LED ตามบ้านเรือน อุปกรณ์ดิจิทัล เช่น นาฬิกา จอ TV จอคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก จอโทรศัพท์ แท็บเล็ต เป็นต้น ซึ่งแสงเหล่านี้จะทำให้ดวงตาของเราเกิดอาการตาล้า เพราะแสงสีฟ้าที่เราจ้องมองอยู่ มีความสว่างมาก ทำให้ดวงตาของเราต้องทำงานอย่างหนัก อาการตาแห้ง เพราะอุปกรณ์ที่เราจ้องมอง ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็ก ทำให้เราต้องจ้องมองมากกว่าปกติ จอประสาทตาอาจเสื่อมได้ เนื่องจากแสงสีฟ้าสามารถทะลุเข้าไป และทำลายเซลล์รับแสงในจอประสาทตาได้ และอาจเป็นปัจจัยสำคัญของการสูญเสียการมองเห็นได้ผักบุ้ง 100 กรัมจะให้พลังงานถึง 22 กิโลแคลอรี และประกอบไปด้วยด้วยเส้นใย วิตามิน และแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก เป็นต้น ซึ่งผักบุ้งไทยนั้นจะมีวิตามินซีสูงและมีสรรพคุณทางยามากกว่าผักบุ้งจีนแต่จะมีแคลเซียมและเบต้าแคโรทีนน้อยกว่าผักบุ้งจีน หากรับประทานแบบสด ๆ ได้ก็จะทำให้คุณค่าของวิตามินและแร่ธาตุไม่เสียไปกับความร้อนอีกด้วย การรับประทานผักบุ้ง หากผัดควรใส่น้ำมันให้น้อย แต่ถ้าลวกก็จะดีกว่าเพราะไม่มีน้ำมันซึ่งจะทำให้อ้วนได้ หากทานดิบก็ยิ่งจะมีประโยชน์มาก ทานกับขนมจีนอร่อยมากเลยครับคนเฒ่าคนแก่บอกว่ากินผักบุ้งแล้วจะตาสวย นั่นคือความจริงครับ ผักบุ้งที่ช่วยในการบำรุงสายตา เนื่องจากผักบุ้งมีสารที่ชื่อ “เบต้าแคโรทีน” จำนวนมาก (โดยเฉพาะผักบุ้งจีน) ซึ่งเบต้าแคโรทีนนี้สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้ภายหลัง และสรรพคุณของวิตามินเอ คือ การช่วยบำรุงสายตา เพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงในดวงตา ทำให้ตาไม่แสบ ไม่แห้ง แลดูเป็นประกาย และยังช่วยลดอาการสายตาสั้น แก้ตาฝ้าฟาง ตาแดง อาการคันนัยน์ตาบ่อย ๆ หรือตาบอดกลางคืนได้ ช่วยให้หายแสบตาจากอาการตาแห้ง และลดอาการปวดกระบอกตาในกรณีที่ใช้สายตามาก ๆ ดังนั้นหากคุณต้องทำงานที่จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ หรืออาชีพที่ต้องใช้สายตาบ่อย ๆ การรับประทานผักบุ้งเป็นประจำ ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างวิตามินเอให้กับร่างกาย เป็นการรับประทานอาหารเพื่อบำรุงสายตาโดยตรง และอาจใช้วิธีต้ม ต้มให้เปื่อยในหม้อ เพื่อคงคุณค่าทางอาหารไว้ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่า ผักบุ้งที่ปรุงสุกด้วยกระบวนการดังกล่าว จะมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น ภาพประกอบโดย : ภาพปก 1 และ 2 / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4