หลายคนอาจคิดว่าการโกหกเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่การโกหกที่ไม่ได้เลวร้ายเข้าขั้นอาชญากรรมก็เป็นเครื่องมือสร้างผลประโยชน์ให้เราได้หรือเรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งค่ะ กลยุทธ์นี้คือการทำความเข้าใจจิตวิทยามนุษย์ซึ่งก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมาก คนขี้โกงนิด ๆ จะเข้าใจจุดนี้ดีค่ะและมักจะนำมาใช้ในการทำงานหรือธุรกิจของตัวเอง ขอบคุณภาพจาก freepik.comคนขี้โกงนิด ๆ จะแกล้งทำตัวต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้เพื่อปกป้องตัวเอง ตัวอย่างเช่น เด็ก ๆ มักใช้เทคนิคนี้ปกป้องตัวเองค่ะ “แม่คะ หนูขอโทษค่ะหนูทำคะแนนสอบได้แย่มาก ๆ เลย..” เป็นต้นค่ะ เมื่อได้ยินแบบนี้คนเป็นแม่ย่อมถามกลับว่า “ได้กี่คะแนนล่ะลูก” โดยทำใจไว้ว่าลูกเราคงทำคะแนนได้ยาก พอลูกตอบกลับว่า 98 คะแนนค่ะ คุณแม่ก็ตกใจแล้วตอบว่า “อะไรกัน เก่งมากเลยนี่น่ะ” “อืม แต่ว่าเฉพาะวิชาภาษาญี่ปุ่นนะคะ ส่วนคณิตศาสตร์เราได้ 60 คะแนนเอง” หากพูดแบบนี้แทนที่คุณแม่จะดุก็จะพูดว่า “งั้นเหรอ ช่างเถอะ ไว้คราวหน้าค่อยพยายามใหม่นะ” พูดง่าย ๆ ก็คือ การแกล้งทำตัวให้สูงหรือต่ำกว่าเกณฑ์จะช่วยให้เราหลบหลีกจากสถานการณ์เลวร้ายได้ เรายังนำวิธีคิดแบบนี้ไปใช้ในการทำงานได้ค่ะ หากคุณเป็นหัวหน้าแล้วบอกลูกน้องว่า “เตรียมตื่นเต้นกับโบนัสปีนี้ได้เลย” แต่ปรากฏว่าได้โบนัสจริง ๆ แค่ไม่เท่าไหร่ ลูกน้องคงบ่นว่า “น่าตื่นเต้นตรงไหนกันน่ะ” ขอบคุณภาพจาก freepik.comแต่ถ้าเราพูดว่า “ขอโทษนะ โบนัสปีนี้น้อยพอ ๆ กับค่าอาหารแค่มื้อเดียว” อีกฝ่ายจะลดความคาดหวังลง แต่เมื่อลูกน้องพบว่าได้โบนัสจำนวนหนึ่ง เขาอาจร้องดีใจว่า โอ้โหได้มากกว่าที่คิดอีกแหะ!!” เวลามีใครพูดต่อว่า “มีข่าวร้าย” คนเรามักเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ หากพูดกับลูกน้องว่า “ทุกคน วันนี้ฉันมีข่าวร้ายมาบอก” ลูกน้องย่อมกังวลว่าอาจมีการปลดพนักงานออก แต่หากว่าคุณพูดต่อว่า “สถานที่จัดงานสัมมนางานของบริษัทครั้งนี้เปลี่ยนจากฮาวายเป็นญี่ปุ่นแทน” ลูกน้องคงโล่งใจพลางพูดว่า “โธ่เอ๊ย” นึกว่าเรื่องอะไร ตกใจหมดเลย ความเสี่ยงที่ทุกคนจะโอดครวญกับการเปลี่ยนสถานที่สัมมนาก็จะลดลง ทีนี้ลองเปลี่ยนให้คุณเป็นฝ่ายพูดกับหัวหน้าว่า “หัวหน้าคะ” เรามีข่าวร้ายจะแจ้งให้ทราบค่ะ หัวหน้าก็ย่อมกังวลและพูดว่า “ไปทำพลากอะไรจนตัวเองเดือดร้อนรึไง” แต่หากเนื้อหาจริง ๆ คือ “ลูกค้าขอลดราคาสิบเปอร์เซ็นต์...” หัวหน้าคงโล่งใจพลางตอบว่า “อะไรกัน เรื่องนี้หรอกหรอ” และอาจช่วยให้หัวหน้าตอบตกลงว่า “เข้าใจแล้ว เอาตามนั้น” ได้ง่ายขึ้น ขอบคุณภาพจาก freepik.comแต่คนที่มักมีจิตใตอ่อนแอหรือปลอบบางจะทำสิ่งตรงกันข้าม เมื่อมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นจะพูดกลบเกลื่อนว่า “แหม มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น” ทำให้หัวหน้าโมโหว่า “เจ้าบ้า รีบไปต่อรองมาใหม่เดี๋ยวนี้เลย” วิธีพูดแบบนี้ต้องอาศัยความสามารถในการจัดการเรื่องยุ่งยาก โดยคุณต้องดูสถานการณ์และความสัมพันธ์กับคู่สนทนาด้วย การโกหกเล็กน้อยหรือพูดเกิดจริงอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้ค่ะ “อย่ากลัวที่ต้องรบกวนคนอื่น” บางคนอาจคิดว่าเหล่าเศรษฐีหรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์มากมาย มีความเอื้ออาทรแก่ทุกคน รักและเคารพคนอื่น แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย คนร่ำรวยในยุคก่อน ๆ อาจเป็นแบบนั้นจริง แต่ครอบครัวที่ร่ำรวยหรือประสบความสำเร็จจากการเก็บหอมรอมริบด้วยคนเพียงรุ่นเดียวนั้นมีน้อยมาก คนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมักอดทน มีนิสัยแปลก ๆ ทำตามใจตัวเอง และปั่นหัวคนรอบข้างให้เดือดร้อนเสมอ ในบรรดาคนเหล่านี้ก็อาจมีคนที่ “นิสัยดี” หรือ เป็นที่รัก อยู่ไม่น้อย แต่จากสายตาคนทั่วไปแล้วเราคงไม่ค่อยชอบคนประเภทนี้สักเท่าไหร่ค่ะ ขอบคุณภาพจาก freepik.comคนที่จิตใจอ่อนโยนมักคิดอยู่ลึก ๆ ว่า คนที่จะตัดสินใจว่าสิ่งใดมีคุณค่าหรือไม่นั้นไม่ใช่ตัวเองแต่เป็นคนอื่น พวกเขาจึงให้ความสำคัญแก่ความคิดเห็นของคนอื่นมากกว่าที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเองออกไปค่ะ ด้วยเหตุผลนี้เวลาที่คนเหล่านี้ถูกปฏิเสธว่า “ไม่ไหวหรอก” น่าเบื่อ ของแบบนี้ใคร ๆ ก็คิดได้ ไม่น่าจะทำได้จริงนะ ไม่เห็นมีความหมายอะไรเลยค่ะ คิดว่าจะขายได้หรอ หรือ ใครจะซื้อ ก็มักตัดใจและยอมแพ้ทันที พวกเขายังไม่อยากถูกเกลียกและต้องการเป็นที่รักของคนอื่น จึงไม่กล้ายืนกรานความคิดของตัวเองให้ถึงที่สุด เพราะกลัวต้องกระทบกระทั่งกับคนรอบข้าง เพราะคิดไปเองว่า “จะไม่ให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นแบบนี้เด็ดขาด” หรือ กังวลว่า เขาจะคิดว่าเราเป็นแบบนี้หรือเปล่า ทำให้ไม่กล้าทำสิ่งที่ผิดแปลกไปจากคนอื่น หรือทำสิ่งที่น่าประหลาดใจ จึงไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตสักทีค่ะ แต่คนขี้โกงนิด ๆ จะไม่กลัวการแตกหัก ไม่กลัวว่าจะทำให้คนรอบข้างเดือดร้อน จึงทำสิ่งที่ตัวเองต้องการได้จนถึงที่สุดค่ะ แน่นอนว่าหากเราทำเรื่องเลวร้ายจริง ๆ ย่อมถูกตำรวจจับแน่ ๆ เราจึงไม่แนะนำเด็ดขาด แต่วิธีหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ก็คือการเลิกเป็นคนดีแล้วมาเป็นคนขี้โกงนิด ๆ ค่ะ ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตบนโลกนี้ได้ง่ายขึ้น บางทีเราต้องใส่หน้ากากบ้างค่ะ ไม่ใช่ดีไปหมด เป็นคนเถรตรงไปหมดทุกอย่าง(บางทีมันเป็นภัยมากกว่าที่คิดค่ะ) คนส่วนมากที่เลิกไม่ได้ เถรตรงเกินไปก็ทำให้คนอื่นผิดหวัง ส่วนคนที่เลิกได้จะรู้จักโกหกให้เกิดประโยชน์และเปลี่ยนโอกาสให้กลายเป็นผลตอบแทนนั่นเองค่ะ...” ขอบคุณภาพปกจาก freepik.com