เมื่อมนุษย์เรากำลังพยายามทำโลกหมุนช้าลง เพื่อประหยัดทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้หมดเปลืองอย่างช้าที่สุด และในขณะเดียวกัน ก็เรียกร้องให้คนหันมาใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยเหตุนี้ Slow Fashion จึงถือกำเนิดขึ้นมา หากจะอธิบายถึงคำว่า Slow Fashion คงต้องเข้าใจคำว่า Fast Fashion กันก่อน Fast Fashion คือแฟชั่นที่มาเร็ว ไปเร็ว ปรับเปลี่ยนฉับไวตามกระแสเทรนด์ และฤดูกาล ยกตัวอย่างเช่น เสื้อแจ็คเก็ตแบบ Kim Da-mi หรือ Park Seo-joon ในเรื่อง Iteawon Class ย่อมจะไม่วางขายอีกในปีหน้าอย่างแน่นอน เสื้อผ้าแบบ Slow Fashion คือเสื้อผ้าที่ไม่อิงกับ Season ไม่อิงกับเทรนด์สี หรือการออกแบบที่ถูกประกาศว่าจะ In ในแต่ละปี กลับกัน เสื้อผ้าแบบ Slow Fashion จะเป็นเสื้อผ้าที่นำมาสวมใส่ได้เรื่อย ๆ แต่คุณผู้อ่านอย่าเข้าใจผิด เสื้อแจ็คเก็ตสุดฮิตของ Kim Da-mi ถ้าคุณหยิบมาใส่ซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่ามันจะ Out ไปแล้ว คุณก็ยังหยิบมาใส่จนเก่าเกือบจะขาดคามือ แบบนี้ก็ถือว่าเป็น Slow Fashion เช่นกัน แนวคิดเรื่อง Sustainable Fashion เป็นแนวความคิดที่ว่าวงการแฟชั่นควรใส่ใจโลกมากขึ้น ควรผลิตอย่างมีผลกระทบกับโลกให้น้อยที่สุด ทั้งการประหยัดน้ำ การใช้สีย้อมจากธรรมชาติ หรือกระบวนการตัดเย็บที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม แล้วคนตัวเล็ก ๆ อย่างเราที่ไม่ใช่เจ้าของบริษัทเสื้อผ้าจะทำอะไรได้บ้าง ? Sustainable Fashion Project วันนี้ขอนำเสนอ การปรับเปลี่ยนชุดเก่าให้ทันสมัย ด้วยการเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ลงไปให้เสื้อผ้าเก่าเรามีชีวิตชีวากันอีกครั้งค่ะ 1. เพิ่ม หรือตัดบางส่วนออก เช่นเสื้อแขนยาว เราก็เอามาตัดแขนออกให้เป็นแขนสั้นซะ ชุดเดิมจะได้ Look ที่เปลี่ยนไป หรืออย่างกางเกงยีนส์ขาด ๆ เราก็สามารถหาผ้าลายสวย ๆ มาซ้อนด้านใน แล้วเนาให้เป็นลายเก๋ ๆ เท่านี้ก็สามารถ Mix and Match เป็นเสื้อผ้ารูปแบบใหม่ได้แล้วค่ะ ภาพประกอบโดย OB 2. ติดเครื่องตกแต่ง ริบบิ้น โบว์ ลูกปัด ฯลฯ ลงไป งานนี้คุณจะได้ปลดปล่อยจินตนาการอย่างเต็มที่ ไม่ว่าอยากได้ look หวาน ๆ ก็ติดลูกไม้ ติดโบว์สีพาสเทลลงไป หรืออยากได้ความ Rock, Hip Hop, จะติดตัวรีดเท่ ๆ Blink Blink อะไรก็ว่าไป เอาให้สุดค่ะ ภาพประกอบโดย OB 3. ปักผ้าเป็นลวดลายต่าง ๆ ยิ่งช่วง Quarantine นี้เราก็จะมีเวลาอยู่บ้านเยอะเป็นพิเศษ ให้คุณผู้อ่านรื้อไหมปัก ไหมพรม หรือถ้าไม่มี จะใช้ด้ายเย็บผ้าแทนก็ยังได้นะคะ แค่ผลงานที่ได้อาจจะไม่ฟูมีมิติอย่างใช้ไหมปักเฉพาะ แต่อย่าได้แคร์ค่ะ งานนี้เราไม่เน้นลงทุนเพิ่ม เพราะจุดประสงค์คือใช้ของที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภาพประกอบโดย OB Sustainable Fashion ไม่ควรจะเป็นกระแส แต่ควรเป็นสิ่งที่เรามนุษย์โลกควรตระหนัก และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้มีผลกระทบต่อโลกให้น้อยที่สุด สถานการณ์ที่น่าโกลาหลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ไฟป่า น้ำท่วม ภูมิอากาศและภูมิประเทศที่เปลี่ยนแปลง และสัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ไป อย่าคิดว่าโลกมาเอาคืนค่ะ โลกแค่พยายามปรับสมดุลให้ตัวมันเองยังคงอยู่ได้ แต่ถ้ามนุษย์เราไม่ช่วย โลกก็คงจะต้องพยายามปรับสมดุลกันด้วยมหันตภัยต่าง ๆ ต่อไป อย่างที่ Laurence Overmire นักเขียนชาวอเมริกันชื่อดังเขียนไว้ว่า เราเป็น generation สุดท้ายแล้วนะคะที่จะต้องช่วยโลกให้ได้ สวัสดี ภาพประกอบโดย OB ภาพปก Creative Commons Photo of Greta Thunburg by Wikipedia และ Kim Da-mi by Wikipedia