ถ้าหากเราพูดถึงนักมวยปล้ำหญิงสุดน่ารักในวงการมวยปล้ำ WWE เราคงต้องพูดถึงเธอก่อนเป็นลำดับแรกนั่นคือ Alexa Bliss ขวัญใจแฟนมวยปล้ำชายที่รวมถึงผมด้วย เส้นทางอาชีพของเธอนั้นไม่ได้มีแค่การขายจุดเด่นของหน้าตาตัวเอง แต่เธอประสบความสำเร็จมากมายในการคว้าแชมป์หญิงมาแล้วหลายสมัย และก็แน่นอนว่าความสำเร็จต่าง ๆ ไม่ได้มาแบบง่าย ๆ เรามาดูไทม์ไลน์ของเธอกันดีกว่าว่าเธอผ่านร้อนผ่านหนาวมาแค่ไหนกว่าจะมีนักมวยปล้ำหญิงนามว่า Alexa Bliss คนนี้ ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเดบิวต์เข้าวงการมวยปล้ำเรามาพูดถึงอุปสรรคในช่วงวัยรุ่นของเธอ นั่นก็คือเธอเคยเป็นโรคคลั่งผอมมาก่อน และแน่นอนโรคนี้คงจะต้องมีความอดทนพอสมควรกว่าจะรักษาหายอย่างสนิท และเมื่อเธอหายดีแล้ว ครอบครัวของเธอจึงแนะนำให้ออกกำลังกายโดยการเพาะกาย ด้วยความที่เธอมีความฝันอยากจะเป็นนักมวยปล้ำตั้งแต่เด็กแล้ว เธอจึงชื่นชอบการเพาะกายเป็นอย่างมากถึงขนาดเคยเข้าร่วมการแข่งขันมาแล้ว และในปี 2013 เธอก็สามารถทำความฝันได้สำเร็จจากการเดบิวต์เข้าสู่วงการมวยปล้ำ WWE ในค่ายพระรองอย่าง NXT ซึ่งเป็นค่ายพัฒนาทักษะก่อนที่จะขึ้นค่ายหลักอย่าง Raw และ Smackdown NXT (2013 - 2016) แรก ๆ ก็คงจะต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อน โดยการออกมาปล้ำไปวัน ๆ ไม่มีสตอรี่เป็นของตัวเอง จนเวลาผ่านไปเธอได้มีบทบาทเป็นผู้จัดการของคู่แท็คทีมอย่าง Blake & Murphy และช่วงที่เธอเป็นผู้จัดการนั้นคู่นี้ก็ได้ครองแชมป์ NXT TagTeam championship ด้วย จนเวลาผ่านไปอีก เธอก็ได้เข้าสู่การเป็นนักมวยปล้ำหญิงเดี่ยวแบบเต็มตัว โดยเธอได้มีโอกาสชิงแชมป์หญิง NXT ด้วย แต่ก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ Smackdown (2016 - 2017) และความฝันของเธอก็ได้เติบโตไปอีกระดับหนึ่ง เมื่อกลางปี 2016 เธอมีชื่อในการเดบิวต์ขึ้นค่ายหลักอย่าง Smackdown นับเป็นก้าวแห่งความสำคัญของอาชีพเลย ซึ่งเมื่อเดบิวต์ขึ้นไปก็มีส่วนร่วมในการชิงแชมป์หญิง Smackdown ทันที แต่ก็คงต้องใช้เวลาหน่อยสำหรับคนที่เพิ่งเดบิวต์เข้ามาใหม่ ซึ่งจริง ๆ มันไม่นานสำหรับเธอเลยเมื่อธันวาคมปี 2016 ในศึกใหญ่ TLC เธอสามารถชิงแชมป์หญิง Smackdown ได้สำเร็จจากการเอาชนะ Becky Lynch โดยปล้ำแบบ Table Match เอาจริง ๆ เธออาจไม่ค่อยได้รับคำชมของแฟนมวยปล้ำบางคน โดยถูกวิจารณ์ว่าฝีมือการปล้ำของเธอนั้นยังไม่ดีพอ สำหรับผมมันก็จริงแหละครับ แต่หากลองดูปัจจัยอื่นคือ การแสดงบทบาท การพูด และการแอคติ้งของเธอถือว่าทำได้ดีมากเลยนะครับ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอสมควรเป็นแชมป์หญิงในตอนนั้น หลังจากนั้นเธอก็ต้องเสียแชมป์ให้กับ Naomi ในศึก Elimination Chamber 2017 แต่ก็ชิงคืนได้หลังจากที่ Naomi ต้องสละแชมป์จากการบาดเจ็บ จนมาถึงศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง Wrestlemania 33 ก็ต้องเสียแชมป์คืนให้กับ Naomi จากการปล้ำแบบ 6 เส้า Raw (2017 - ปัจจุบัน) หลังจากนั้นเธอได้ย้ายค่ายมาอยู่กับค่าย Raw แล้วก็ใช้เวลาไม่นานเหมือนเดิมในการคว้าแชมป์หญิง Raw จาก Bayley ในศึก Payback ในช่วงปลายเดือนเมษายน ครองนานไปจนถึงศึก Summerslam 2017 ก็เสียแชมป์ให้กับ Sasha Banks แล้วก็ชิงคืนได้อีกใน Raw หลังผ่านไปแค่ 8 วัน แล้วก็ครองยาวไปจนถึง Wrestlemania 34 เลย โดยเสียแชมป์ให้กับ Nia Jax เวลาผ่านไปจนถึงศึก Money in the Bank 2018 เธอก็ประสบความสำเร็จอีกครั้งจากการเป็นผู้ชนะแมทช์ Money in the Bank แล้วก็ใช้สิทธิ์นั้นทันทีในการชิงแชมป์คืนจาก Nia Jax ได้สำเร็จ แต่ภายหลังเธอก็ต้องเสียแชมป์ในศึก Summerslam 2018 ให้กับ Ronda Rousey ไป ในช่วงกลางปี 2019 เธอได้มีโอกาสจับคู่กับ Nikki Cross ในการชิงแชมป์หญิง TagTeam และก็ได้มาสำเร็จ โดยระหว่างนั้นได้เสียแชมป์ในศึก Hell in the Cell 2019 ให้กับ The Kabuki Warriors ไปก่อน แล้วก็ชิงคืนมาได้ในศึก Wrestlemania 36 และยังครองแชมป์มาถึงทุกวันนี้ บทสรุปความสำเร็จ ณ ปัจจุบัน - Smackdown Women's Champonship 2 สมัย - Raw Women's Championship 3 สมัย - Women's TagTeam Championship 2 สมัย - ผู้ชนะ Money in the Bank 2018 จนถึงตรงนี้ก็คงบอกถึงความเก่งของเธอแล้วละว่าเธอไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่เธอสามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยฝีมือของตัวเอง และถ้าเธอยังสามารถรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้ เธอก็จะได้เป็นนักมวยปล้ำหญิงในตำนานของ WWE อย่างแน่นอน เครดิตรูปภาพจาก WWE.com รูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3 รูปที่ 4 รูปที่ 5 รูปที่ 6 เครดิตรูปภาพหน้าปกจาก https://www.usanetwork.com