ในอดีตที่วิทยาการความก้าวหน้าทางการแพทย์ยังเข้าไม่ถึงในบริบทสังคมภาคอีสาน ชาวบ้านจึงมีความเชื่อและนับถือการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยคาถาอาคม ซึ่งการใช้คาถาอาคมเหล่านั้นจะมีทั้งแบบที่สามารถใช้ได้เองในครัวเรือน แบบที่ต้องอาศัยหมอทำ และแบบที่ต้องอาศัยหมอสมุนไพรหรือหมอยาเฉพาะทาง ศาสตร์แห่งการรักษาแบบเวชชาคมนั้น มีรูปแบบการรักษาที่ซับซ้อนแตกต่างกันไปตามแต่ละโรค แต่ละอาการ หรือแต่ละบุคคล สำหรับโรคและอาการที่ใช้ศาสตร์ชนิดนี้ในการรักษา ผู้เขียนสามารถรวบรวมจากตำราเก่าแก่ที่คุณทวดของสามี อดีตนายฮ้อยแห่งอีสานกลางได้บันทึกไว้ปรากฏอยู่ 6 แขนงดังนี้ภาพจากpixabay.comรักษาอาการเจ็บป่วยอันเกิดจากไฟ เช่น ไฟไหม้ ไฟลวก น้ำร้อนลวกรักษาฝีหนอง รักษาประจำเดือนคัด อาการมานน้ำ เช่น ประจำเดือนมาน้อยผิดปกติ ปวดท้องประจำเดือน มดลูกบวมรักษาอาการปวดหัวดิบ เช่น ไมเกรน ความดันสูงรักษาอาการไข้ตามฤดู เช่น ไข้เขียว ไข้ดอก ไข้หมากไม้รักษาโรคปันดงหรือประดง เช่น การปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่งการรักษาอาการป่วยแต่ละอาการนั้นจะมีค่าคาย(ค่ายกครู) วิธีการรักษา พิธีกรรม การปฏิบัติตนของผู้เข้ารับการรักษาตลอดจนคาถาอาคมที่ใช้กำกับในการรักษา ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมและจะได้กล่าวถึงในบทความ เวชชาคมกับการรักษาโรคแต่ละอาการบทต่อไปภาพจากfreepik.comการรักษาด้วยเวชชาคม ที่ใช้ยาสมุนไพรควบคู่กับคาถาอาคมในการรักษาผู้ป่วย ถือเป็นกุศโลบายในการรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจที่ดีขึ้น ในภาวะที่การแพทย์และสาธารณสุขยังเข้าไม่ถึง ซึ่งในบางครั้งการรักษาแบบนี้อาจจะไม่ได้ทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคที่เป็น แต่ก็ทำให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลเอาใจใส่มากขึ้นภาพจากpixabay.comการรักษาผู้ป่วยของหมอในภาคอีสาน หากสังเกตให้ดีจะพบว่า การเรียกรับเงินค่ารักษาพยาบาลนั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ป่วยหายดี มีร่างกายแข็งแรงเท่านั้น สังคมอีสานในอดีตมีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่เอาใจใส่เรื่องภายในจิตใจจิตวิญญาณควบคู่ไปกับการดูแลร่างกายเสมอมา ตลอดจนแนวคิดด้านถ้อยทีถ้อยอาศัย ที่ทำให้สังคมร่มเย็นเป็นสุข ดังผญาคำสอนเรื่องการมีน้ำใจต่อกันที่ว่า "บาดห่าเฮือคาค้างเกวียนเห็นให้เกวียนแก่ ลางเทื่อไปฮอดน้ำเฮือสิได้แก่เกวียน"ภาพปกจากfreepik.com