คนเราเกิดมา ถ้าหน้าตารูปร่างดี ก็ถือว่าโชคดีที่พระเจ้าสร้างมาให้มีรูปร่างหน้าตาสะสวย ถ้าเกิดมาหน้าตาดันธรรมดา หาจุดเด่นอะไรไม่ได้เลย ก็คงต้องยอมรับสภาพกันไปแต่ในปัจจุบัน เราสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของใบหน้า รูปร่างในส่วนต่าง ๆ ได้ตามใจและตามกำลังทรัพย์ที่เรามี นั่นก็คือการเข้าสู่ “การศัลยกรรม” นั่นเอง จะเสริมจมูกให้โด่งขึ้น หน้าอกให้ใหญ่ขึ้น แน่นอนครับ “มีดหมอ” ช่วยคุณได้แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ คือเรื่อง ด้านมืดของวงการศัลยกรรม ที่ผู้เขียนมีประสบการณ์มาด้วยตนเอง แต่ไม่ได้ไปทำศัลยกรรมนะครับ เนื่องจากผู้เขียนทำงานเกี่ยวข้องกับด้านศัลยกรรม ในด้านการโฆษณา และได้เรียนรู้เรื่องราวมากมายในวงการศัลยกรรม จึงนำมาเขียนเพื่อเตือนใจให้คนที่สนใจการศัลยกรรม ได้ระวังและรู้เท่าทันเล่ห์กลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศัลยกรรม ไปติดตามอ่านได้เลยครับการทำศัลยกรรมใบหน้า เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนต้องการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นเช่น เสริมจมูกให้โด่งขึ้น เสริมหน้าผากให้นูนสวยกลมขึ้น ถ้าใครทำมาแล้วเข้ากับใบหน้า ไม่มีปัญหา ถือว่าโชคดีและคุณหมอมีฝีมือมาก ๆ แต่ถ้าทำออกมาแล้วเกิดปัญหาล่ะนั่นคือที่มาของคำที่เรียกกันในวงการศัลยกรรมว่า “เคสหลุด” ซึ่งก็คือคนไข้ที่ทำไปแล้ว เกิดปัญหา เช่นเสริมจมูกไปแล้ว จมูกทะลุ จมูกเน่า หรือไม่ก็ทำแล้วเบี้ยวไปข้างนึงปัญหาที่เกิดขึ้นแบบนี้ บางครั้งถ้าเจอสถานเสริมความงามที่มีคุณภาพ คนไข้ก็จะได้รับการแก้ไข หรือการชดเชยต่าง ๆ ตามจรรยาบรรณในการรับผิดชอบต่อคนไข้แต่บางรายโชคร้าย เจอ สถานเสริมความงามที่ไร้จรรยาบรรณ จะใช้วิธีปิดปาก โดยการ เสนอเงินก้อนนึงเพื่อทำข้อตกลงในการยุติปัญหา เพราะศัลยแพทย์นั้นไม่มีความสามารถในการทำหรือแก้ไขได้ เนื่องจากบางครั้งศัลยแพทย์ในสถานเสริมความงามนั้น ๆ ไม่ได้จบศัลยศาสตร์มาโดยตรง จบเพียงแค่ แพทย์ หู ตา จมูก คอ (คำที่เรียกศัลยแพทย์ที่ไม่จบศัลยศาสตร์มาจริง ๆ ในวงการศัลยกรรม)เพื่อให้คนไข้นำเงินก้อนนั้นไปแก้ไขที่สถานเสริมความงามหรือคลีนิคอื่น ๆ แทน หรือบางคลินิกไม่ยอมจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหาย โดยกล่าวอ้างว่า คนไข้ทำให้อวัยวะที่ทำศัลยกรรมไปนั้นเสียหายเอง เช่น ทำจมูกเบี้ยวเอง หรือดูแลหน้าอกที่เสริมไปไม่ดีจนเน่า เป็นต้นส่วนใหญ่ปัญหาที่เกิดขึ้นมานั้น มักจะเกิดจากการทำศัลยกรรมราคาถูกในคลินิกต่าง ๆ ที่โฆษณาชวนเชื่อ ว่า คุณภาพดี ราคาไม่แรง แถมบางครั้งคลินิกนั้น ๆ ยังให้วิสัญญีแพทย์หรือผู้ช่วยแพทย์ เป็นคนทำการศัยกรรม ด้วยซ้ำไป ซึ่งมี ความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดปัญหา เพราะผู้ช่วยแพทย์เหล่านั้น หรือแพทย์ที่ไม่ได้จบมาโดยตรง ไม่มีความรู้ในการแก้ไขโครงสร้างของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายคนด้วยซ้ำไปถ้าสนใจการทำศัลยกรรม ควรศึกษาให้ละเอียดก่อน ถึงสถานเสริมความงามนั้น ๆ ว่า มีชื่อในแพทย์สภา ในสาขาศัลยศาสตร์ หรือไม่ หากไม่มี แนะนำว่า ไม่ควรไปรับบริการโดยเด็ดขาด ถ้าไม่อยากเป็นเคสหลุดเคสหลุด ถ้าไม่นับความผิดพลาดโดยคนไข้เอง ก็มีไม่กี่ปัญหานะครับ เท่าที่มีประสบการณ์มา คือ1. แทพย์หรือผู้ทำการผ่าตัด ไม่มีความเชี่ยวชาญพอในการทำศัลกรรม หรือไม่ใช่แพทย์โดยตรง ทำให้ไม่มีความรู้หรือเชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมต่าง ๆ บางท่านใช้วิธีครูพักลักจำจากการเป็นผู้ช่วยแพทย์มาทำด้วยซ้ำ อันจริงเรื่องจริงเลยนะครับ2. เครื่องมือในการผ่าตัดต่าง ๆ ไม่มีความสะอาด ไม่ได้ฆ่าเชื้อดีพอ ผู้เขียนเคยถ่ายทำในห้องผ่าตัด เครื่องมือทุกชิ้นต้องผ่านการอบฆ่าเชื้อทั้งหมด คนที่อยู่ในห้องผ่าตัด ต้องใส่ชุดสำหรับผ่าตัด เพื่อป้องกันเชื้อโรค แม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็เคยใส่ครับ เมื่อเครื่องมือไม่สะอาดมากพอ อาการติดเชื้อก็จะตามมาในที่สุดและเมื่อมีเคสหลุดที่คลินิกนั้น ๆ ไม่สามารถแก้ไขได้ จึงได้มีกลุ่มบุคคลนึง ตั้งตัวเป็นผู้ช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่ตกเป็นเคสหลุด โดยการเปิดเพจและกลุ่มเพื่อรับคนที่เป็นเคสหลุดเข้ามาช่วยเหลือ โดยแฝงผลประโยชน์ต่าง ๆ ไว้ จะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านในตอนสองนะครับพระเจ้าอวยพรครับ อาเมนภาพปก โดย : https://www.pexels.com/th-th/photo/1250655ภาพที่ 1 โดย : https.pexels.com/th-th/photo/769598/ภาพที่ 2 โดย : https://www.pexels.com/th-th/photo/4031904ภาพที่ 3 โดย : https://www.pexels.com/th-th/photo/3376790ภาพที่ 4 โดย : https://www.pexels.com/th-th/photo/3985308ภาพที่ 5 โดย : https://www.pexels.com/th-th/photo/3470032