เล็บมือนาง :ไม้เลื้อยที่เป็นได้มากกว่าซุ้ม ซุ้มไม้เลื้อยที่มีดอกสีขาวและสีชมพูออกเข้ม กลีบดอกแตกออกเป็นแฉก ดอกจะออกตามยอดของต้นเล็บมือนาง เป็นพวงสีชมพูเข้มแซมขาว ดูชื่นใจมองไปกี่ครั้งก็สบายตา หลาย ๆ ท่านคงเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าเจ้าซุ้มที่ว่านี่คือต้นดอกอะไร หรือถึงรู้แล้วว่าเจ้าซุ้มที่ร่มเย็นสบายตานี้คือซุ้มดอกเล็บมือนาง ก็คงยังไม่รู้อยู่ดีว่าเจ้าต้นเล็บมือนางนี่ มีสรรพคุณมากว่าทำซุ้มเพื่อให้ร่มเงาเยอะเลย เจ้าต้นเล็บมือนาง มีชื่อโก้ ๆ ทางวิทยาศาตร์ว่าCombretum indicumโดยเจ้าเล็บมือนางดอกชมพูๆแดงๆเนี่ยอยู่ในวงศ์Combretaceae หรือวงศ์สมอ ชาวกระเหรี่ยงแถบแม่ฮ่องสอน เรียกเจ้าพืชชนิดนี้ว่า ไท้หม่อง เขานิยมนำเอาผลเจ้าไท้หม่องมาตำกับครกให้ละเอียด ไม่ถึงกับละเอียดมากแต่ก็ไม่หยาบเกินไป แล้วนำผงไท้หม่องมาคลุกเคล้าผสมกับอาหารสุกรหรืออาหารโค-กระบือ โดยผลของไท้หมองจะช่วยฆ่าพยาธิในสุกรหรือโค-กระบือได้ เพราะในเมล็ดมีสาร Potassium quisqualate สารตัวนี้สามารถขับพยาธิตัวกลมและพยาธิเส้นด้ายได้ โดยเฉพาะพยาธิตัวกลม ที่มักพบในสุกร ผลของเล็บมือนางถ้าเป็นผลแห้ง จะเป็นผลแข็งสีน้ำตาลแก่ รูปร่างอย่างกระสวย คือปลายผลทั้งสองข้างเป็นทรงแหลมแต่ตรงกลางเป็นกระเปาะใหญ่มีสันอยู่ห้าสันตามยาว ลักษณะเป็นพูเก็บเมล็ดไว้ข้างในหนึ่งเมล็ด แต่ถ้าเป็นผลสดยังไม่แห้ง ก็จะเป็นเหมือนกับผลแห้งคือรูปร่างอย่างกระสวย มีสันอยู่ห้าสันตามยาว ลักษณะเป็นพูเก็บเมล็ด แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผลสดแตกต่างออกไปคือมีสีเขียว เป็นมันวาว มักจะแฝงอยู่ตามช่อ หลังดอกของมันได้ปลิดปลิวร่วงหล่นลงไปแล้ว เล็บมือนางมีชื่อพื้นเมืองอยู่หลายชื่อ กระเหรี่ยงแถบแม่ฮ่องสอนเรียกมันว่าไท้หม่อง ชาวเหนือเรียกมันว่า จะมั่ง จ๊ามั่ง หรืออีกชื่อคือมะจีมั่ง แต่ชาวมลายูเรียกมันว่าอะดอนิ่ง ดอกของเล็บมือนางมีกลีบดอกห้ากลีบ ตอนแรกจะดอกสีขาวแต่นานไปจะออกเป็นสีชมพูเข้ม ก้านดอกเรียวยาวคล้ายท่อสีเขียว มีเกสรยื่นออกมาจากตรงกลางดอกนับได้ประมาณห้าอัน ใบของต้นเล็บมือนางเป็นใบไม่ใหญ่มาก ใบเดียวสีเขียวเรียวปลายมน ใบเป็นทรงวงรีบางไม่เหมือนใบมะพร้าวที่หนาและมัน ลำต้นสีเขียวแต่ถ้าแก่ไปจะเริ่มเป็นสีน้ำตาลเปลือกไม้ รากจะมีรากแก้วแตกแขนงเป็นฝอยออกมา สามารถนำมาเป็นยาระบายแก้โรคท้องผูกได้อย่างดี ถ้าเรานำใบของต้นเล็บมือนางไปผสมกับสมุนไพรอื่น ๆ ใบของมันจะสามารถเป็นยาแก้พิษต่าง ๆ ถอนพิษได้สารพัด แก้พิษจากของแสลงรวมไปถึงแก้ไข้โรคกาฬต่าง ๆ ได้ เล็บมือนางปรากฏอยู่ในวรรณคดีไม่บ่อยครั้ง หากจะนับก็ปรากฏอยู่หนึ่งครั้ง แต่เป็นวรรณคดีที่สำคัญของไทย เป็นยอดของเสภาคือวรรณคดีเรื่องขุนช้าง-ขุนแผน โดยปรากฏอยู่ในบทที่สิบเก้า ขุนช้างตามนางวันทอง ซึ่งเป็นตอนที่ขุนแผนบอกว่าตนเฝ้ารอนางวันทองมากี่ปี โดยปรากฏดังนี้ เล็บมือนางกางกลีบกะทัดรัด เหมือนมือเจ้าปรนนิบัติพัดวีผัวบานเย็นบานสะพรั่งฝั่งสระบัว เหมือนเย็นเช้าเย้ายั่วอยู่กับน้อง ในปัจจุบัน เล็บมือนางเป็นได้แค่เพียงซุ้มต้นไม้ให้ร่มเงา เมื่อภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรไทยเริ่มสูญห่างหายไปตามกาลเวลา ความสำคัญและประโยชน์ที่แท้จริงก็เริ่มสูญหายไปด้วย หากไม่มีคนอนุรักษ์ภูมิปัญญาการใช้สมุนไพรไทยอย่างจริงจัง คุณค่าของต้นเล็บมือนางต่อไปก็จะเป็นแค่ซุ้มไม้ประดับให้ร่มเงา