กินอย่างไร ให้มีประโยชน์ เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับหลายๆ คน ที่คอยถามตัวเองอยู่เสมอ ว่าสิ่งที่เรากำลังจะกินเข้าไปนั้นมีประโยชน์ต่อตัวเรามากน้อยแค่ไหน ปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพิ่มมากขึ้น ด้วยโรคภัยไข้เจ็บที่รุมเร้า แถมเจ้าโรคต่างๆ ยังเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้นทุกวัน ทำให้ทุกคนตระหนักเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงตลอดเวลา วันนี้จึงอยากจะแนะนำวิธีการกินอาหารให้เหมาะสมกับร่างกาย โดยการเลือกอาหารแบบฉบับของแพทย์แผนไทยที่จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับทางกาย และทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงต้องข้ออธิบายให้เข้าใจก่อนว่า ตามหลักของแพทย์แผนไทยกล่าวไว้ว่า ในร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 อันได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม และธาตุไฟ ซึ่งทุกคนมีทั้ง 4 ธาตุนี้อยู่ภายในตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า แต่ล่ะคนจะมีธาตุหลักประจำตัว เรียกกันว่า "ธาตุเจ้าเรือน" เราสามารถดูธาตุประจำตัวได้จากเดือนเกิดของตัวเอง และการเจ็บป่วยของคนเราส่วนใหญ่ มักเกิดมาจากการไม่สมดุลกัน ของธาตุทั้ง 4 ทำให้ร่างกายส่งสัญญาณเตือนมาในลักษณะของการเจ็บป่วย ดังนั้นเราจึงต้องดูแลสมดุลของธาตุให้เป็นปกติเพื่อให้ตัวเราไม่เกิดการเจ็บป่วย และมีอายุที่ยืนยาว หลักง่ายๆ ของการเริ่มต้นปรับสมดุลธาตุ ก็คือ การเลือกทานอาหารให้ตรงธาตุเจ้าเรือน จะช่วยให้ร่างกายกลับสู่สภาวะสมดุลได้เร็วขึ้น เลือกอย่างไร ให้ถูกธาตุ อย่างแรกที่เราต้องรู้ก่อนคือ ตัวเรานั้นมีธาตุเจ้าเรือนประจำตัวเป็นธาตุอะไร ถ้าอยากรู้แล้วว่าเรามีธาตุประตัวคือธาตุไหน และต้องเลือกทานอาหารอย่างไร งั้นเราไปลุยกันเลย "ธาตุดิน" ได้แก่ คนที่เกิดในเดือน ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม นั่นเอง ลักษณะเด่นของคนธาตุดิน คือ เป็นคนที่หนักแน่น มั่นคง โครงสร้างใหญ่ มีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง เสียงดังฟังชัด เหงื่อเยอะ แต่ทนร้อนทนหนาวได้ดี และมีบุคลิกที่ค่อนข้างเฉื่อย สิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษคือ คนธาตุดินมักจะมีอาหารป่วยเกี่ยวกับอวัยวะหลักของร่างกาย เช่น หัวใจ ริดสีดวง เบาหวาน เป็นต้นอาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ อาหารที่มีรสฝาด หวาน มัน และเค็ม ตัวอย่าง เช่น หัวปลี มะละกอ มัน เผือก กระหล่ำปลี มังคุด ถั่วต่างๆ ยำหัวปลี ผัดผักกระเฉดน้ำมันหอย เมนูของหวาน เช่น ตะโก้เผือก กล้วยบวชชี นมถั่วเหลือง น้ำฝรั่ง"ธาตุน้ำ" ได้แก่ คนที่เกิดในเดือน กรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน ลักษณะเด่นของคนธาตุน้ำ คือ มักมีรูปร่างสมส่วน ผิวสวยสดใส ทนเย็น ทนร้อนได้ดี น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงยาก หลับง่าย ถ่ายคล่อง สิ่งที่ควรระวังคือ อาการป่วยทางระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร และระบบขับ ถ่าย อาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ อาหารที่มีรสเปรี้ยว และรสขมตัวอย่าง เช่น ส้ม สัปะรด มะนาว มะยม มะเขือเทศ ยำรวมมิตร ลาบ แกงส้ม เมนูของหวาน เช่น มะยมเชื่อม มะม่วงกวน น้ำส้มคั้น "ธาตุลม" ได้แก่ คนที่เกิดในเดือน เมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ลักษณะเด่นของคนธาตุลม คือ เป็นคนอ่อนไหวง่าย รูปร่างโปร่งดูอ่อนกว่าวัย ช่างพูด ร่าเริงสดใสไม่ชอบอยู่นิ่ง อาจจะขี้โมโห หรือไม่กล้าตัดสินใจในบางครั้ง สิ่งที่ควรระวังคือ ปัญหาทางด้านระบบประสาท การไหลเวียนโลหิต มักมีอาการวิงเวียน หน้ามืด และอ่อนเพลียอยู่บ่อยๆ อาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ อาหารที่มีรสเผ็ดร้อน ตัวอย่าง เช่น พริก ขิง ข่า ตะไคร้ ขึ้นฉ่าย กระชาย กระเพรา โหระพา กระเทียม ต้มยำ ผัดขิง แกงเผ็ด เมนูของหวาน เช่น เมี่ยงคำ เต้าฮวย บัวลอยน้ำขิง น้ำตะไคร้ใบเตย"ธาตุไฟ" ได้แก่ คนที่เกิดในเดือน มกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม ลักษณะเด่นของคนธาตุไฟ คือ ขี้ร้อน ใจร้อน หงุดหงิดง่าย หลับง่าย แต่ตื่นเร็ว ผมหงอกเร็ว ข้อกระดูกหลวม สิ่งที่ควรระวังคือ มีอาการเผาผลาญที่ดี หิวบ่อย กินจุ ท้องเสียง่าย และระวังการควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้ดี อาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ อาหารที่มีรสขม จืด เย็น ตัวอย่าง เช่น มะระ มะรุม สะเดา ตำลึง ผักบุ้ง บวม แตงกวา แกงจืดตำลึง บวมผัดไข่ ผัดผักบุ้งไฟแดง ผัดคะน้าหมูกรอบ เมนูของหวาน เช่น น้ำแข็งใส น้ำเก๊กฮวย ไอศกรีม แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความแข็งแรงของร่างกาย เราควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันล่ะ 7- 8 แก้ว พร้อมทั้งออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฝึกการขับถ่าย ให้เป็นปกติประจำทุกวัน และที่สำคัญรักตัวเองให้มากๆ อย่าหักโหมทำงานหนัก ทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส เพราะสุขภาพกายที่ดี เริ่มได้ที่ตัวเราเอง ภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณ: https://www.pexels.com/th-th/photo/1640774/ภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณ รูปภาพจาก:https://dokkaew.wordpress.com/2013/04/26/ภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณ: https://www.pexels.com/th-th/photo/1640774/ภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณ: https://www.pexels.com/th-th/photo/1640774/