สวัสดีค่ะ ทุกคนกลับมาพบกับ Diary Therapy กันอีกครั้งนะคะ ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็วแบบนี้ เลี่ยงไม่ได้ที่เราจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ หากใช้ให้ถูกวิธีก็เกิดประโยชน์ แต่หากใช้ผิดวิธีก็อาจส่งผลเสียได้ ยิ่งเด็กยุคใหม่ที่เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี ที่เต็มไปด้วยสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต แต่ก็มีโทษได้ค่ะหากเด็กใช้เกินความจำเป็น แล้วจะทำอย่างไรหากลูกติดสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ทางออกที่ดีที่เราใช้คือการทำให้ลูกเห็นถึงข้อเสียของการใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เกินความจำเป็นค่ะ พูดปากเปล่าเด็ก ๆ อาจไม่เห็นภาพ เราต้องมีผู้ช่วยและภาพประกอบอย่างการใช้หนังสือค่ะ หนังสือที่อยากแนะนำทุกคนในวันนี้คือ เรื่อง “ถ้าเอาไอโฟนให้เจ้าหนูน้อยจะเกิดอะไรขึ้น” เขียนโดย “Ann Droyd” แปลโดย “สวิณี แสงสิทธิชัย (ซวีนี่)” จากสำนักพิมพ์ “ วายเอฟ คัลเจอร์” ราคาเล่มละ 240 บาท“ถ้าเอาไอโฟนให้เจ้าหนูน้อยจะเกิดอะไรขึ้น” เป็นหนังสือภาพที่มีตัวละครหลักคือเด็กชายหนึ่งคนกับ หนูน้อยหนึ่งตัว ผู้อ่านจะได้ตามติดชีวิตของตัวละครหลักทั้งสอง เมื่อเจ้าหนูมีชื่อว่า "แอปเปิ้ลซอส" ได้รับไอโฟนเป็นของเล่นแก้เบื่อจากเด็กชาย เนื่องจากเด็กชายต้องการที่จะอยู่คนเดียวสัก 10 นาทีเพื่อทำธุระจึงได้ยกไอโฟนให้หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส ในหนังสือเน้นคำว่า แค่สิบนาทีนะ ประโยคนี้คุ้น ๆ กันไหมคะ ผู้ปกครองหลายคนคงเคยใช้คำนี้กับลูกแล้วยื่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ให้เหมือนกันใช่ไหมค่ะ แล้วคงเจอภาพเดียวกัน นั่นคือ หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส ก้มหน้าก้มตาดูหน้าจอทั้งวัน ไม่ถามหาคุ้กกี้ที่เคยอยากกิน เมื่อเด็กชายผู้ยกไอโฟนให้หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส ทำธุระเสร็จแล้วจึงเรียก หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส เพื่อจะชวนไปเที่ยวแต่สิ่งที่เจอคือ หนูน้อยไม่ได้ยินสิ่งที่เด็กชายเรียกเลยเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาดูที่หน้าจอ เด็กชายพา หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส แต่ก็ไม่ได้สนใจสถานที่ไปเลยสักนิดเพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาดูที่หน้าจอ ทำให้หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส ไม่ได้ยิน ไม่เห็นและไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบตัวสิ่งที่หนังสือต้องการสื่อในมุมมองผู้อ่าน คิดว่าเด็กชายในเรื่องก็คงเปรียบเสมือนกับผู้ปกครองอย่างเราที่เวลาต้องทำงานหรือธุระบางอย่างแล้วไม่อยากให้ลูกวนก็มักจะเลี้ยงลูกด้วย สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และหนูน้อยแอปเปิ้ลซอส ก็เปรียบเสมือนกับลูกหลานของเราค่ะ สิ่งที่ หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส พลาดไปคือความสนุกบนโลกแห่งความเป็นจริง เกิดเรื่องไม่คาดฝันหลายเรื่องที่เกินขึ้นในหนังสือแต่หนูน้อยแอปเปิ้ลซอสก็ไม่ได้รับรู้เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งหนังสือเล่มนี้ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับทุกเพศทุกวัยค่ะ โดยเฉพาะพ่อแม่ที่กำลังมีปัญหาเรื่องการสอนให้เด็ก ๆ รู้จักการใช้เทคโนโลยีให้ถูกต้อง และไม่เกินความจำเป็น สิ่งที่สามารถนำมาสอนลูกได้อย่างหนึ่งคือ การที่ตัวละครอย่างหนูน้อยแอปเปิ้ลซอส พลาดไปคือความสนุกบนโลกแห่งความเป็นจริง ไม่เพียงแค่หนูน้อยแอปเปิ้ลซอส เด็ก ๆ ก็เช่นเดียวกันหากมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเพราะสิ่งที่อยู่ในจอเราไม่สามารถสัมผัสความสนุกอื่น ๆ ที่รอเราอยู่ค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ นอกจากพ่อแม่แล้ว คุณครูก็สามารถนำหนังสือมาใช้สอนเด็ก ๆ ได้นะคะ เป็นหนังสือที่สอนการใช้เทคโนโลยีได้ดีเล่มหนึ่งเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ปิดเทอมยาวแบบนี้ชวนลูกทำกิจกรรมอย่างเช่นการอ่านหนังสือก็ช่วยลดการเล่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ค่ะผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะถูกใจทุกท่าน ไว้พบกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ขอฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีค่ะ ติดตามบทความอื่น ๆ ที่นี่ค่ะ : Diary Therapyสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ร้านหนังสือนายอินทร์ , ร้านหนังสือซีเอ็ดบุ๊ค Diary Therapyเครดิตรูปภาพ :ภาพหน้าปก , ภาพประกอบที่ 1, ภาพประกอบที่ 3 โดย : ผู้เขียนภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay