อื่นๆ

เรื่องหลอน เทริดมโนราห์

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องหลอน เทริดมโนราห์

ตอนนั้นผมกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หรือ ม. 5 นั้นเอง ทางโรงเรียนได้เปิดรับสมัครแดนเซอร์ชายประจำวงลูกทุ่งของโรงเรียน ผมกับเพื่อน ๆ จึงชวนกันไปสมัคร สมัครเสร็จคุณครูก็ได้นัดวันที่จะเก็บตัวซ้อม โดยแดนเซอร์ นักร้อง นักดนตรี จะต้องเข้ามาเก็บตัวซ้อมและนอนในโรงเรียนทุกคน โดยนักดนตรีก็จะนอนห้องดนตรี แดนเซอร์หญิงกับนักร้องหญิงจะนอนห้องซ้อมเต้น ส่วนแดนเซอร์ชายจะไปนอนบ้านพักครูหลังเก่า หน้าทางเข้าหอพักนักเรียน ซึ่งตอนนั้นมีแดนเซอร์ชายทั้งหมด 8 คน ก็อยู่ซ้อมกันปกติไม่มีอะไร

ห้องเรียน

หลังจากเริ่มซ้อมได้ประมาณเกือบ 1 เดือน ทางโรงเรียนก็ได้ประกาศจะจัดกิจกรรมกีฬาสี ในช่วงต้นเดือนธันวาคม คุณครูที่อยู่หมวดศิลปะก็ได้เริ่มหาคนที่จะมาเป็นคฑากรโรงเรียน

คืนนั้นเหล่าแดนเซอร์ก็ซ้อมกันปกติ และคุณครูที่กำลังหาคฑากรโรงเรียนก็ได้มาดูการซ้อมต่าง ๆ อยู่ ๆ แกก็พูดขึ้นมาว่า “พวกเทอ ๆ พวกแดนเซอร์ชายอ่ะ มาเป็นคฑากรโรงเรียนมั้ย” พวกเราที่ซ้อมเต้นกันอยู่ก็ถามไปว่า “จะให้ใครเป็นครับ มีตั้ง 8 คน” คุณครูก็เลยบอกว่าเป็นกันทั้ง 8 คนนี้แหล่ะ พวกเราก็ตกลงเพราะยังไม่มีใครเคยเป็นมาก่อน และน่าจะสนุกดี...

Advertisement

Advertisement

ห้องเรียน

...พวกเราก็ซ้อมเต้นกันมาเรื่อย ๆ ซึ่งเหลืออีก 2 วันก็จะถึงวันกีฬาสี ซึ่งพวกเราจะต้องมาแต่งตัวคฑากร วันนั้นเป็นวันศุกร์คุณครูก็ถามว่าเสาร์ – อาทิตย์นี้ใครจะกลับบ้านบ้าง ทุกคนกลับกันหมด เหลือผมกับเพื่อนอีกคนที่ไม่กลับ จึงขอคุณครูที่จะนอนที่โรงเรียนต่อ คุณครูก็ตกลงไม่ได้ว่าอะไรให้นอนต่อได้ แต่จะต้องมานอนที่ห้องพักของแดนเซอร์หญิง พวกเราก็โอเค เพราะผมมีเพื่อนที่เป็นนักดนตรี ที่พักอยู่ห้องดนตรีซึ่งมันก็ไม่ได้กลับบ้านเหมือนกัน ผมกับเพื่อนกะว่าจะไปนอนห้องดนตรีกับเพื่อนอยู่แล้ว หลังจากที่นัดแนะกับคุณครูเสร็จเรียบร้อย ผมกับเพื่อนจึงเอาผ้าไปซักที่หน้าโรงเรียน ตกเย็นเราก็ได้ไปเอาผ้ากลับมาตากที่ห้องพักแดนเซอร์หญิง ตอนนั้นเป็นช่วงโพล้เพล้พอดี เมื่อตากเสร็จผมกับเพื่อนก็ได้ไปนั่งเล่นโทรศัพท์กับเพื่อนหน้าห้อง โดยได้เปิดพัดลมมาจ่อหน้ากันคนละตัว นั่งเล่นไปซักพักก็มีรุ่นพี่ ม. 6 เดินขึ้นบันไดมาพร้อมกับถือเทริดมโนราห์มา เพื่อที่จะเอาไปไว้ที่ห้องดนตรีไทย ซึ่งห้องดนตรีไทยอยู่ถัดจากห้องที่ผมอยู่ไป 1 ห้อง ขณะที่รุ่นพี่เดินผ่านแกก็แซวผมกับเพื่อนว่า “ฝากของด้วยนะ” ผมกับเพื่อนก็หัวเราะกันไม่ได้คิดอะไร ก่อนกลับไปรุ่นพี่ก็เดินผ่านหน้าห้องเหมือนเดิม แกก็พูดกับพวกผมว่า “มีอะไรก็ไปหาพี่ที่ห้องชมรมอาคาร 2 นะ” ซึ่งตอนนั้นอยู่อาคาร 4 พวกผมก็ตอบแกว่า “ครับ”

Advertisement

Advertisement

เล่นโทรศัพท์

หลังจากนั้นผมกับเพื่อนก็นั่งเล่นโทรศัพท์กันปกติ โดยพัดลมก็จ่อหน้ากันทั้ง 2 คน ตอนนั้นทั้งห้องกลิ่นคือหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มมาก เพราะพึ่งตากผ้าไป จู่ ๆ ก็ได้กลิ่นเหม็นขึ้นมา เหม็นแบบบรรยายไม่ถูก เหม็นจนทนไม่ไหว ผมกับเพื่อนจึงหันมามองหน้ากัน จากนั้นก็วิ่งพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย วิ่งแบบไม่คิดชีวิต ทั้ง ๆ ที่มีรถจักยานยนต์ แต่ไม่คิดที่จะขี่ไป คิดได้อย่างเดียวคือวิ่งไปอาคาร 2 ไปหาพี่คนนั้น คนที่แกเอามาแล้วบอกว่าฝากของด้วย ...

เมื่อถึงห้องที่แกอยู่ แกก็ถามว่าเป็นอะไร วิ่งหนีอะไรมา พวกผม 2 คนก็เล่าให้แกฟัง แต่ด้วยความกลัวก็เล่าแบบตะกุกตะกัก ฟังไม่รู้เรื่อง รุ่นพี่บอกว่าหยุดก่อนตั้งสติก่อน ค่อย ๆ เล่า ไม่ต้องกลัว ผมกับเพื่อนก็ตั้งสติ แล้วเล่าสิ่งที่เจอให้รุ่นพี่ฟัง รุ่นพี่ก็ขอโทษเป็นการใหญ่ แล้วก็บอกให้อยู่ที่ห้องพี่ก่อนก็ได้ ผมกับเพื่อนก็อยู่ในห้องนั้นจนรู้สึกว่าโอเค ตั้งสติได้ จึงกลับไปที่ห้องแล้วเอาผ้าไปอาบน้ำ แล้วก็โทรหาเพื่อนที่เป็นนักดนตรีให้มารับไปหาไรกินกัน คืนนั้นผมกับเพื่อนก็ไปนอนห้องดนตรีกับเพื่อนอีก 2 คน คืนนั้นผมนอนด้วยความระแวง จนเผลอหลับไป ....

Advertisement

Advertisement

ตื่นเช้ามาผมและเพื่อน ๆ ก็มานั่งพูดคุยกันเรื่องกลิ่นที่เจอว่าตกลงมันมาจากไหน แต่พวกเราก็บอกไม่ได้ว่ามาจากไหน จึงไปถามคุณครู แกก็บอกว่าอาจเป็นกลิ่นจากกองขยะหลังตึกก็ได้ เพราะหลังตึกก็มีกองขยะ จนปัจจุบันก็ยังหาที่มาของกลิ่นไม่ได้....

เครดิตภาพ : ภาพปก / 1 / 2 / 3

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์