อื่นๆ

เรื่อง จริงไหม?? คนที่ร่าเริงที่สุดจะมีเรื่องราวที่น่าสงสารที่สุด

1.3k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่อง จริงไหม?? คนที่ร่าเริงที่สุดจะมีเรื่องราวที่น่าสงสารที่สุด

คนสำหรับเราเอาจริงๆมันก็แล้วแต่คนล่ะค่ะ ทุกคนต้องมีทั้งเรื่องราวดีๆและแย่ๆในชีวิต แต่ขึ้นอยู่กับคนล่ะว่าจะนำเรื่องราวที่ผ่านมานั้นมาตอกย้ำตัวเองหรือมาพัฒนาตัวเองหรือเปล่า ซึ่งเราก็เป็นบุคคลคนๆหนึ่งที่เป็นคนที่ร่าเริงและมักจะเป็นคนที่พูดมากมากที่สุดของกลุ่มอยู่เสมอ แต่มีเรื่องราวที่น่าสงสารจริงไหม เอาจริงๆก็แล้วแต่คนจะมองค่ะ ว่าเรื่องราวนั้นๆที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วน่าสงสารจริงไหม เพราะฉะนั้นวันนี้จะมาดูกันค่ะว่า “อะไรทำให้เราคิดว่าเรื่องของเรามันเศร้าและน่าสงสารกว่าคนอื่นๆ”

ผู้คน

สิ่งแรกเลยค่ะที่จะทำให้เรารู้สึกแย่และเฟลมากๆเลยคือการที่เรามาตอกย้ำเรื่องราวของตนเองโดยการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นๆค่ะ เอาจริงๆถ้าเราไม่มาเปรียบเทียบว่า “ทำไมคนนั้นถึงได้อย่างนั้น ทำไมคนนี้ถึงไม่เหมือนเรา”เราก็คงที่จะไม่นำมาตอกย้ำตัวเราหรอกค่ะ และคำตอบของคำถามทั้งหมดที่ทุกคนอาจจะเคยถามกันว่าทำไม... เอาจริงๆก็ง่ายมากๆเลยค่ะ สิ่งนั้นก็คือ “ทุกคนไม่เหมือนกันนั่นเอง...”ถ้าถามว่าทำไมถึงคิดว่าเป็นคำตอบนี้หล่ะ?? เอาจริงๆนะคะ แม้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันแต่ทุกคนไม่ได้ถูกเลี้ยงมาเหมือนกัน.. เพราะทุกคนมีนิสัย ความคิด ความสามารถ สมองเป็นของตัวเอง วิธีการรับมือของผู้ปกครองแต่ละคนจึงแตกต่างกันไปค่ะ เช่นพี่สาวโดนเอาใจมากเพราะผู้ปกครองอาจคิดว่าถ้าเอาใจคนๆนี้แล้วพี่สาวจะทำตัวดีขึ้น แต่บางคนยิ่งโดนเอาใจก็จะยิ่งเหลิงและทำตัวแย่ลงก็มีค่ะ เห็นไหมคะว่าความคิดของคนเราสำคัญและแตกต่างกัน แล้วถ้าบวกกับสังคมที่เราเติบโตมามันก็คงที่จะไม่มีคนไหนที่จะมีความคิดความอ่านตรงกันทุกเรื่องหรอกค่ะ จึงนำพาให้ไปเกิดการเปรียบเทียบว่าคนนั้นคนนี้ได้ ทำไมเราถึงไม่ได้?? ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหา เราก็แค่หยุด!! ที่จะเปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่นๆค่ะ มันจะรู้สึกดีขึ้นมาเลยจริงๆ และทำให้นิสัยดีขึ้นด้วยค่ะ

Advertisement

Advertisement

คน

สิ่งที่สองที่เราคิดขึ้นมาได้ก็น่าจะเป็นความรู้สึกในช่วงนั้นของเราค่ะ ความรู้สึกของเรามีอิทธิพลต่อเรามากนะคะ ทั้งสีหน้า ท่าทาง การปฏิบัติตนกับคนอื่นๆ หรือการให้กำลังใจตนเองก็ตาม ถ้าสมมุติว่าเรามีเรื่องราวในช่วงนั้นแย่ๆ ทำให้อารมณ์ไม่ดี เราอาจจะเผลอทำตัวแย่ๆใส่คนอื่น แม้อาจจะเป็นแค่สีหน้า ท่าทาง ก็สามารถอาจจะทำให้เรามีช่วงเวลาที่แย่ลงขึ้นไปอีกก็ได้ค่ะ เพราะฉะนั้นเราควรที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองให้ดี และควรที่จะปลดปล่อยออมาบ้าง ทั้งการเล่า การเขียน การร้องไห้(สำคัญสุด) การร้องไห้สำคัญจริงๆนะคะ ถ้ามีเรื่องน่าหนักใจจริงๆ ก็ควรหาที่เงียบๆกับคนที่เชื่อใจหรือไม่ก็ร้องคนเดียวก็ได้ถ้าไม่อยากให้ใครเห็น ปล่อยออกมาให้หมดเลยค่ะ จะเก็บความเศร้าไว้ทำไมคะ เราปล่อยให้น้ำตาล้างความเศร้าออกไปจะดีกว่า ถ้าทุกคนอยากมีช่วงเวลาดีๆเยอะขึ้น ก็ควรจะยิ้มและปรับสีหน้าให้ร่าเริงแต่ก็ควรให้รู้สถานการณ์นะคะ ปรับให้การยิ้ม สีหน้า การปฏิบัติตัวให้ดี แล้วช่วงเวลาดีๆก็จะเข้ามาหาเราเองค่ะ

Advertisement

Advertisement

รุป

เรื่องราวแย่ๆที่จะเกิดขึ้นมาก็ขึ้นกับอารมณ์กับความคิดของเราค่ะ ว่าจะให้มันแย่หรือเป็นแค่การเรียนรู้ของช่วงเวลาชีวิตช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น จะยาวหรือสั้นก็ขึ้นแต่เราล่ะค่ะ ว่าเราจะออกจากมันได้เร็วไหมเราจะปรับตัวปรับความคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ทุกข์สักนิด แค่เรื่องแย่ๆแป๊บเดี๋ยวก็ไปยังไงคนเราก็อายุเฉลี่ยที่70ปี เวลามันสั้นจริงๆนะคะ เพราะฉะนั้นรีบออกมาจากความเศร้าเถอะค่ะ ปัจจัยที่เรายกตัวอย่างไปสองสิ่งอาจจะยังไม่หมดเพราะมีหลายปัจจัยแน่นอนค่ะ แต่มันน่าจะสำคัญสุดจึงเอามา ขอบคุณที่อ่านค่ะ

เครดิต

ภาพปกวาดเอง

ภาพที่1

ภาพที่2

ภาพที่3

ภาพที่4

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์