เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการจัดการเรียนการสอนออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 เนื่องมาจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา การเรียนแบบออนไลน์จะเรียกว่าใหม่สำหรับคนไทยก็ไม่ใช่ แต่ต้องเรียกว่าใหม่สำหรับบางพื้นที่ ดังนั้นเรามาดูว่า เรียนออนไลน์ DLTV ปี 2563 ลักษณะการเรียน และ ข้อดี-ข้อด้อย มีอะไรบ้างปลายเดือนเมษายน 2563 ได้รับลิงก์การเรียนออนไลน์จากทางโรงเรียน เพื่อให้เด็กได้เรียนล่วงหน้าก่อนเปิดเทอม ซึ่งเราได้เขียนบทความไว้ในเรื่อง DLTV เรียนออนไลน์ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม เราได้นำมาปฏิบัติเพื่อทดลองให้ลูกเรียนล่วงหน้า จัดตารางเรียนไว้เรียบร้อย แต่ทำได้เพียงอาทิตย์เดียวก็ไม่สามารถทำต่อได้ เพราะไม่ได้รับคำแนะนำใด ๆ จากใคร ส่งมาแค่ลิงก์ให้ไปเรียนเอง ซึ่งเป็นวีดีโอการสอนของปี 2562 เราไม่รู้เลยว่าในปี พ.ศ.2563 ที่จะเรียนในเทอมแรกหลักสูตรเป็นอย่างไร จะเรียนหัวข้ออะไรบ้าง เรียนไปก็ไม่รู้ว่าเรียนถูกจุดหรือเปล่าก่อนเริ่มเรียนออนไลน์ DLTV พร้อมกันทั่วประเทศ8 พฤษภาคม 2563 ได้รับข่าวสารจากไลน์ผู้ปกครองว่า จะมีการเรียนออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ถึง 30 มิถุนายน 2563 กรอกแบบสอบถามเรื่องความพร้อมในอุปกรณ์การเรียน การติดต่อกับครูประจำวิชา เนื่องจากลูกสาวกำลังจะขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จึงสามารถรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว เด็กมีความกระตือรือร้นที่จะเรียน ใส่ใจติดตามข้อมูลข่าวสารจากไลน์กลุ่มของครูประจำวิชาวันแรกของการเรียนออนไลน์ DLTV18 พฤษภาคม 2563 เริ่มเรียนออนไลน์พร้อมกันทั่วประเทศ เรามั่นใจมากกับการเรียนผ่านสัญญาณอินเทอร์เนต ไม่ได้ดูเลยว่า ถ้าเรียนทางทีวีต้องดูช่องไหน ปรากฎว่าวันแรกของการเรียน เน็ตล่ม เข้าไม่ได้ หมุนวนเรื่อย ๆ จึงต้องรีบเปิดทีวี หาช่องการเรียนที่ถูกต้อง และนั่งเรียนหน้าทีวี เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง จึงสามารถเข้าเรียนทางอินเทอร์เน็ตได้ตามปกติลักษณะการเรียน DLTV ลักษณะการเรียนก็คือการนำวีดีโอของปี 2562 มารีรันใหม่ ให้เรียนสดพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษา ใช้เวลาเรียนประมาณ 50-60 นาทีในแต่ละวิชา ช่วงเช้าเริ่มต้นเรียน 08.30น. -11.30 น. พักรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมง และช่วงบ่ายเรียนเพียง 1-2 วิชา เวลา 12.30-14.30 น.การสื่อสารกับครูที่โรงเรียนที่โรงเรียนมีการใช้ Google Classroom เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารกับทางโรงเรียนและครูประจำวิชาในการสั่งงาน ทำใบงาน แบบฝึกหัด นัดหมาย หรือแจ้งกิจกรรม ซึ่งนักเรียนต้องใช้รหัสผ่านของทางโรงเรียนในการเข้าเรียน โดยแบ่งการเรียนในแต่ละชั่วโมงดังนี้ เรียนทางไกล DLTV พร้อมกัน 50 นาที และเข้ามาเรียนกับครูประจำวิชาผ่านออนไลน์ 10 นาทีโดยในช่วงแรกนั้น เป็นช่วงทดลองระบบ บางวิชาครูอาจจะหาช่องทางติดต่อนักเรียนที่สะดวกที่สุดคือทางไลน์กลุ่มแทนก่อน เพื่อให้นักเรียนทำงานกลุ่มมาส่งหลังจากฟังบรรยายออนไลน์เสร็จสิ้น เมื่อการทดสอบระบบสิ้นสุด ก็จะเริ่มใช้ระบบ Google Classroom อย่างเต็มรูปแบบความรู้สึกของนักเรียนหลังจากเรียนออนไลน์ -บางวิชาที่ประกอบด้วยเนื้อหาทั้งหมด เช่น สังคมศึกษา ทำให้เด็กสามารถจดตามไปได้ แต่บางวิชาที่ต้องมีกิจกรรมการทดลองมากหน่อย เช่น วิทยาศาสตร์ ผู้เรียนทางไกลไม่สามารถทำตามได้ ขาดความสนใจในบทเรียน เกิดความเบื่อหน่าย-บางวิชาที่เป็นเรื่องเฉพาะ เช่น ภาษาอังกฤษ มีเนื้อหาที่ง่ายเกินไป ทำให้นักเรียนทางไกลรู้สึกว่าน่าเบื่อ และไม่ค่อยได้เนื้อหาเพิ่มเติม เพราะอาจจะเคยเรียนมาแล้ว-ความกระตือรือร้นในการเรียนค่อย ๆ ลดลง แต่ก็ต้องเข้าเรียนตามตาราง เพราะมีครูทางโรงเรียนคอยสั่งงานออนไลน์อยู่เป็นระยะข้อดีของการเรียนออนไลน์1. ไม่ต้องออกจากบ้านเพื่อไปโรงเรียน ประหยัดเวลาในการเดินทาง เลี่ยงปัญหาจราจร ช่วงลดมลภาวะทางอากาศ2. ลดปัญหาด้านสุขภาพ ที่มักเกิดจากการเรียนร่วมกันในห้องเรียน3. เด็กได้ใช้เวลาว่างในแต่ละวันไปกับการเรียน ไม่ว่างจนเกินไป4. มีสื่อการเรียนการสอนให้ดาวน์โหลด เพื่อใช้ประกอบการเรียน และสามารถเรียนซ้ำได้ ถ้าจดไม่ทัน ข้อด้อยของการเรียนออนไลน์1. เนื่องจากนักเรียนในแต่ละพื้นที่ มีพื้นฐานการศึกษาไม่เท่าเทียมกัน การเรียนเหมือนกันและพร้อมกันในระยะยาว อาจจะไม่ใช่การเรียนที่ตอบโจทย์ในการพัฒนาด้านการศึกษาให้กับเด็ก2. เป็นการศึกษาโดยการฟังทางเดียว เด็กไม่สามารถทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนได้3. เด็กไม่สามารถพูดคุย สนทนาหรือถามคำถามกับครูผู้สอนได้โดยตรง4. เนื้อหาบทเรียนไม่เข้มข้น ส่วนใหญ่เป็นการทำกิจกรรม ซึ่งผู้เรียนทางไกลไม่สามารถทำได้การเรียนออนไลน์ในช่วงนี้ คล้าย ๆ กับการเรียนปรับพื้นฐานเท่านั้น หลังจากที่โรงเรียนสามารถเปิดเทอมได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ก็จะเริ่มเรียนเต็มรูปแบบตามปกติ ซึ่งก็มีเนื้อหาคล้ายกับที่เราเรียนมาแล้ว แต่จะมีเพิ่มเติมมากขึ้นจากเดิม ดังนั้นนักเรียนและผู้ปกครองทั้งหลายก็ไม่ต้องเครียดกันมากนะคะสำหรับเด็กในกรุงเทพ ฯ อาจจะคุ้นเคยกับการเรียนออนไลน์หน้าจอคอมพิวเตอร์กันบ้างไม่มากก็น้อย ก็สามารถปรับตัวกันได้อย่างรวดเร็ว แต่ว่าเด็กในต่างจังหวัดที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ทั้งโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ อาจจะต้องขวนขวายในการศึกษามากขึ้น และนี่ก็ชี้ให้เห็นว่า ระบบการศึกษาไทยยังต้องพัฒนากันต่อไป แต่ก็ถือว่านี่คือจุดเริ่มต้นที่ดี เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้พัฒนาระบบการศึกษาของไทยให้ก้าวหน้าต่อไปภาพปกโดยนักเขียน / รูปที่ 1 / รูปที่ 2 / รูปที่ 3 โดยนักเขียน / รูปที่4 / รูปที่ 5 / รูปที่ 6