สวัสดีค่ะ ทุกคนกลับมาพบกับ Diary Therapy กันอีกครั้งนะคะ ในยุคปัจจุบันนี้มีหนังสือที่ออกมาเพื่อโค้ชเราหลากหลายเล่ม หนึ่งในนั้นที่ชอบเป็นการส่วนตัวคือ “อัจฉริยะใช้เงินเป็น” เขียนโดย “ผู้เขียน "เกริกพล มัสยวานิช” จากสำนักพิมพ์ “อมรินทร์ How To”ราคาเล่มละ 215 บาทค่ะ หากพูดถึงคุณฟลุ๊ค เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงภาพของผู้ชายที่ดูดีทั้งหน้าตาและบุคลิก ร่วมทั้งฉายา "คาสโนว่า ฆ่าไม่ตาย" ซึ่งเชื่อว่าสาว ๆ หลายคนติดภาพนี้ของคุณฟลุ๊คแน่นอน แต่อาจมีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าคุณฟลุ๊คเป็นนักลงทุนและยังหาเงินเก่งมากอีกด้วยค่ะหนังสือ “อัจฉริยะใช้เงินเป็น” ที่นำมาแนะนำในวันนี้เป็นหนังสือที่มาจากประสบการณ์ของผู้เขียนอย่าง "คุณฟลุ๊คเกริกพล มัสยวานิช” แน่นอนว่าเราจะได้มุมมองในการใช้เงินเป็นในสไตล์คุณฟลุ๊ค นั่นเองค่ะ หนังสือจะเริ่มบอกเราถึงการเริ่มต้นทางการเงินก่อนค่ะ คือการคิดและบอกกับตัวเองเสมอว่า ต้องหาเงินอย่างไร อย่างในหนังสือจะคิดแบบการหาเงินให้ได้หลายทาง และเมื่อเราได้เงินมาแล้วเราจะทำการจัดการเงินนั้นอย่างไร เราจะแบ่งการเก็บเงินแบบไหน และการใช้เงินที่เราหามาเนี่ย เราจะใช้เงินอย่างไรถึงจะเรียกว่าเป็น “อัจฉริยะใช้เงินเป็น”เนื้อหาจะเป็นรูปแบบการหาเงิน เก็บเงิน และใช้เงินในสไตล์ของคุณฟลุ๊ค ซึ่งหากอ่านตามอย่างเดียวเชื่อว่าหลายคนคงอาจไม่ถูกใจ เพราะบางอย่างที่เป็นสไตล์คุณฟลุ๊ค นั่นคือสไตล์การหาเงิน เก็บเงินและใช้เงินแบบคนรวยค่ะ อาจเกิดข้อสงสัยว่าแล้วอย่างเราที่ไม่ได้มีรายได้มากล่ะจะสามารถอ่านได้ไหม อ่านได้แน่นอนค่ะเพียงเราเริ่มปรับ Mindset ทางการเงินของเราเอง แค่สไตล์ที่คุณฟลุ๊คถ่ายทอดออกมาคือวิธีที่คุณฟลุ๊คใช้ในชีวิตจริงค่ะ ะนั้นเราเองสามารถปรับใช้ได้แน่นอน การสร้าง Mindset ในด้านการบริหารเงินในหนังสือเล่มนี้จะเริ่มแบ่งตามช่วงวัยของเราค่ะ ฉะนั้นหากผู้อ่านที่อายุยังน้อยมาเริ่มอ่านถือว่าโชคดีมากค่ะเพราะเป็นการเตรียมตัวได้เร็วยิ่งขึ้นในช่วงวัยแต่ละวัยที่คุณฟลุ๊คถ่ายทอดออกมาเป็นช่วงวัยที่เกิดขึ้นจริงผ่านประสบการณ์ของคุณฟลุ๊คเองค่ะ เริ่มตั้งแต่ในวัย 20 ปี อ่านแล้วต้องย้อนถามตัวเองเลยค่ะว่าในวัย 20 ของเรานั้นเรากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งเราจะได้เห็นแนวคิดและการหาเงินของคุณฟลุ๊คที่ถือว่าเก่งมากเลยค่ะ สิ่งที่ได้จากหนังสือโดยส่วนตัวแล้วคือแนวคิดของการลงทุนอย่างการซื้อคอนโดมิเนียมที่คุณฟลุ๊คสามารถนำมาเกร็งกำไรได้ในภายหลัง เราอาจจะมองว่าเงินเดือนอย่างเราจะซื้อไว้เกร็จกำไรค่อนข้างยาก แต่หากอ่านแล้วทุกคนจะพบว่าการจะซื้อของมาเพื่อมาเกร็งกำไรนั้นต้องผ่านกระบวนการทางด้านความคิดอะไรบ้างนั้นเองค่ะอีกหนึ่งเรื่องที่ชอบมาก ๆ ในหนังสือเล่มนี้และเชื่อหลายคนต้องใช้แน่นอนนั้นคือ บัตรเคดิตประเภทต่าง ๆ ซึ่งคุณฟลุ๊คบอกระเอียดมากค่ะแนวคิดการใช้บัตรเคดิตที่เลือกผลตอบแทนจากการใช้บัตรนั้นเป็นเรื่องที่เราเองอาจมองข้าม บางคนก็ได้แค่นำมาผ่อนของหรือรูดแทนเงินสดแล้วก็จ่ายหนี้ไปโดยไม่ได้สนใจรายละเอียดของบัตรเลย อย่างในหนังสือจะเห็นว่า การเลือกถือบัตรเคดิตประเภทที่สะสมไมล์ได้เยอะ คือมีการศึกษาว่าใช้บัตรไหนจ่ายอะไร ถึงคุ้มค่าสูงสุด หรือแม้แต่การลงทุนกับของสะสมที่ขายแล้วสามารถทำกำไรได้ดีอย่างนาฬิกา หลายคนก็อาจแย้งว่า เงินเดือนอย่างเราจะไปหาเงินแบบเขาได้ยังไงส่วนตัวคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องหาเงินได้แบบเขาก็ได้ค่ะ แต่เราสามารถนำแนวคิดของเขามาใช้กับเราโดยเลือกให้เหมาะสม ซึ่งเรายังมีสิ่งที่เรารักที่สามารถทำเป็นรายได้เสริมในยามว่างได้ อาจไม่จำเป็นต้องหารายได้จากการสะสมนาฬิกาค่ะ เพราะเราต่างมีสิ่งที่ชอบและอาจของสะสมที่เราชอบอาจมีคนที่สนใจและอยากซื้อของบางสิ่งที่เราสะสมได้ค่ะ หลังจากที่อาจก็มองกลับไปที่ห้องของตนเองและมองว่าเราชอบอะไรและสะสมอะไรอยู่สามารถนำมาสร้างมูลค่าได้ไหม บัตรเครดิตที่เราถืออยู่มีคุณสมบัติอย่างไรก็ทำให้ศึกษาบัตรของตัวเองอย่างจริงจังมากขึ้นค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ เนื้อหาในเล่มไม่ได้มีเพียงเท่านี้ยังมีเคล็ดลับอีกหลายเรื่องที่อยากแนะนไให้อ่านค่ะ แล้วเราจะได้มุมมองไว้เป็น “อัจฉริยะใช้เงินเป็น” ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะถูกใจทุกท่าน ไว้พบกันคราวหน้าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ขอฝากติดตามผลงานกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องลาไปก่อนสวัสดีค่ะ ติดตามบทความอื่น ๆ ที่นี่ค่ะ : Diary Therapyสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ร้านหนังสือซีเอ็ดบุ๊ค Diary Therapyเครดิตรูปภาพ :ภาพหน้าปก , ภาพประกอบที่ 1, ภาพประกอบที่ 3 โดย : ผู้เขียนภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณรูปภาพจาก : Pixabay