ต้องยอมรับเลยนะครับว่าในปัจจุบันมีคนไทยจำนวนที่สนใจไปเรียนภาษาต่อที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาจีนที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากทั้งในชีวิตประจำวัน และในเรื่องของการทำงาน จึงเป็นเหตุให้นักเรียน นักศึกษาที่จบใหม่ รวมไปถึงคนทำงานเดินทางไปยังประเทศแม่อย่างประเทศจีนเพื่อเรียนภาษาจีนและจะได้นำกลับมาต่อยอดที่ไทยได้ครับ ก่อนอื่นเลย ผมต้องบอกว่าผมเป็นคนหนึ่งที่เดินทางไปเรียนภาษาที่ประเทศจีนมา เมืองที่ผมไปชื่อว่า เมืองหนานทงครับ เป็นเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยวุ่นวาน แต่ก็ไม่ได้ถือว่ากันดาร และนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ผมจะมาเขียนบทความเรื่องนี้ เพื่อที่ผมจะได้แชร์ความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผมได้รับให้กับเพื่อน ๆ ที่สนใจจะไปเรียนภาษาจีนที่ประเทศจีนกันครับ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาดูกันเลยครับ เมืองหนานทง เป็นเมืองเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในมณฑลเจียงซู ประเทศจีนครับ อยู่ใกล้เมืองที่ทุก ๆ คนรู้จักนั้นก็คือเมืองเซี่ยงไฮ้ครับ ห่างจากเซี่ยงไฮ้ประมาณ 2 ชั่วโมง เวลาเราบินไปก็ไปลงที่เซี่ยงไฮ้ครับ เพราะจากที่ไทยไปไม่มีบินตรงไปลงเมืองหนานทงครับ ถ้าจะลงที่เมืองหนานทงเลยต้องต่อเครื่องที่ฮ่องกง หรือไม่ก็เซินเจิ้นครับ ส่วนผมเลือกลงที่เซี่ยงไฮ้แล้วทางเอเจนซี่ที่ผมติดต่อจะประสานรถจากทางมหาวิทยาลัยมาไว้รอรับครับ (เอเจนซี่ผมเลือกใช้บริการของ OREN ครับ พี่ ๆ ดูแลดีมาก) มหาวิทยาลัยที่ผมไปเรียนชื่อว่า มหาวิทยาลัยหนานทง ครับ เมืองนี้มีมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งครับ และมหาวิทยาลัยหนานทงเองก็มีหลายวิทยาเขตด้วยครับ แต่ถ้าเป็นนักเรียนต่างชาติที่มาเรียนภาษาที่นี่ ส่วนมากก็จะมาอยู่วิทยาเขตนี้หมดเลยครับ อันนี้เราเลือกไม่ได้นะครับ ทางเอเจนซี่จะเป็นคนติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยให้เราเอง ซึ่งผมเลือกมหาวิทยาลัยหนานทง ก็ต้องมาเรียนที่วิทยาเขตนี้ครับ หลายคนอาจจะมีคำถามในหัวหลายคำถามนะครับ ผมจะพยายามอธิบายในส่วนที่เพื่อน ๆ ควรรู้ก่อนมาเรียนครับ 1. ที่นี่พอเรามาเรียน ถึงจะเป็นคนที่มาเรียนแค่ภาษา ก็ถือว่าเป็นนักศึกษาคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยครับ มีบัตรนักศึกษาให้ สามารถเข้าห้องสมุดได้ อยู่หอพักนักศึกษา(ต่างชาติ) ทานอาหารในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยได้ เกือบจะทุกอย่างเลยครับ ที่เราได้รับเหมือนนักศึกษาจีนทั่วไป2. ที่นี่ตอนแรก ๆ การเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษนะครับ ต้องเตรียมตัวเรื่องนี้มาสำหรับใครที่ไม่ค่อยได้ภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเคร่งอะไรมาก พอฟังแล้วจับใจความได้ ก็เพียงพอเเล้วครับ มาที่นี่ผมบอกเลยว่าเผลอ ๆ ได้ทั้งภาษาจีนพ่วงทั้งภาษาอังกฤษกลับไปด้วยเลยครับ3.การเรียนจะแบ่งเป็นตารางเรียนเหมือนเราเรียนในมหาวิทยาลัยที่ไทยเลยครับ เพียงแค่วิชาเรียนของเราในแต่ละอาทิตย์มันน้อย เกือบจะทุกวิชาจึงเรียน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ครับ4. เพื่อน ๆ ในห้องเรียนอาจจะเป็นคนที่มาเรียนภาษาเหมือนเรา หรือเป็นนักศึกษาต่างชาติของทางมหาวิทยาลัยที่ต้องมาปูพื้นฐาน 1 ปี ก่อนที่เข้าเรียนทั้งของปริญญาตรีและปริญญาโทครับ5. อาจารย์ใจดีมากครับ สอนดี อธิบายแล้วเข้าใจง่าย (บางคนนะครับ)6. อย่างที่ผมบอกว่าถึงเราจะมาเรียนแค่ภาษาแต่ทางมหาวิทยาลัยมองเราว่าเป็นนักศึกษาต่างชาติคนหนึ่งของทางมหาวิทยาลัย ดังนั้นกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับคนที่ต้องมาปูพื้นฐานก่อนเรียน 1 ปี เราได้ไปด้วยทุก ๆ กิจกรรมครับ เช่น การออกไปดูงาน หรือ กิจกรรมศึกษาวัฒนธรรมจีน เราสามารถเข้าร่วมได้ทั้งหมดครับ 7. ด้วยความที่เราเป็นคนต่างชาติ คนจีนจะเป็นมิตรกับเรามาก ๆ ยิ่งเราบอกว่าเป็นคนไทยนี่ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ ดังนั้นการใช้ชีวิตอยู่ในหอพักนักศึกษาต่างชาติ จึงไม่ค่อยน่าเบื่อ เพราะส่วนมากคนจีนก็อยู่หอพักในมหาวิทยาลัยกันหมด จึงมีผู้คนพลุกพล่าน ไม่เงียบ และทำให้น่าอยู่มาก ๆ ครับ อย่างที่ผมบอกไปข้างต้นครับว่าเมืองหนานทงเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยวุ่นวาย แต่ก็ไม่ถือว่ากันดาร มีรถเมล์ครอบคลุมทุกพื้นที่ในเมือง แถมราคาถูกมากแค่ 1 - 3 หยวน (ประมาณ 5 - 15 บาท) ต่อสายขึ้นอยู่ว่าจะไปที่ไหน แถมมีห้างไว้ให้ซื้อของ ช้อปกันเพลิน ๆ ไม่มีเบื่อ เท่าที่ผมนับที่ผมเคยไปมีห้างใหญ่ประมาณ 5 ห้างครับ อารมณ์ไปเดินเซ็นทรัลในจังหวัด แต่ไม่ได้มีที่เดียวนะ มี 5 ที่ แล้วที่ผมยังไม่เจอและไม่ได้ไปอีกละ ถือว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในการใช้เงินมากใช่ไหมครับ (คิดไว้ว่าเราไปเรียนนะครับ) อีกที่หนึ่งคือเมืองนี้มีแหล่งซื้อของใช้ภายในบ้านที่ขึ้นชื่อเเละผมคิดว่าทุก ๆ คนน่าจะรู้จักกันดี นั่นคือ อิเกีย (IKEA) คือเดินจนเบื่อครับ เพราะมันใหญ่มาก และถูกมาก คือถ้าใครไปแล้วพอมีกำลังทรัพย์ไปบ้าง ผมแนะนำให้ซื้อที่นี่แล้วส่งกลับเอาครับ คือของถูกมาก ๆ คุ้มครับซื้อที่นี่แล้วส่งกลับไทยเอา เช่น กรอบรูปผมเห็นที่ไทยอันละเกือบ 200 บาท ที่อิเกียจีนขายแค่ 10 หยวน หรือ ประมาณ 50 บาทแค่นั้นครับ อย่างที่ผมบอกครับว่าเมืองนี้นั้นมีเสน่ห์มาก ที่ท่องเที่ยวอาจจะไม่เยอะ แต่ก็ไม่ได้น้อยหน้าใครครับ ลองไปดูภาพที่ผมถ่ายมาอวดกันครับ แหล่งช้อปปิ้งที่ครบครันเลยครับแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติก็ไม่ได้ขี้เหร่เลยนะครับ ใช้บัตรนักศึกษาที่จีนลดค่าเข้าไปอีก 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นต้องเที่ยวให้คุ้ม ต้องบอกก่อนว่าเราคือคนต่างชาติ ส่วนมากถ้าไปเที่ยวที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจะต้องได้เสียค่าเข้าเกือบจะทุกที่ครับ เหมือนฝรั่งมาบ้านเรา ก็ได้เสียเงิน แค่เข้าวัดยังเสีย ถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นเราไปเรียน แล้วได้บัตรจากมหาวิทยาลัย ซึ่งไปขอส่วนลดได้เลยต้องใช้ให้คุ้มครับ มาถึงขนาดนี้ หลายคนอาจจะมีคิดในใจนะครับว่าไปเที่ยวหรือไปเรียน ผมบอกได้เลยว่าไปเรียนครับ แต่ที่ผมเที่ยวเยอะคือผมออกไปใช้ภาษาจีนครับ ออกไปพูด ไปคุย ไปฟังคนจีนเขาบ้าง จะได้กล้าที่จะพูด และกล้าที่จะฟังในสิ่งที่เขาพูดครับ ผมยอมรับเลยนะครับว่าผมไปเรียน กลับมาผมสามารถพูดได้ สามารถฟังออก ถึงจะไม่ได้แบบมืออาชีพแต่ก็พอจับใจความได้บ้าง สื่อสารในสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารได้ แต่ในเมื่อเราเลือกที่จะออกมาข้างนอกมากกว่าที่จะนั่งท่องคำศัพท์ และคัดคำศัพท์ สิ่งที่ตามมาคือผมเขียนกับอ่านจะไม่ค่อยได้ครับ อันนี้เป็นสิ่งที่ผมผิดพลาด ก็บอกไว้เผื่อเพื่อน ๆ ที่กำลังคิดจะไปเรียนนะครับ ว่าถ้าทำควบคู่กันไปได้ก็ควรทำครับ ส่วนผม ผมเลือกไปในทางพูดและฟัง มากกว่าที่จะเขียนและอ่านครับ มาถึงประเด็นสำคัญเลย ซึ่งคนไทยเราไปไหนต้องไม่พลาดสิ่งนี้แน่ ๆ คืออะไรครับลองทายกันดู? ร้านเหล้านั่นเองครับ ถามว่าเมืองหนานทงมีไหน มีครับจะเอาแบบไหนครับ เปิดร้านนั่งชิว ๆ หรือเป็นผับ บาร์ มีหมดครับ แล้วจะรู้ได้ไงล่ะว่ามีที่ไหนบ้าง แล้วอยู่ตรงไหน มันก็วกกลับขึ้นไปข้างบนไงครับ ถ้าเราเป็นคนออกไปเที่ยว ออกไปพบปะเพื่อนคนจีนบ่อย ๆ เราก็จะมีข้อมูลตรงนี้ แถมมีคนพาไป บางทีมีคนเลี้ยงอีก การไปเรียนไม่ใช่แค่จะไปนั่งเรียนในห้องนะครับ การไปเรียนรู้การใช้ชีวิตที่นู้นก็ถือเป็นการเรียนเหมือนกัน แถมพูดภาษาจีนได้เร็วขึ้นด้วย ร้านก็ตามรูปครับหรือจะเป็นร้านนั่งชิว แอบกระซิบว่าเบียร์ที่จีนถูกมาก ๆ ถ้าใครไม่กลัวหน้าบวมซื้อกินทุกวันยังได้เลย ราคาเกือบจะเท่าน้ำเปล่า ตามรูปข้างล่างคือขวดละ 5 หยวน หรือประมาณ 20 กว่าบาท ถูกมาก ๆ เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับข้อมูลที่ผมได้นำเสนอไป ทั้งในส่วนของการเรียนที่ผมได้ทำเป็นข้อ ๆ ไว้เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้อ่านแบบสะดวก กับส่วนของการใช้ชีวิตที่นั่น ซึ่งทำรีวิวเกือบจะทุกเรื่องทั้งการกิน การอยู่ การเที่ยว และการดื่ม การที่ผมได้ไปเรียนที่นั่นถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของผมมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งของชีวิต และผมตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกที่จะไปเรียนภาษาจีน อย่างที่ผมบอกไปว่าผมไปเรียนไม่ใช่แค่ไปนั่งเรียนในห้อง พอเรียนเสร็จก็กลับห้องไปท่องหนังสือแบบหน้าดำเคร่งเครียด ผมอาจจะชิว ๆ ไปบ้างแต่อย่างที่ผมบอกว่าผมเน้นที่การพูดและการฟังครับ คนเรามีเป้าหมายในการเรียนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าให้ผมแนะนำเพื่อน ๆ ที่กำลังจะไปเรียนก็อยากจะเเนะนำให้ได้ในทุก ๆ ด้านครับถ้ามีเวลาพอ และคิดว่าจะทำได้ ผมได้ทำและได้ลองแล้ว แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับ คิดจะไปเปิดประสบการณ์และเพิ่มพูนทักษะทางด้านภาษาจีนเหมือนผมไหม? โดยทั้งหมดทั้งมวลที่ผมเสนอไปนี้ก็คือบทความ เรียนภาษาจีน ณ เมืองหนานทง ประเทศจีน ได้อะไรมากกว่าการเรียน ? ครับ ขอบคุณทุก ๆ คนที่อ่านกันจนจบนะครับภาพประกอบทั้งหมดเป็นของนักเขียนปีกแมลง -ปีกแมลง-