ไม่ยากถ้าเริ่มอย่างตรงจุด รู้ลึกถ้าเข้าใจพื้นฐาน เริ่มลุย! ไปกับภาษาญี่ปุ่น ในปัจจุบัน คนที่มีความสามารถเรื่องภาษา จะทำให้คนนั้นมีภาษีเพิ่มขึ้น เราคงหนีความจริงเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วเราจะเริ่มเรียนภาษาที่ 3 เป็นภาษาอะไรดี ภาษาหลักสากลคงหนีไม่พ้นภาษาอังกฤษ รองมาตอนนี้คงจะเป็นภาษาจีน หากไม่อยากมีคู่แข่งขันที่สูงนัก ลองเลือกภาษาอื่นดู เราอาจมองดูในประเทศไทยว่าบริษัทที่มีชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนมีประเทศใดบ้าง แล้วการขยายตัวมากเพียงใด เมื่อเลือกได้แล้วก็อย่ารีรอ เพราะนั้นจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้เรามีภาษีเหนือคนอื่น และมีโอกาสได้รับงานที่ดีเป็นที่ต้องการของเรา ถ้าใครยังเลือกไม่ถูก เรามีหนึ่งภาษามาเสนอนั้นคือ “ภาษาญี่ปุ่น” หลายคนที่คิดจะเรียนภาษาญี่ปุ่นหรือได้ลองเรียนแล้ว คงมีความคิดที่ว่า “ภาษาญี่ปุ่น...ยากมาก” ใครที่กำลังคิดแบบนี้อยู่ของให้คิดไว้เลยว่าคุณคิดถูกแล้ว แต่เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งตกใจไป เรื่องนี้สามารถแก้ได้ถ้าเข้าใจและเริ่มเรียนพื้นฐาน พยายามศึกษาลงรายละเอียดให้แน่นตั้งแต่แรก อย่าปล่อยข้ามไป เพราะไม่อย่างนั้นเราจะต้องเสียเวลามาลงรายละเอียดกันใหม่ ทีนี่แหละจะเกิดความรู้สึกท้อได้ การอ่านภาษาญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องยากเพียงเราจดจำตัวอักษรได้ เราก็สามารถที่จะอ่านได้แล้วเพราะคำเหล่านั้นอ่านตรงตามตัวอักษร เช่น ごはん อ่านว่า Gohan แปลว่า ข้าว ご = go は = ha ん = n จะเห็นว่าการอ่านนั้นไล่อ่านตัวอักษรไปทีละตัว ซึ่งคนไทยเราอาจจะเคยชินกับการที่ต้องนำตัวอักษรมาผสมก่อนอ่าน ไม่ได้ออกเสียง ก ข ค ที่ละตัว ภาษาญี่ปุ่นแบ่งประเภทตัวอักษรเป็น 4 ประเภทฮิรางานะคาตาคานะคันจิโรมันจิ เอาล่ะ รู้พื้นฐานเบื้องต้นกันแล้ว ได้เวลาเริ่มเรียนรู้แต่ละประเภทกันแล้ว ลุย! 1. ฮิรางานะ ひらがな (Hiragana) ฮิรางานะ คือ อักษรในภาษาญี่ปุ่นเป็นตัวอักษรประเภทแรกที่ผู้เรียนควรศึกษาก่อน มีตัวอักษรมี 46 ตัว มีเสียงอ่าน 5 เสียงあ = A , い = I ,う= U , え= E , お = O แบ่งเสียงเป็นวรรค 8 วรรค ได้แก่ วรรค あ = A วรรค か= K วรรค さ= S วรรค な= N วรรค は = H วรรค ま = M วรรค や = Y วรรคら = R วรรค わ = W มีคำช่วย を = O และตัวสะกด ん = N 2. คาตาคานะ カタカナ (Katakana) เป็นอักษรอีกหนึงประเภทของภาษาญี่ปุ่น เสียงอ่านเดียวกันกับ อักษรฮิรางานะทุกอย่าง แต่การเขียนต่างกัน ส่วนมากจะใช้แทนภาษาต่างประเทศ คำยืมที่ไม่ได้มาจากภาษาญี่ปุ่น การเลียนเสียงในธรรมชาติ ใช้เขียนชื่อบุคคล ชื่อเฉพาะ คำทับศัพท์ เช่น アメリカ อ่านว่า Amerika แปลว่า ประเทศอเมริกา ที่ประเทศญี่ปุ่นมีการใช้ คาตาคานะ ในชีวิตประจำวันสำคัญไม่แพ้ ฮิรางานะเลย 3.คันจิ 漢字 (Kanji) ยินดีด้วยค่ะ คุณได้เรียนภาษาจีนเป็นของแถม เป็นอีกหนึ่งปัญหาของคนที่เริ่มเรียน คันจิ จะมีเสียงบ่นอุบอิบ ว่ายากมาก จำไม่ได้ ท้อจัง ซึ่งบอกเลยว่าอย่าเพิ่งท้อ เพราะอักษรคันจินั้นเป็นอักษรของประเทศจีน ซึ่งมีตัวอักษรอยู่ประมาณ 5,000 ตัว แต่เนื่องจากมีจำนวนที่มากทางกระทรวงศึกษาธิการของประเทศญี่ปุ่นจึงได้กำหนด คันจิที่ใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ โจโยคันจิ ไว้ทั้งสิ้น 2,136 ตัว แม้ว่าจะมีมากแต่ก็มาพยายามท่องจำไปด้วยกันนะ เพราะคันจิเป็นอะไรที่สำคัญมาก เนื่องจากคนญี่ปุ่นใช้อักษรคันจิกันเป็นประจำ แม้ว่าจะเสียงอ่านด้วยเป็นเสียงฮิรางานะ แต่จะละเลยไม่ได้นะ เพราะคำศัพท์ส่วนมากมีคันจิร่วมด้วยทั้งนั้น ทั้งในหนังสือ ชื่อสถานที่ ป้ายโฆษณา ล้วนมีคันจิเป็นหลักเลย 4.โรมาจิ ローマ字 (Rōmaji) เรียนอักษรยาก ๆ ไปแล้วมาเจออะไรง่าย ๆ กันบ้าง ที่บอกง่ายนั้นเพียงหมายถึงรูปแบบตัวอักษร ทุกคนคงคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพราะอักษรโรมันจิมีหน้าตาเหมือนอักษรภาษาอังกฤษทุกอย่าง ส่วนเสียงอ่านนั้นไม่เกี่ยวข้องกันเลย อักษรโรมันจิ ใช้สำหรับการเรียนภาษาญี่ปุ่นสำหรับบุคคลที่ต่างชาติ และเป็นการใช้พิมพ์ข้อมูลภาษาญี่ปุ่นในคอมพิวเตอร์บนคีย์บอร์ด เป็นยังไงกันบ้าง เพื่อน ๆ เริ่มสนใจภาษาญี่ปุ่นกันมาบ้างแล้วหรือยัง อยากให้ลองเปิดใจหันมาสนใจ ภาษาที่ 3 ที่ 4 กันเยอะ ๆ นะคะ โลกเรากำลังเปิดกว้างอยาก หากมีความรู้มากจะสามารถเปิดโลกทรรศน์ของเราได้มากขึ้นค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ขอขอบคุณรูปภาพจาก : CANVA