ก็ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับงานรับโล่พระราชทาน รางวัลหนังสือดีเด่น เซเว่นบุ๊ค อวอร์ด ครั้งที่ 17 ประจำปี 2563 ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องสุรศักดิ์บอลรูม ชั้น 11 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในปีนี้มีผลงานวรรณกรรมประเภทต่าง ๆ ส่งเข้าประกวดรวมถึง 256 เล่ม ทั้งประเภทเรื่องสั้น นวนิยาย สารคดี การ์ตูน วรรณกรรมเยาวชน กวีนิพนธ์ และประเภทนักเขียนรุ่นเยาว์ ซึ่งหากจะให้เอ่ยถึงนามกวีเยาวชนผู้สืบสานเส้นทางกวีนิพนธ์ร่วมสมัยที่มีการขับเคลื่อนสร้างสรรค์ผลงานกวีออกมาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องแล้วล่ะก็ “กิตติ อัมพรมหา” ก็น่าจะมีชื่อติดโผอยู่ในอันดับต้น ๆ ของวงการกวีนิพนธ์ในขณะนี้ เพราะไม่ว่าจะเปิดอ่านดูประกาศผลการประกวดรางวัลบทกวีของหน่วยงานใดก็ตามในช่วงหลายปีมานี้ ก็จะต้องมีชื่อของกวีเยาวชนเจ้าของนามปากกา “กิตติ อัมพรมหา” ติดอันดับอยู่ในนั้นด้วยเสมอ ในการประกาศผลรางวัลหนังสือดีเด่น เซเว่นบุ๊ค อวอร์ด ประจำปีนี้ก็เช่นกัน “เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแล้วปัจจุบัน” รวมกวีนิพนธ์ รางวัลชนะเลิศ เซเว่นบุ๊คอวอร์ด (ประเภทนักเขียนรุ่นเยาว์) ครั้งที่ 17 ประจำปีพุทธศักราช 2563 คือรวมเล่มกวีนิพนธ์ผลงานล่าสุดของเขา ซึ่งภายในเล่มได้แบ่งขอบข่ายของเนื้อหานำเสนอเอาไว้ถึง 3 ภาค ได้แก่ ลมหายใจของเรา – ใต้แสงเงายุคสมัย – ในนิยามโลกความจริง โดยในเนื้อหาทั้ง 3 ภาค ได้บอกเล่าเรื่องราวของการติดอยู่ใน ‘บ่วงแร้วปัจจุบัน’ ของ “เรา” ได้อย่างครบถ้วน นับตั้งแต่การขับเคลื่อนชีวิตไปตามกระแสและบริบทของสังคมรอบข้างทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค ในยุคสมัยที่นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศกำลังเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดท่ามกลางความเวิ้งว้างและแปลก-แยกทางความคิดและพื้นฐานชีวิต โดยมีการนำเสนอผ่านฉันทลักษณ์ที่แม่นยำ กลมกล่อมไปด้วยลีลาทางวรรณศิลป์ ครบถ้วนสมกับความเป็น “กวีนิพนธ์” “กิตติ อัมพรมหา” ได้พยายามวางตนไว้ให้เป็นกลาง บอกเล่าความเป็นไปแห่งยุคสมัยผ่านทั้งบทกวีฉันทลักษณ์ และกลอนลำนำพื้นบ้าน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งอันเกิดจากความแตกต่างทางแนวคิดของผู้คนในสังคม และความย้อนแย้งเปลี่ยวเหงาอันเกิดสืบเนื่องมาจากความเจริญแบบก้าวกระโดดทางเทคโนโลยี บทกวีหลายสำนวนภายในเล่ม เช่น การหายตัวไปของม้าก้านกล้วย ในรังนอนของหนอนสายพันธุ์ใหม่ มีเนื้อหาเชิงยั่วล้อเป็นปฏิภาคในส่วนของความแตกต่างทางยุคสมัยกับงานกวีนิพนธ์วรรคทองของ ‘กวีรุ่นพี่’ หลายคน ที่ได้ชื่อว่าเป็นกวีมือรางวัลของประเทศนี้ จึงทำให้รวมกวีนิพนธ์ “เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแล้วปัจจุบัน” เป็นคล้ายภาพส่วนเติมเต็มของภาพสะท้อนสังคมไทยที่มีการนำเสนอผ่านงานกวีนิพนธ์จากอดีตจนถึงปัจจุบันได้เป็นอย่างดี “เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแล้วปัจจุบัน” มีทั้งการบอกเล่า ตั้งคำถาม และกล่าวลอย ๆ ไว้ให้ฉุกคิด ว่าในฐานะที่เราซึ่งเป็นผู้อ่านที่ต่างก็กำลังติดอยู่ใน ‘บ่วงแร้ว’ อันเดียวกันนี้ “เรา” จะมีวิธีแก้ปัญหา หรือ รับมือกับเรื่องราวหรือสถานการณ์ที่เรากำลังเผชิญร่วมกันนี้อย่างไรดี ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีเราอาจจะได้คำตอบ เมื่อเราได้อ่านรวมกวีนิพนธ์เล่มนี้จบลง ... พร้อมกับการใคร่ครวญ จากหนังสือทำมือในวันที่ส่งเข้าประกวด ขณะนี้หนังสือรวมบทกวีนิพนธ์ “เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแล้วปัจจุบัน” ได้รับการตีพิมพ์โดยบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ในรูปแบบหนังสือรวมบทกวีนิพนธ์ขนาดกะทัดรัด ความยาวเกือบ 100 หน้า ในราคาเพียงเล่มละ 150 บาท ซึ่งหนังสือรวมบทกวีนิพนธ์ดังกล่าวนี้ ส่วนหนึ่ง “กิตติ อัมพรมหา” เจ้าของผลงานเองก็ได้ ‘แอบ’ส่งมอบไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ผ่านทางคุณครูและบรรณารักษ์ที่ตนสนิทคุ้นเคย ตามเจตนาส่วนตัวที่ต้องการให้น้อง ๆ ในโรงเรียนต่าง ๆ ได้มีหนังสือกวีนิพนธ์ดี ๆ อ่านกันด้วย ซึ่งในวันนี้นอกจาก “กิตติ อัมพรมหา” จะเสียสละเวลาให้เรานั่งสัมภาษณ์แล้ว หลังจากเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ นักเขียนเยาวชนคนเก่งของเราก็ยังได้ 'แอบ' มอบหนังสือกวีนิพนธ์จำนวนหนึ่งเพื่อให้ผู้เขียนบทความและ TrueID ได้เป็นสะพานบุญส่งมอบหนังสือให้แก่ห้องสมุดในโรงเรียนต่าง ๆ อีกด้วย ในส่วนของนักอ่านท่านใดที่สนใจอยากอ่านบทกวีร่วมสมัยจากปลายปากกาของกวีเยาวชนมือรางวัลระดับประเทศแล้วล่ะก็ ไม่ควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวง รีบมองหาและจับจองเป็นเจ้าของกันได้เลยครับ "รู้สึกดีใจที่นักเขียนได้เล็งเห็นความสำคัญของนักอ่านซึ่งเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน เพราะในแต่ละปี กวีนิพนธ์เป็นหนังสือที่มีออกมาน้อยมาก เนื่องจากตลาดของนักอ่านไม่เปิดกว้างเท่าที่ควร เด็ก ๆ จึงไม่ค่อยจะได้อ่านงานกวีนิพนธ์กันมากเท่าไหร่นัก รวมกวีนิพนธ์ “เรากำลังติดอยู่ในบ่วงแล้วปัจจุบัน” นี่ถือว่าเป็นหนังสือกวีนิพนธ์เปิดปีงบประมาณของเราเลยก็ว่าได้ ที่เราจะได้นำมาจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์แนะนำหนังสือในหมวดหมู่กวีนิพนธ์เพื่อกระตุ้นความสนใจของเด็ก ๆ " คุณครูสุรฤทธิ์ จันทร์เจริญ และ คุณครูสาธิต บุญเมืองขวา ครูบรรณารักษ์ โรงเรียนวังเหนือวิทยา จังหวัดลำปาง บอกเล่าความรูู้สีกในวันที่ผู้เขียนได้นำหนังสือไปส่งมอบให้ตามเจตนารมณ์ของกวีเยาวชนมือรางวัล "เห็นชื่อนามปากกาผู้ประพันธ์ว่าเป็นระดับกวีเยาวชน แต่ระดับความสามารถทางกวีนิพนธ์นั้นกลับไม่เยาวชนเลย ยิ่งได้อ่านคำประกาศผลการตัดสินจากท่านคณะกรรมการพิจารณารางวัลและคำนิยมจากนักเขียนที่อยู่ในเล่มเเล้ว รู้สึกดีใจแทนเด็กและเยาวชนสมัยนี้ที่เขามีต้นแบบทางวรรณศิลป์ให้เดินตามรอย" คุณครูน้ำผึ้ง มั่งคั่ง และ คุณครูอุษณีย์ จันทร์สุริยา คุณครูภาษาไทยและครูบรรณารักษ์ห้องสมุด โรงเรียนพะเยาพิทยาคม จังหวัดพะเยา กล่าวด้วยรอยยิ้ม ภาพประกอบ โดย ผู้เขียน