เมื่อความรักเกยตื้น

'การหาเวลาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเพลงดี ๆ สักชั่วขณะหนึ่งคือช่วงเวลาแสนวิเศษที่สามารถทำให้เราผ่อนคลาย เยียวยาตัวเองหรือซึมซับความสุขได้อย่างดีเลยทีเดียว'

บทความนี้เป็นบทความแรกของ 'Keep that song in you' ที่จะมาชวนทุกคนฟังเพลงและดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาอันแสนพิเศษนี้ ทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่ม ๆ กดเข้าไปในเพล์ลิสแล้วปล่อยให้มันเล่นไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรู้ว่าต่อไปจะเป็นเพลงอะไร ไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อเพลงก็ได้ แล้วเราจะค้นพบว่า..ช่วงเวลานั้นคือความสุข

แต่ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงนอกจากจะปล่อยใจไปกับมันแล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากจะชวนทุกคนทำก็คือการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในเพลง ลองคิดตามว่าถ้าหากเราบังเอิญได้เจอหรือมีความรู้สึกแบบในเพลงนั้นเราจะทำอย่างไรดี มีหลายคอมเม้นต์ในยูทูปที่บอกว่าเพลงนี้ช่างเข้ากับชีวิต เพลงนี้ตรงใจ ใครที่ตกอยู่ในความรู้สึกนี้ก็ยิ่งต้องคิดตามและอ่านบทความนี้ต่อเลยค่ะ

แล้วจะทำอย่างไรเมื่อความรักต้องเกยตื้น?
หมายถึงว่าเมื่อความรักเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุด ไม่สามารถไปต่อได้ทางที่ดีก็คงต้องปล่อย ดีกว่าดันทุรังไปแล้วก็กลายเป็นเหมือนวาฬตัวนั้นที่ พยายามตามรักขึ้นมาบนฝั่งทั้งที่รู้ว่าผิดธรรมชาติ สุดท้ายก็ขาดน้ำตาย เมื่อรู้ว่าไปต่อไม่ไหวการกลับไปอยู่ในที่ของเรา เข้าใจและยอมรับคือทางเลือกที่ดีค่ะ แต่ถ้ายังไม่รู้จะทำอย่างไรเรามีวิธีเยียวยาตัวเองหลังจบความสัมพันธ์มาบอก ไปดูกันเลย

1) ร้องไห้ให้สุด
ความทุกข์จะถูกแบ่งเบาลงไปได้เมื่อเราผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก เคยเป็นไหมถ้าได้ร้องไห้แล้วจะสบายใจขึ้น หลังร้องไห้แล้วรู้สึกโล่ง ไม่เจ็บปวดเท่าเดิมและเสียใจน้อยลง ถ้าใครยังไม่เคยก็ลองเลย อยากร้องก็ร้อง ร้องนานแค่ไหนก็ได้เท่าที่ใจอยาก แล้วหลังจากที่น้ำตาเราแห้งเหือดไปพลังที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนจะค่อย ๆ เติมเข้ามาในใจเราเองและเมื่อเราผ่านช่วงเวลานี้ไปได้เราก็จะภูมิใจว่าฉันก็เคยร้องไห้มาก่อน แต่ฉันก็ผ่านมันมาได้

2) ให้เวลาตัวเองจมอยู่กับความเศร้า
ถ้ามันเสียใจจนเกินจะรับไหวก็ให้เวลาตัวเองเสียใจให้สุดๆไปเลยแต่มีข้อแม้ว่าต้องกำหนดเวลาเอาไว้ด้วยว่าเราจะเสียใจนานเท่าไหร่ 1 วันหรือนานแค่ไหนและต้องมีสติดึงตัวเองกลับมาเมื่อครบกำหนดเวลานั้น คนเราเสียใจได้แต่ต้องไม่นานจนเกินไป หลังครบกำหนดก็ออกไปหาอะไรใหม่ ๆ ออกไปเจอเพื่อน ทำกิจกรรมที่สนใจเพื่อดึงตัวเองออกจากความเศร้าที่ถ้าเราเอาแต่จมอยู่อย่างนั้นมันจะทำร้ายเราทั้งทางร่างกายและจิตใจเอาได้ ถ้ามันเศร้าก็เศร้าให้สุดแต่อย่านานนะ วันดี ๆ รออยู่

3) ตัดขาดจากเขาไปซะ
การเลิกติดตามเขาทั้งในโลกโซเชียลและช่องทางอื่น ๆ ไม่ต้องเจอ ไม่ต้องเห็น ไม่ต้องรับรู้จะทำให้ใจเราค่อย ๆ นิ่งและอยู่กับปัจจุบันได้เอง รวมถึงข้าวของต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเขาถ้าเป็นไปได้ก็อย่าเพิ่งไปรื้อค้นหรือจะให้ดีก็เก็บมันลงกล่อง เอาไปทิ้งให้ห่างสายตา ช่วงที่ใจเปราะบางให้อยู่ห่างจากเรื่องของเขาเข้าไว้ การหักห้ามใจไม่ให้ย้อนกลับไปคิดถึงก็จะทำได้ง่ายขึ้น

4) จัดห้องใหม่
ถ้าเป็นห้องที่เคยอยู่ด้วยกันแล้วล่ะก็การทำใจก็คงจะยากขึ้นไปอีก ถ้าไม่สามารถย้ายห้องเพื่อหนีความทรงจำเก่า ๆ ได้สิ่งที่น่าจะพอทำได้ก็คือการจัดห้องใหม่อย่าให้หลงเหลือร่อยรอยความรู้สึกเก่า ๆ ทิ้งรูปเขาและรูปคู่ไปให้หมด เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าม่าน และทุกอย่างที่เคยใช้ร่วมกัน การสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นและช่วยลบภาพจำเก่า ๆ เกี่ยวกับเขาออกไปได้ ถือโอกาสทำความสะอาดห้องและเปลี่ยนความจำเจไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่าเดิมนะ

5) อยู่กับสัตว์เลี้ยง
ถ้ามันเหงาก็หาสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ มาอยู่ด้วยสักตัวแต่เรื่องนี้เราต้องแน่ใจว่าเราพร้อมสำหรับการดูแลสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งชีวิตแล้วจริง ๆ นะคะ ต้องมีเวลาให้ สถานที่ต้องเหมาะสม ต้องสามารถดูแลเรื่องอาหารการกิน ความสะอาดและพาไปหาหมอหรือรักษาเวลาเจ็บป่วยได้ ถ้าพร้อมก็เลี้ยงเลยเพราะความน่ารักของสัตว์เลี้ยงก็สามารถทำให้เรามีความสุขและเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องเศร้า ๆ ได้ และถ้าอยากมีเพื่อนคุยให้หายเหงาก็เปิดเพจหรือสร้างไอจีสำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราขึ้นมาเลย รับรองมีเพื่อนที่รักสัตว์รอติดตามอยู่เพียบ ลองกดเข้าไปดูเพจน้องหมาน้องแมวสักเพจสิคะ แต่ละโพสต์คอมเม้นต์ถล่มทลายจนแทบจะตอบไม่ไหวกันเลยทีเดียว แต่ขอเตือนว่าถ้ายังไม่พร้อมที่จะเลี้ยงก็ข้ามไปดีกว่าค่ะ

6) อย่าอยู่คนเดียว ห้ามฟังเพลงเศร้า
เวลาเศร้า ๆ ถ้าอยู่คนเดียวก็จะยิ่งเศร้า และถ้ายิ่งฟังเพลงเศร้าก็จะยิ่งเพิ่มเลเวลความเศร้ามากขึ้นไปอีก สิ่งที่ควรทำคือการพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางผู้คน อยู่กับครอบครัวให้มากหรือหาเวลาไปอยู่กับเพื่อน ให้มีคนคอยชวนคุยชวนทำกิจกรรมดี ๆ คอยรับฟัง ให้คำแนะนำและปลอบใจเวลาที่เราอยากระบายความทุกข์ใจให้ฟัง ชวนพวกเขาออกไปเที่ยวหรือถ้าไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ จริง ๆ ก็อาจจะออกไปทำกิจกรรมที่ได้พบเจอผู้คนเช่นการไปค่ายอาสาหรือสมัครคอร์สเรียนด้านที่สนใจ ไม่แน่เราอาจจะได้ค้นพบตัวตนของตัวเองอีกด้านหนึ่งและอาจจะได้พบเจอกับคนที่ทำให้เรามีความสุขจนลืมความเศร้าไปเลยก็ได้ และที่สำคัญช่วงนี้ให้งดฟังเพลงเศร้าไปก่อน ให้ฟังเป็นเพลงให้กำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจในการก้าวต่อไปข้างหน้าจะดีกว่าค่ะ

7) ปฏิบัติธรรม
ข้อสุดท้ายคือการใช้ธรรมะเข้าช่วย การได้ไปปฏิบัติธรรม ฟังธรรมะหรือฝึกสมาธิจะช่วยให้จิตใจของเราสงบขึ้น ลองหาโอกาสไปปฏิบัติธรรมและฝึกสมาธิดูสักครั้ง การได้ทำสมาธิและอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบร่มเย็นของสถานที่ปฏิบัติธรรมและผู้คนรอบข้างจะช่วยเยียวยาจิตใจของเราได้และทำให้เรามีสติมากขึ้น ถ้ายังลืมเขาไม่ได้สักทีหรือทำอย่างไรก็ไม่หายเศร้าขอให้ธรรมะเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ลองนำไปใช้ดูนะคะ

เห็นไหมว่ามีตั้งหลายวิธีที่จะรับมือกับความรักที่จบลง มันไม่ได้มีแต่ความเสียใจ ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องทุกข์ขนาดนั้น มองออกไปข้างหน้า มองท้องฟ้า มองทะเล มองภูเขา ทุกอย่างยังสวยงาม ยังรอให้เราออกไปพบเจอ อย่ามัวแต่จมอยู่กับความเศร้า ถ้าความรักมันไปต่อไม่ได้ก็กลับไปอยู่ในที่ของเรา กลับไปอยู่กับทะเล ภูเขา สิ่งต่าง ๆ สามารถเยียวยาเราได้แค่เราต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะผ่านช่วงเวลาที่ไม่สวยงามนี้ไป คิดเสียว่ามันคืออีกหนึ่งรสชาติของชีวิตที่ควรได้ลิ้มลองดูสักครั้ง

ลองคิดดูว่าถ้าเราเป็นวาฬตัวนั้นจะเลือกระหว่างเกยตื้นตายหรือกลับลงทะเลไปแหวกว่าย มีชีวิตใหม่ใต้ท้องทะเลที่สวยงาม

เครดิตภาพ

• รูปปก โดย Cdd20 in pixabay
• รูปประกอบที่ 1 เพลงวาฬเกยตื้น Youtube
• รูปประกอบที่ 2 โดย SeifenBlase in pixabay
• รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5 / รูปประกอบที่ 6 / รูปประกอบที่ 7 โดย wixin_56k in pixabay
• รูปประกอบที่ 8 โดย monstreh in pixabay
• รูปประกอบที่ 9 โดย La_Petite_Femme in pixabay