เมื่อ “เทปคาสเซ็ท” ไม่ได้มีไว้แค่ฟังเพลง!!! (ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com/) สำหรับคนที่เกิดในยุค 90 ลงไป คงจะรู้จักเทปคาสเซ็ท (Cassette tape) เป็นอย่างดี และเชื่อว่าหลายคนคงจะมีเก็บไว้ที่บ้านหลายตลับด้วย ถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะฟังเพลงจากอินเทอร์เน็ตซะส่วนใหญ่ หรือไม่ก็พวกเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาต่างๆ ซึ่งไม่ได้เล่นผ่านตลับเทปอย่างแน่นอน และวันนี้ผมก็ไม่ได้พามาย้อนอดีตรำลึกถึงบทเพลงที่เล่นด้วยตลับเทปนะครับ แต่จะขอย้อนไปไกลกว่านั้นอีก ราวๆ ปลายยุค 70 ซึ่งตอนนั้นก็มีเทปคาสเซ็ทให้ฟังเพลงกันแล้ว แต่เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กัน ทราบไหมครับว่า เทปคาสเซ็ท ที่เราใช้ฟังเพลงนั้น ครั้งหนึ่งมันเคยถูกใช้เป็นที่เก็บข้อมูลให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย และมันถูกใช้มาก่อนที่จะมีแผ่นดิสก์เก็ตอีกด้วย (ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com/)เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มเข้าสู่บ้านเรือน ช่วงต้นยุค 80 คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลขนาดเล็กเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในต่างประเทศ ถึงแม้จะยังมีราคาที่สูงก็ตาม แต่คุณสามารถพบเห็นมันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อความบันเทิงภายในบ้าน และถ้าให้พูดชื่อยี่ห้อก็คงจะหนีไม่พ้น Atari และ Commodore 64 ทั้งสองเครื่องนี้ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เน้นด้านความบันเทิง (คอมพ์สายบันเทิง) เพราะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ประมาณว่า เปิดปุ๊บ ติดปั๊บ เล่นได้เลย อะไรแบบนี้! (จากภาพเป็นเครื่อง ATARI คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เน้นด้านความบันเทิงเป็นหลัก สามารถต่อจอยสติ๊กเพื่อเล่นเกมจากตลับเกมที่ต้องเสียบตลับจากด้านบน และเครื่องอ่านเทปคาสเซ็ทเพื่อใช้บันทึกข้อมูลต่างๆ รวมถึงติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน ) (ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com/) คอมพ์สายบันเทิงพวกนี้ นอกจากมีราคาไม่สูงมากนัก มันยังตอบสนองต่อการใช้งานด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น งานเอกสาร งานบัญชี คำนวณตัวเลข งานกราฟิกง่ายๆ และงานเขียนโปรแกรมต่างๆ ก็สามารถทำได้ แน่นอนว่าการใช้งานประเภทนี้จำเป็นต้องมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วย แต่ทว่าคอมพ์สายบันเทิงไม่มีฮาร์ดดิสก์นะครับ เพราะในสมัยนั้นคอมพิวเตอร์ที่จะติดตั้งฮาร์ดดิสก์ได้ต้องเป็นเครื่องคอมพ์ที่ใช้ภายในองค์กรต่างๆ พวกเครื่องเมนเฟรม หรือเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ด้วยเหตุผลเดียวก็คือ ฮาร์ดดิสก์มีราคาแพงมากๆ ดังนั้น ผู้ผลิตคอมพ์สายบันเทิงจึงหันมาใช้เทปแม่เหล็กที่มีราคาถูกกว่าฮาร์ดดิสก์หลายเท่า ถ้าจะมองหาเทปแม่เหล็กที่มีขายอยู่ทั่วไป และไม่ต้องผลิตขึ้นมาใหม่ ตัวเลือกที่ดีที่สุดก็คงจะเป็น 'เทปคาสเซ็ท' ที่เราใช้ฟังเพลงนั่นเอง (เครื่องคอมพิวเตอร์ EPSON HX-20 ที่ว่ากันว่าเป็นแลปท็อปตัวแรกของโลก แสดงผลผ่านหน้าจอ LCD ขนาดเล็ก สามารถเขียนโปรแกรมด้วยภาษาเบสิก มีพรินเตอร์แบบดอทเมตริกซ์ขนาดเล็กติดตั้งมาด้วยในตัว และยังมีเครื่องอ่านเทปคาเซ็ทแบบมินิสำหรับเป็นหน่วยเก็บข้อมูลแบบภายนอกด้วย) (ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com/) (Commodore 64 เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุค 80) (ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com/) หลายคนสงสัยว่า เทปคาสเซ็ท มันสามารถ อ่าน-เขียน หรือบันทึกข้อมูลร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ด้วยหรือ จริงๆ แล้ว พวกเครื่องคอมพิวเตอร์เมนเฟรมนั้นใช้เทปแม่เหล็กมาตั้งแต่ยุคแรกๆ เลย แต่เป็นเทปแม่เหล็กขนาดใหญ่ ดังนั้น การนำเอาเทปคาสเซ็ทที่มีอยู่แล้วมาทำเป็นหน่วยจัดเก็บข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์ตามบ้านจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร สำหรับผู้ผลิตเครื่อง Atari และ Commodore 64 ได้ผลิตอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ใช้สำหรับอ่าน-เขียน ข้อมูลจากเทปคาสเซ็ท ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตของคอมพิวเตอร์ (หน้าตาคล้ายๆ กับเครื่องเล่นเทปแบบพกพาในยุคแรกๆ) และถ้าคุณอยากใช้โปรแกรมหรือซอฟต์แวร์อื่นๆ รวมถึงเกมต่างๆ เพิ่มเติม คุณจำเป็นต้องซื้อเทปคาสเซ็ทที่บรรจุโปรแกรมหรือเกมนั้นมาเล่นผ่านอุปกรณ์ต่อพ่วงที่ว่านี้ ถ้าในปัจจุบันก็คงจะเหมือนกับซื้อแผ่นซีดี ดีวีดี มาติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ลงในเครื่องนั่นเอง เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่มีแผ่นซีดี (ภาพประกอบจาก : https://pixabay.com/) สำหรับเทปคาสเซ็ทที่ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ยุคนั้นก็เป็นแบบเดียวกับเทปคาสเซ็ทที่เราใช้ฟังเพลงนั่นแหละครับ เพียงแต่มีผู้ผลิตบางรายทำออกมาแยกขายต่างหาก เพื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์เป็นหลัก โดยเพิ่มความหนาแน่นของสารแมเหล็กบนเทปให้มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเคลือบสารพิเศษที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาขึ้น "...เทปคาสเซ็ท ครั้งหนึ่งมันถูกใช้เป็นที่เก็บข้อมูลให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์และบันทึกเสียงเพลงจากศิลปินมากมาย น่าเสียดายที่ปัจจุบันเลิกผลิตไปแล้ว แต่ยังคงมีตลับเทปมือสอง (หรืออาจจะเป็นมือสาม) ให้เห็นตามร้านขายของเก่า.."