หลังจากความปราชัยสุดช็อคต่อ 'ตราหมี' แอตเลติโก มาดริดคาเเอนฟิลด์ (สกอร์รวม 4-2) ทำให้หงส์แดงเสียสถิติไม่เเพ้ใครในบ้านรวมทุกรายการที่ยาวนานมากกว่า 2 ปี และเป็นการกระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของถ้วยยุโรปหูโตอย่างน่าเจ็บใจ ในคืนวันจันทร์นี้ ลิเวอร์พูลจะได้กลับมาฟาดเเข้งในศึกพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เป็นการไปเยือน 'กูดิสัน ปาร์ค' ของเอเวอร์ตันที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียงเเค่ข้ามสวนสาธารณะอีกฝั่งของถนน ขอบคุณรูปภาพจาก Sport.trueid.net ฟอร์มจากนัดล่าสุดในพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูลก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าอยู่ในฟอร์มที่ดีสักเท่าไหร่นัก เพราะเเม้จะเป็นการเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับบอร์นมัธที่กำลังหนีตายก็ยังอุตส่าห์โดน 'เดอะ เชอร์รี่' บุกมายิงนำต่อหน้าเเฟน ๆ เดอะ ค็อป ก่อนที่คู่หู โม-มาเน่ จะช่วยกันทำคนละประตู ทำให้เก็บสามเเต้มสำคัญมาจนได้ อีกทั้งยังได้รับข่าวดีเมื่อเเชมป์เก่าอย่าง 'เรือใบสีฟ้า' ได้รับความปราชัยจากศึกเเมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ทำให้ตอนนี้ หงส์เเดงต้องการอีกเเค่ 6 คะเเนนเพื่อการันตีเเชมป์พรีเมียร์ลีกเเบบ 100 เปอร์เซ็นต์ (ตอนนี้ประมาณ 96.81 เปอร์เซ็นต์ละกัน) ขอบคุณรูปภาพจาก Sport.trueid.net ในฤดูกาลนี้มีเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้เเมทช์เกิดขึ้นมาเเล้ว 2 ครั้ง เเบ่งเป็น 1 ครั้งในพรีเมียร์ลีค เเละอีก 1 ครั้งในเอฟเอคัพ ซึ่งผลจบลงที่ลิเวอร์พูลชนะไปได้ทั้งสองนัด (5-2 และ 1-0) โดยเกมลีคนัดเเรกที่แอนด์ฟิลด์ ลิเวอร์พูลออกนำไปก่อนถึง 4 ประตูต่อ 2 ได้ประตูจากดิว็อค โอริกี้ (2), เซอร์ดาน ชากิรี่, ซาดิโอ มาเน่ ก่อนที่ไวจ์นาลดุมจะมาบวกเพิ่มอีกลูกในช่วงท้ายเกม ส่วนฝั่งทีมเยือนได้ประตูจาก ไมเคิ่ล คีนเเละริชาร์ลิซอน คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริงของฝั่งลิเวอร์พูล (4-3-3) ขอบคุณรูปภาพจาก Sport.trueid.net ผู้รักษาประตู อาเดรียน กองหลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์, โจ โกเมส กองกลาง ฟาบินโญ่, จอร์เเดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นาลดุม กองหน้า ซาดิโอ มาเน่, โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, โรเเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ลิเวอร์พูลได้รับข่าวดีเมื่อกัปตันทีมคนเก่งอย่างเฮนเดอร์สันกลับมาเป็นกำลังสำคัญได้เเล้ว ตัวจริงในนัดนี้น่าจะยึดตามนัดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ฟาบินโญ่อาจได้คืนสนามกลับมาเป็นตัวจริงหลังจากโดนดร็อปไปเพราะฟอร์มตกอย่างหนัก แผงหลังมีโรเบิร์ตสันกลับมาประจำการทางฝั่งซ้าย ส่วนเเนวรุกนี่ถ้าไม่เจ็บไม่ป่วยก็ต้องเป็น 3 ประสานยืนพื้นอยู่แล้ว คาดการณ์ผู้เล่นตัวจริงของฝั่งเอเวอร์ตัน (4-4-2) ผู้รักษาประตู พิคฟอร์ด กองหลัง ฌิบริล ซิดิเบ้, ไมเคิ่ล คีน, เมสัน โฮลเกต, ลูก้า ดีญ กองกลาง เเบร์นาร์ด, อังเดร โกเมส, กิลฟี่ ซิเกิร์ดสัน, ทอม เดวิส กองหน้า ริชาร์ลิซอน, โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน เอฟเวอร์ตันของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ น่าจะยังไม่เปลี่ยนตัวผู้เล่นเเม้พ่ายต่อเชลซีมาอย่างหมดรูป 4-0 โดยจะมีอังเดร โกเมสเป็นจอมทัพ และมีซิเกิร์ดสันคอยป้อนบอลให้คู่กองหน้า (ต้องระวังคัลเวิร์ตเลวินที่ยิงไปถึง 13 ประตูในฤดูกาลนี้) ลูกเซ็ตพีซหวังผลได้เพราะมี ลูก้า ดีญ ซึ่งเป็นมือฉมังในการเปิดลูกนิ่งอยู่เเล้ว ส่วนทางกราบขวาก็มีตัวอันตรายอย่างเเบร์นาร์ดคอยลากเลื้อย เกร็ดที่น่าสนใจของทั้งสองทีม - ลิเวอร์พูลชนะถึง 19 จาก 20 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีค - 5 นัดหลังสุดของเอเวอร์ตัน มีประตูเกิดขึ้นเฉลี่ย 2.5 ประตูต่อเกม - เอเวอร์ตันไม่เเพ้ใครตลอด 7 นัดหลังสุดในบ้าน - ถ้าหากลิเวอร์พูลชนะนัดนี้ ขออีกเเค่ 3 คะเเนน พวกเขาก็จะการันตีคว้าเเชมป์พรีเมียร์ลีค ผลการเเข่งขันที่คาด เอเวอร์ตัน เเพ้คาบ้าน 1-2 แม้ว่านัดนี้จะเป็นงานยากของลิเวอร์พูล เเต่การตกรอบฟุตบอลยุโรปน่าจะเป็นเเรงกระตุ้นให้พวกเขาเดินหน้าคว้าชัยในเกมที่เหลือของพรีเมียร์ลีกให้ได้ครับ สามารถติดตามความมันส์ของคู่นี้ได้ที่ช่อง True Premier Football HD 1 เวลา 03.00 นาฬิกา ของวันที่ 17 มีนาคม และติดตามข่าวสารอื่น ๆ เกี่ยวกับฟุตบอลได้ที่ คลิก ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบครับ เเล้วมาเชียร์ฟุตบอลไปด้วยกันที่ True ID เชียร์บอลลีกดัง ดูหนังและช่องทีวีพรีเมียมจุใจ