เราจะเห็นได้ว่าการเติบโตขององค์กรนั้น ขึ้นอยู่กับการวางเป้าหมายของผู้บริหาร และหุ้นส่วน ซึ่งจะกำหนดวิธีปฏิบัติและวิธีการทำงานให้กระชับรวดเร็ว ทันยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา ดังเช่นปัจจุบันความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจการลงทุน จะเริ่มใช้เทคโนโลยี เข้ามามีส่วนสำคัญในการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกำหนดความชัดเจนในการปฏิบัติ ต่อบุคคลที่อยู่ในองค์กรให้ปฏิบัติในแนวเดียวกัน ซึ่งมีผลให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อการนำไปสู่ความเป็นมืออาชีพ เป็นที่ยอมรับของสังคม และจะสร้างความยั่งยืนมั่นคงให้องค์กรต่อไป ดังนั้นสิ่งสำคัญในการพัฒนาศักยภาพขององค์กร เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่ได้วางแผนไว้ จึงจำเป็นต้องกำหนดระเบียบปฏิบัติ วิธีการทำงานเพื่อลดขั้นตอนการดำเนินงานให้กระชับ รวดเร็ว จึงกำหนดการพัฒนาองค์กรให้เป็นไปโดยลำดับดังนี้1. ต้องมีการตั้งเป้าหมายในองค์กร และวางแผนเป็นขั้นตอน เราจะเห็นได้ว่าองค์กรก็จะมีเป้าหมายในการดำเนินงานทุก ๆ ปี กำหนดวิสัยทัศน์ กำหนดอัตลักษณ์ของแต่ละองค์กรเพื่อให้เป็นที่จดจำของสังคม และเพื่อการพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เป้าหมายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ขาดเป้าหมายแล้วองค์กรจะขาดทิศทางเดิน ทำให้องค์กรนั้นจะไม่เกิดความมั่นคงขึ้นเลย เป้าหมายจึงเป็นหัวใจหลักขององค์กร2. กำหนดวิธีการแก้ไขตลอดจนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยกำหนดเป็นกฎระเบียบที่ต้องปฏิบัติ เมื่อเราตั้งเป้าหมายขององค์กร แล้วต้องมีการแก้ไขปรับปรุงให้เกิดการพัฒนาในองค์กรในแต่ละปี ซึ่งแน่นอนในภาวะปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขปรับปรุงวิธีการดำเนินการ และวิธีการปฏิบัติขององค์กรอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป3. กำหนดวิธีการทำงานเป็นขั้นตอนโดยคำนึงถึงความรวดเร็วกระชับ เป็นการลดขั้นตอนการปฏิบัติ ลดอำนาจของผู้บริหาร ให้อำนาจแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นลำดับขั้น ตามความสำคัญและตามภาระหน้าที่เหมือนกระจายอำนาจลงไปตามระดับชั้น ตลอดจนลดขั้นตอนโดยใช้เทคโนโลยีในสำนักงาน โปรแกรมที่ทำให้เกิดความรวดเร็วในการตัดสินใจ ในการเสนองานตามลำดับชั้น เช่น หากเป็นเรื่องการสั่งจ่ายเงินก็จะกำหนดวงเงินให้แก่ผู้บังคับบัญชาแต่ระดับชั้น ในการรับผิดชอบตามวงเงินที่ได้รับตัวนี้ ถ้าเป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการบริการ การสั่งจ่ายก็จะทำให้เกิดความรวดเร็ว และประทับใจต่อลูกค้าได้4. กำหนดวิธีปฏิบัติแยกงานระหว่างงานสำคัญ งานด่วน กับงานสำคัญและงานปกติ ดังที่เห็นการปฏิบัติงานของผู้ปฏิบัติงานแต่ละองค์กร แต่ละวันก็จะมีงานด่วน และงานสำคัญ รวมทั้งงานปกติที่ปฏิบัติประจำสม่ำเสมออยู่ทุกวัน ดังนั้นจึงควรจัดอันดับความสำคัญของงานก่อน ถ้างานด่วนต้องเสนอผู้บังคับบัญชาอย่างรวดเร็วและผู้บังคับบัญชาต้องมีอำนาจในการสั่งงานเสนองาน ให้กับผู้บังคับบัญชาลำดับที่สูงกว่าต่อไปเพื่อให้ตัดสินใจ แต่หากมีการกำหนดอำนาจไว้โดยชัดเจน และโดยชัดแจ้งในระเบียบในการปฏิบัติ หากอำนาจนั้นผู้บังคับบัญชาในลำดับนั้น ๆ ตัดสินใจได้เอง ก็จะทำให้เกิดความรวดเร็วในการทำงาน ทำให้งานนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ดี หากงานนั้นเป็นงานบริการก็จะทำให้ลูกค้ามีความประทับใจ ตกลงตามนั้น ซึ่งจะส่งผลเป็นภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร ลูกค้าสามารถนำไปบอกต่อถึงบริการที่ดี อันนี้ก็จะเป็นการตลาดที่ดีอย่างหนึ่ง ที่องค์กรไม่อาจที่จะมองข้ามไปได้ 5. จัดการอบรมให้แก่พนักงานในองค์กรอยู่ตลอดเวลา โดยกำหนดไว้ว่าแต่ละหน่วยงานจะต้องอบรมอย่างน้อยปีละกี่ครั้ง และแต่ละครั้งต้องอบรมเกี่ยวกับงานที่ทำ เพื่อพัฒนาให้บรรลุผลตามเป้าหมาย โดยปกติแล้วองค์กรใหญ่ ๆ ส่วนมาก จะมีฝ่ายบริหารงานบุคคล แล้วก็จะมีแผนกจัดอบรมอยู่ในองค์กรนั้น โดยชื่อแผนกอาจจะแตกต่างกัน แต่จุดประสงค์ของแผนก คือ รับผิดชอบในการจัดอบรมสรรหาวิทยากร ที่มาอบรมแต่ละหน่วยงานเพื่อจะทราบปัญหาและวิธีการแก้ไข แก่หน่วยงานนั้น เพราะหลังจากอบรมแล้วก็จะมีรายงานเสนอต่อผู้บังคับบัญชา ถึงผลการอบรมและรายงานต่อผู้บัญชาในระดับชั้นสูงขึ้นไป เพื่อกำหนดวิธีการแก้ไขปัญหาในหน่วยงานนั้น โดยกำหนดเป็นระเบียบแบบแผนการทำงานต่อไป6. กำหนดการประชุมเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน การประชุมเป็นสิ่งสำคัญ เป็นหัวใจของหน่วยงานนั้น เพราะจะได้รับฟังปัญหาของผู้ใต้บังคับบัญชา หรือผู้ร่วมงานในแต่ละสัปดาห์ หรือแต่ละเดือนเพื่อจะได้กำหนดวิธีการแก้ไข เพราะแน่นอนการทำงานต้องมีข้อบกพร่อง ต้องมีปัญหาต้องมีความผิดพลาด ซึ่งเป็นปกติขององค์กรอยู่แล้ว7. สร้างแรงจูงใจแก่ผู้ร่วมงาน หรือพนักงานในองค์กรให้มีขวัญกำลังใจในการทำงาน การสร้างแรงจูงใจและแรงบันดาลใจ ให้กับผู้ร่วมงานในองค์กรนั้นมีความสำคัญ อาจจะเป็นโบนัสสิ้นปีเพื่อจะเป็นการเพิ่มอัตราขั้นเงินเดือน ซึ่งจะทำให้เกิดความกระตือรือร้นในการทำงาน ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เกิดไอเดียใหม่ ๆ เพราะมีแรงจูงใจเป็นการเหนี่ยวนำ หรือจะทำให้ผู้ร่วมงานแสวงหาความรู้อยู่สม่ำเสมอ เพื่อจะนำเสนอในองค์กรให้พัฒนาโดยไม่ปิดกั้นความคิดเห็น ที่ต่างไปจากแนวปฏิบัติขององค์กรเดิม หากความคิดที่แตกต่างไปนั้น สามารถที่จะพัฒนาองค์กรเดิมนั้นไปข้างหน้าได้ และสำเร็จบรรลุผลไปตามเป้าหมาย ก็เป็นสิ่งที่ดีควรรับฟัง อย่างน้อยเป็นทางเลือกในการกำหนดเป้าหมายในปีต่อไป ดังที่กล่าวมาแล้วตั้งต้น เมื่อพนักงานในองค์กรนั้นมีความสุขในการทำงาน จะเป็นส่วนหนึ่งในการดึงศักยภาพในการทำงาน ตลอดจนความกระตือรือร้นในการแสวงหาความรู้อยู่เสมอ เพื่อจะทำให้เป้าหมายขององค์กรนั้นบรรลุผล ตามที่ตั้งเป้าไว้โดยไม่ยากเย็น ภาพปก ภาพประกอบ ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 /ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 /ภาพที่ 7