ไต้หวัน ประเทศเล็กๆแต่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันยาวนาน กลายมาเป็นสถานที่ในฝันของใครต่อหลายคน ด้วยค่าครองชีพที่พอกับบ้านเรา อาหารการกินที่รสชิาติไม่แตกต่างจากบ้านเรามากนัก เดินทางสะดวกด้วยขนส่งสาธารณะ เป็น Destination ของใครหลายๆคนรวมทั้งตัวเราด้วย กางแผนที่ จองตั๋วเครื่องบิน แล้วออกเดินทางกันเลยการเดินทางในไทเปนั้นง่ายแสนง่าย ในครั้งนี้เราเลือกใช้ Taipei Fun Pass Unlimited เพราะรองรับระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟ รสบัส และสามารถใช้เข้าสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆได้ด้วย โดยไม่ต้องไปยืนต่อแถวซื้อตั๋วหน้างานให้เมื่อยเราซื้อจากเว็บไซต์ Klook แล้วไปรับที่เคาท์เตอร์ Klook ใน Taipei Main Station (กว่าจะหาเคาท์เตอร์เจอ หลงทางอยู่นานเพราะสถานีกว้างมาก เป็นทั้งศูนย์กลางรถไฟและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่) ในครั้งนี้ไปกันที่เมืองน้ำพุร้อนแห่งไต้หวัน เป่ยโถ่ (Beitou) ไม่ใช่ หมั่นโถ่ว เมืองเล็กๆในเขตชานเมืองของไทเปที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอารยธรรมดั้งเดิม ผสมผสานเข้ากับยุคสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว เดินไปที่ไหนก็จะเห็นผู้คนหอบข้าวของพร้อมที่จะไปนอนแช่น้ำกันมองวิวจากรถไฟฟ้า MRT เพลินๆเราเลือกเดินทางด้วยรถไฟสายสีแดง ไปลงที่สถานี Beitou ใช้เวลาเดินทางจากไทเปประมาณ 30 นาทีเท่านั้น จากนั้นนั่งต่อสายสีชมพู ไปลงสถานี Xinbeitou ย่านเมืองใหญ่หรือใจกลางของเมืองเป่ยโถ่ว ใช้เวลาแปปเดียว บนขบวนรถไฟก็จะมีข้อมูลของเมืองและประวัติคร่าวๆของน้ำพุร้อนที่นี้ เป็นการพรีวิวนักท่องเที่ยวให้รู้สึกตื่นเต้นเดินลงมาจากสถานีก็จะเจอแก้งค์นี้ต้อนรับ นี้ท่าแช่น้ำพุร้อนหรือเต้นโคฟเวอร์นะน่ารักเชียว คิดว่าหลงแน่ๆถ้าไปแบบไม่มีแผนที่ เราเลยแวะ Information ที่สถานีรถไฟเพื่อขอลายแทง พนักงานใจดีและพูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน แผนที่สามารถขอได้ฟรี มีหลายภาษาให้เลือกแต่ไม่มีภาษาไทยเดินออกจากสถานีก็จะเจอวิวตึกห้างต่างๆและถนนตัดกันไปมา อย่าพึ่งตกใจว่ามาผิดที่ ที่นี่แหล่ะ! ตรงนั้นจะมีหลายแยกมากๆ ข้ามถนนตรงไปเพื่อที่จะไปน้ำพุร้อน หรือสังเกตุป้ายตามทางมีบอกทุกระยะ สิ่งแรกเลยจะเจอสวนสาธารณะ เราไปวันเสาร์มีครอบครัวพาลูกหลานมาพักผ่อนที่สวนเยอะเลย แต่เราตั้งใจมาที่นี้ก่อน นั้นก็คือ พิพิธภัณฑ์น้ำพุร้อนเป่ยโถว Beitou Hot Spring Museumสามารถใช้บัตร Taipei Fun Pass แทนตั๋วเข้าได้เลย ที่นี้ทุกคนต้องเปลี่ยนใส่รองเท้าที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดเตรียมไว้ให้ป้องกันไม่ให้ส้นรองเท้าทำลายสถานที่ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่ารองเท้าจะหายเหมือนไปเวียนเทียนเพราะทางพิพิธภัณฑ์จัดเตรียมล็อกเกอร์ให้ของใครของมัน แล้วจะให้เราถือกุญแจล็อกเกอร์นั้นเองทางเข้าจะมีโซนประวัติของเมืองเป่ยโถ่วให้นักท่องเที่ยวได้อ่านและดู สรุปย่อๆก็คือ เป่ยโถ่วเมื่อสมัยปกครองโดยประเทศญี่ปุ่นได้ค้นพบเจอบ่อน้ำพุร้อน จึงตั้งให้เมืองนี้เป็นสถานที่สำหรับบ้านพักตากอากาศของเหล่านายพลยศสูงในสมัยนั้น และเมื่อไต้หวันได้ครองตนเอง เป่ยโถ่ว จึงได้กลายมาเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวให้ทุกคนสามารถเข้ามาได้เมื่อเดินมาตามทางเดินจะเห็นโถงขนาดใหญ่ ไม่รู้ว่ามีไว้ทำอะไรแต่เห็นคนมานั่งยืดขาที่นี้กันเยอะเมื่อเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ก็จะเจอบ่อน้ำพุร้อนที่เคยเปิดใช้มาตั้งแต่สมัยก่อนนู้น แต่ละบ่อความลึกตื้นก็ต่างกัน เพราะบางบ่อก็สำหรับเด็กๆหรือใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็มีจัดให้ แช่คนเดียวชมวิวทางพิพิธภัณฑ์จะมีสมุดข้อมูลให้ผู้เยี่ยมชมทุกคน แต่ละจุดจะมีประทับตรารูปต่างๆ ใครสะสมหรืออยากเก็บเป็นที่ระลึกก็สามารถปั๊มได้เลย เราปั๊มใส่ทั้งสมุดทั้งมือ รู้สึกสนุก ฮ่าาาเดินมาอีกนิดก็จะเจอบ่อน้ำพุร้อนหลักของที่นี้ ยังมีควันขึ้นมาอยู่เลย แต่ไม่ได้ร้อนมากมายอะไร สมัยก่อนนู้นบ่อนี้เป็นที่นิยมมาก (ดูจากในรูปสมัยก่อน) แต่เดี๋ยวนี้ไม่เปิดให้แช่แล้วเพราะตัวอาคารมีอายุค่อนข้างเยอะไม่เหมาะกับรับคนจำนวนมากในคราวเดียว ดังนั้นจึงเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์อย่างที่เห็นสำหรับใครที่ตั้งใจมาแช่น้ำพุร้อนก็มีบ่อสาธารณะให้แช่นะ เสียค่าเข้านิดหน่อย มีชุดให้เช่าหากใครไม่ได้เตรียมมา (ไม่ใช่ในพิพิธภัณฑ์นะ ใจเย็น เดินออกมาก่อน)บ่อสาธารณะนี้อยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ทางข้างหน้าก็แอบเป็นเนินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็พูดกันว่า โห คนสูงอายุคงเหนื่อยแย่ถ้าต้องมาเดินแบบนี้ ไม่ทันขาดคำมีคุณยายตัวเล็กๆคนนึงปั่นจักรยานขึ้นเนินแซงขึ้นไป โอ้โห จังหว่ะซิทคอมไรเบอร์นี้! ขอมอบคำคมกาละแมในวันนี้ 'ไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอก ห่วงตัวเองเถอะ' ฮ่าาาเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ ตรงอย่างเดียวจะเห็นทางแยกซ้ายมือ มีป้ายเขียนว่า Beitou Thermal Valley เข้าตามแยกซ้ายไปเลย จะเจอร้านขายของชำ ที่มีไข่ขายเผื่ออยากนั่งต้มไข่ร้านขายของที่ระลึกขนาดไม่ใหญ่แต่บรรยายกาศอบอุ่น ที่นี้จ้างผู้พิการทางสมองหรือดาวน์ซินโดรมเป็นพนักงาน น้องๆดูตั้งใจและมีความสุขกับการทำงานกันมาก บางคนเป็นพนักงานขาย บางคนอยู่เคาท์เตอร์ ยิ้มแย้มน่ารักเชียว Made my day มากๆ ที่เมืองไทยเราถ้ามีการเปิดรับเรื่องนี้กันมากขึ้น สนับสนุนเขา สอนให้เขาเป็นส่วนนึงของสังคม เราว่าเป็นอะไรที่ดีมาก โลกจะดูสวยงามขึ้นอีกเยอะเลยเดินไปสักหน่อยก็จะเจอที่ๆเราตามหาและเป็นไฮไลท์ของที่นี้ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติสีเขียวมรกตควันไอน้ำที่ออกมาจากน้ำพุทำให้เราอุ่นขึ้นมาได้เยอะเลย ความรู้สึกเหมือนสตรีมหน้า หายใจไม่ทั่วท้องหน่อยๆ ในตอนที่ไปอากาศอยู่ที่ประมาณ 15 องศา แต่เมื่อมายืนข้างบ่อ ต้องถอดเสื้อกันหนาวออกไม่งั้นมีเหงื่อตก ยืนดูสักแปปก็ต้องออกเดินไปที่อื่นต่อเพราะว่า หิวปล.ที่นี้ไม่อนุญาติให้ลงแช่เพราะอุณหภูมิสูงเกินไปสำหรับร่างกายมนุษย์ขากลับเราเลือกเดินลงอีกทางกับขามา อากาศดีมากข้างทางหันซ้ายก็จะเป็นบ้านเรือน ที่พัก ร้านค้าเรียงรายกันไป หันขวาก็เป็นคลองน้ำใส มีความรู้สึกว่าเหมือนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเพียงแค่ผู้คนพูดภาษาจีนเท่านั้นรถมอเตอร์ไซต์ที่ไทเปจะจอดบนฟุตบาทแต่เป็นระเบียบ เพื่อไม่ให้ไปขวางและกินที่ทางของรถใหญ่ เป็นสิ่งที่ดีแต่วินาทีนี้หิวจริงจัง เลยตระเวณหาร้านอาหาร โจทย์ของเราคือร้านอาหารท้องถิ่น ซึ่งเราเจอร้านนี้ ไม่รู้ว่าชื่ออะไรเพราะเราอ่านไม่ออก ร้านเป็นตึกสองชั้นที่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนักอ ร่ อ ย เ ด้ อ ถึงเราจะสุ่มรายการอาหารจากการจิ้มๆที่เมนูอาหาร แต่สิ่งที่ได้เกินคาด สำหรับใครที่ไม่อยากกินอาหารท้องถื่น เป่ยโถ่วก็มีร้านแฟรนไชน์อย่าง KFC และเจ้าอื่นๆเหมือนกัน เซวง เซเว่นงี้ก็มีแวะซื้อชานมกุหลาบเติมพลังที่เซเว่นมารถไฟก็กลับรถไฟ ทางเข้ารถไฟที่นี้หาง่ายเพราะสร้างให้เห็นได้ชัดและเป็นเอกลักษณ์ ทริปเป่ยโถ่วของเราก็เป็นอันเสร็จสิ้น ถึงแม้จะไม่ได้เข้าอีกหลายๆที่ แต่เราจะกลับมาใหม่แน่นอนเป่ยโถ่ว เมืองน้ำพุร้อน ภาพถ่ายโดยผู้เขียน