สวัสดีค่าทุกคนจากบทความที่แล้วตอนนี้ยอดวิวเพลง " de di den di " ของหนุ่มกวางหุ่ง ก็ได้ทะลุ 10 ล้านวิวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย ปรบมือ!!!สิคะรออะไร ในบทความนี้ผู้เขียนจะมาพูดถึงเส้นทางในการทำเพลงของเขาก่อนจะมาเป็นต้าวกวางแบบในทุกวันนี้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง ยิ่งได้รู้ยิ่งหลงรักบอกได้แค่นี้ ไปกันเลยค่ะ จากบทสัมภาษณ์หนึ่งมีใจความประมาณว่ากวางหุ่งเกิดและโตในเมืองเว้ เขารู้ตัวว่าหลงใหลในเสียงดนตรีตั้งแต่อายุ 13 เขาบอกว่าเขามักจะโดดเรียนและไปร้านอินเทอร์เน็ตเพื่อฟังเพลงและเขียนเพลงจนทำให้เขาต้องถูกเชิญผู้ปกครองในหลาย ๆ ครั้ง เขาค่อนข้างเป็นคนที่สันโดษจดจ่ออยู่กับการเขียนเพลงและสร้างบีทอย่างมุ่งมั่น เขาจึงเริ่มได้ทำเพลงและได้เงินมาจำนวนหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นพ่อแม่ก็ยังไม่ได้มั่นใจในเส้นทางที่เขาเลือกมากนักเขาเคยหักโหมในการทำเพลงอย่างหนักจนทำให้สุขภาพแย่ลงถึงขั้นได้เข้ารับการรักษาและผลวินิจฉัยพบว่าเขาเป็นโรควิตกกังวลและมีอาการซึมเศร้าเล็กน้อย ดังนั้นเขาจึงควรพักให้มากขึ้นและต้องพักการทำเพลงเอาไว้ แพทย์แนะนำให้เขาออกไปพบปะผู้คนและสิ่งแวดล้อมภายนอกให้มากขึ้น ตลอดเส้นทางในการทำเพลงเขาต้องพบกับคำวิพากษ์วิจารณ์มากมายแต่เขาก็ไม่เคยย่อท้อและยังคงมุ่งมั่นพยายามอย่างเต็มที่เสมอ ในปี 2555 เขาได้เดินทางจากเมืองเว้ไปยังโฮจิมินห์ตามคำเชิญของบริษัทเพลงแห่งหนึ่งในฐานะคนทำเพลงไม่ใช่นักร้อง โดยให้เหตุผลว่าเสียงและหน้าตาของต้าวกวางไม่ดีพอแล้วยังบอกอีกว่าเขาอาจจะยังไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรกับการแสดงบนเวทีในฐานะนักร้องอาจจะยังไม่เหมาะสม ต้าวกวางจึงขอลาออกแล้วเดินทางกลับเมืองเว้อีกครั้งต่อมาในปี 2560 เขากลับมาที่โฮจิมินห์อีกครั้งด้วยความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมที่จะทำตามฝันเขามีเงินติดตัวเพียงจำนวนหนึ่งจึงจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม ถึงแม้จะมีเงินพอแล้วแต่เขาคิดว่าเรื่องอนาคตของเขามันยังไม่ชัดเจนพอ เขาจึงตัดสินใจเข้าเป็นศิลปินฝึกหัดในบริษัทแห่งหนึ่งต่อมาในปี 2561-2562 บริษัทที่เขาอยู่กำลังจะล้มละลายด้วยไหวพริบของเขาทำให้เขาตัดสินใจขายผลงานเพลงของเขาให้กับศิลปินท่านอื่นหวังเพียงว่าจะพอมีเงินทำให้เขาได้เดินตามความฝันต่อแม้ว่าผลงานของเขาจะถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าก็ตาม ต้าวกวางบอกว่าในตอนนั้นเขาได้แต่สงสัยว่าทำไมชีวิตถึงต้องเป็นแบบนี้เขาทำอะไรผิดพระเจ้าจะไม่เมตตาให้เขาเดินในทางนี้เลยเหรอ เขาไม่กล้าแม้แต่จะบอกกับพ่อแม่ครอบครัวหรือเพื่อนว่าเขาทุกข์ใจแค่ไหน เขาเริ่มนอนไม่หลับเกิดความหดหู่กังวลอยากร้องไห้ไม่อยากออกไปเจอใครไม่อยากติดต่อกับใคร แต่ฟ้ายังมีตาค่ะทุกคน ในวันหนึ่งมีสายปริศนาโทรเข้ามาบอกว่าจะซื้องานเพลงของเขาปลายสายนั้นก็คือผู้กำกับหนังท่านหนึ่งเขาบอกว่าเพลงและเสียงของต้าวกวางเหมาะกับหนังของเขามาก เมื่อหนังได้ฉายจึงทำให้เขาได้เป็นที่สังเกตและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเขาจึงใช้เวลามากขึ้นในการฝึกฝนการร้องเพลงฝึกเสียงร้องของเขาให้ดียิ่งขึ้น มีข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้เขียนได้รู้มายังมีอีกนะคะ คือคนรอบตัวเขาบอกว่าเขาเหมาะกับการที่จะอยู่เบื้องหลังและทำเพลงเท่านั้น แต่เขาบอกว่าเขาทำเพลงขึ้นมาคนที่อยากจะโชว์เพลงพวกนั้นมากที่สุดคน ๆ นั้นก็ต้องเป็นเขาคนเหล่านั้นยังพูดตรง ๆ อีกว่าเขาไม่เหมาะที่จะเป็นนักร้องหรือไอดอลควรจะเป็นนักดนตรีมากกว่าแต่เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาอยากเป็นนักร้องเป็นไอดอลตราบใดที่ยังมีคนให้ความสนใจเขาเขาก็มีความสุขที่จะทำมัน นั่นคือความฝันของเขาเลย เพื่อที่จะให้ดียิ่งขึ้นเขาต้องการที่จะมีทีมที่พร้อมจะก้าวไปด้วยกันคนที่จะทำงานด้วยเกี่ยวกับการจัดการต่าง ๆ รวมถึงสไตล์ลิสและช่างแต่งหน้า โดยปกติคนพวกนี้จะคือคนที่อยู่ข้างหลังและคอยสนับสนุนเขา เขาต้องการให้ในวันหนึ่งได้รวมตัวกันเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบเพื่อทำงานร่วมกันเขาฝันเพียงแค่นั้น ในปัจจุบันเขาได้เป็นที่รู้จักผ่านเพลงของเขาเองแต่เขายังมีผลงานอีกมากมายที่ได้ร่วมกับศิลปินดังท่านอื่นและมีเพลงที่ cover ที่มียอดวิวหลักล้านใน YouTube ด้วยค่ะ กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักมากบวกกับความรักในการทำงานของเขา จนในวันนี้เขาได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าความพยายามของเขาไม่สูญเปล่าเลย เก่งมากเจ้ากวาง!!! ตอนนี้เจ้ากวางน้อยของเราก็ได้ทำเพลง " De Den De Di " เวอร์ชั่นไทยออกมาแล้วค่ะทุกคน ได้ปล่อยออกมาในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 19:00 น ตรงเวลาไทย แล้วแบบนี้จะไม่ให้รักได้ยังไงล่ะคะ ทำให้ได้เห็นถึงความใส่ใจของเขาที่มีต่อแฟนคลับ และความตั้งใจที่จะทำเพลงเวอร์ชั่นนี้ออกมาเป็นเวอร์ชั่นไทย จะใช้คำว่าหลงยังดูน้อยเกินไปเลยนะคะ คลั่งรักไม่ไหว!! ใช้คำว่าน่ารักได้เปลืองมาก ที่ปังเลยคือยอดวิวผ่านไปเพียง 1 วันก็ทะลุ 1 ล้านวิวอย่างรวดเร็ว เย้ ๆ เอาล่ะทีนี้เราก็มาปั่นวิวให้กับเพลงเวอร์ชั่นไทยอีกสักเพลงจะเป็นอะไรไปเอาให้ทะลุ 100 ล้านไปเลย ลุยกันเลยจ้า หลังจากอ่านจบรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ อย่างแรกที่ส่วนตัวผู้เขียนได้เห็นคือความพยายาม ความมุ่งมั่น ความตั้งใจที่จะทำตามความฝัน อีกอย่างหนึ่งคือความใส่ใจแฟนคลับของเขา ไหนใครทันไลฟ์บ้าง ทั้งในไอจี วีไลฟ์ เราจะได้เห็นความน่ารัก ดุ๊กดิ๊ก หลงแล้วหลงอีก ห้ามพลาดเลย ล่าสุดไม่กล้าปิดไลฟ์เพราะแฟนคลับอยู่กันเยอะทั้งที่ตัวเองก็ง่วงจะแย่ ได้แต่นั่งดูไปอมยิ้มไป ผู้เขียนรู้สึกภูมิใจจริง ๆ ที่ได้รู้จักต้าวกวาง และจะขอซับพอร์ตตลอดไปเลย 🥰"บทความอื่นของผู้เขียน"https://cities.trueid.net/post/207435ขอขอบคุณเครดิตภาพ : ภาพปก 1, ภาพปก 2, ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4