"...สัญชีวนีคัมภีร์ที่จารึกมนตราวิเศษ มีตำนานเล่าขานมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล ปรากฏหลักฐานขึ้นครั้งแรกในสมัยพระเจ้าวิกรมาทิตย์ แห่งกรุงอุชยินี ตามที่กล่าวอ้างไว้ ในหนังสือเวตาลปัญจวิงศติ ที่ศิวทาสเป็นผู้รจนาขึ้น" เมื่อเอ่ยถึงชื่อ “ณ บ้านวรรณกรรม” นักอ่านงานวรรณกรรมสายบันเทิงคดีทั้งหลายคงทราบกันดีถึงความเป็นยักษ์ใหญ่อีกสำนักพิมพ์หนึ่งในวงการตลาดนวนิยายไทย ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์นวนิยายของนักเขียนชั้นครูอย่าง ทมยันตี และลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์นวนิยายที่นักอ่านรู้จักกันดีของ พนมเทียน อย่างเรื่อง เพชรพระอุมา ตลอดจนผลงานของนักเขียนชื่อดังอีกมากมายในวงการน้ำหมึก อาทิ วรรณวรรธน์ ยุวดี มณีกุล ภูเตศวร ฯลฯ จนบางคนอาจจะนึกไม่ถึงว่านอกจาก ณ บ้านวรรณกรรม จะมีหนังสือนวนิยายดี ๆ มามอบความบันเทิงให้แก่นักอ่านแล้ว บ้านของคนรักในมนต์เสน่ห์ของอักษรแห่งนี้ก็ยังมีเรื่องสั้นชั้นดีให้นักอ่านได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากการอ่านเรื่องยาวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องสั้นแนวสยองขวัญสั่นประสาทในชื่อรวมเรื่องสั้นบ้านวรรณกรรม ชุด สนธยาสโมสร ที่เพิ่งจะได้ฤกษ์เปิดตัวไปเมื่อวันฮาโลวีน 31 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา เรื่องสั้นบ้านวรรณกรรม ชุด สนธยาสโมสร เป็นรวมเรื่องสั้นจากปลายปากกาของ สราวุธ สุทธิรัตน์ นักเทคนิคการแพทย์ผู้สนใจในจิตศาสตร์และหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของหมึกอักษร เจ้าของนามปากกา หมอกมุงเมือง ซึ่งจรดปลายปากกาเข้ามาเป็นนักเขียนของ ณ บ้านวรรณกรรม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 จากโครงการถนนสู่ดวงดาว ชิงรางวัลเกียรติยศ ทมยันตีอะวอร์ด จากนวนิยายเรื่อง ทวารบถ นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ซึ่งกินระยะเวลายาวนานเกือบ 15 ปี เขามีผลงานวรรณกรรมที่ตีพิมพ์ในเครือของ ณ บ้านวรรณกรรม ครบถ้วน 20 เรื่องพอดีในรวมเรื่องสั้นชุด สนธยาสโมสร เล่มนี้ สนธยาสโมสร เป็นรวมเรื่องสั้นแนวลึกลับ Sci-Fi ลำดับที่ 2 ของ หมอกมุงเมือง ต่อจากรวมเรื่องสั้นชุด ปีศาจสโมสร ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา คือเมื่อราวปี พ.ศ. 2553 ซึ่งสำหรับในรวมเรื่องสั้นชุดนี้ หมอกมุงเมือง ก็ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นนักเขียนแนวลึกลับ สยองขวัญ สั่นประสาท ผ่านการสอดแทรกปมจิตวิทยาของตัวละครและอารมณ์ปุถุชนของมนุษย์ออกมาได้อย่างน่าสนใจเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง นัดบอด อวสานสยอง หรือ หวีทอง เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง หวีทอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสั้นขนาดยาวที่เขียนขึ้นมาใหม่ล่าสุดเพื่อการรวมเล่มในครั้งนี้โดยเฉพาะนั้น ถือว่าเป็นเรื่องสั้นแนวสยองขวัญที่เล่นกับปมจิตวิทยาและสัญลักษณ์ คือ ‘หวีทอง’ ของ เกตุวรินทร์-เกตุวรางค์ สองสาวศรีพี่น้องฝาแฝดแบบ Identical Twin และ คุณแก้วตา มารดาของเธอทั้งสองคนออกมาได้อย่างน่าสนใจยิ่ง ว่าเมื่อคนเราต้องประสบกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชีวิต คนเราก็สามารถที่จะสร้าง ‘นิทาน’ ในแบบฉบับพลอตเรื่องของตนเองขึ้นมาแทรกซ้อนกลมกลืนอยู่ในโลกของความเป็นจริงได้อย่างแนบเนียนและลึกล้ำเช่นนั้นเชียวหรือ? มันแนบเนียนและลึกล้ำจนแม้กระทั่งจิตแพทย์อย่างนายแพทย์พีรวัส เวชภากร และนักอ่านอย่างเรา ๆ ยังต้องพิศวงกับกลไกความซับซ้อนแห่งจิตใต้สำนึกนั้น ซึ่งแนวเรื่องในทำนองนี้ หมอกมุงเมือง ไม่เคยทำให้เราผิดหวังเลย นับตั้งแต่นวนิยายเรื่องแรกของเขาอย่าง ทวารบถ จนมาถึงรวมเรื่องสั้นชุดนี้ ถึงแม้ว่าเรื่องสั้นหลายเรื่องในจำนวนเรื่องสั้นทั้งหมดถึง 13 เรื่องในรวมเรื่องสั้นชุดนี้จะเป็นเรื่องสั้นที่เคยผ่านการตีพิมพ์ในหน้านิตยสารและหนังสือโอกาสพิเศษต่าง ๆ มาแล้วเมื่อหลายสิบปีก่อน เช่น มิติพิศวง นิวทัช เป็นต้น ทว่าด้วยความล้ำหน้าของเนื้อเรื่องและอุปกิเลสของตัวละครภายในเรื่อง ก็ยังคงทำให้เรื่องสั้นชุดนี้ยังคง ‘ทันสมัย’ และน่าสนใจอยู่ ไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแต่งที่เชย หรือ ตกยุค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลึกลับแนวมนุษย์ต่างดาวอย่าง หนีสุดนรก ซึ่งเคยได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร แก้ว เมื่อนานมาแล้ว เรื่องแนวคดีฆาตกรรมสยองขวัญใน ลางหลอน ซึ่งเคยได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในวารสารส้มฟ้า ของ โรงเรียนชลราษฎรอำรุง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เรื่องสั้น วังวนวิญญาณ ที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสาร มิติพิศวง เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งพูดถึงการพลัดหลงในมิติเวลาที่ทับซ้อนกันของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ หรือแม้กระทั่งเรื่องสั้น ธาตุมนุษย์ ที่เคยได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร นิวทัช เมื่อปี พ.ศ. 2532 ซึ่งผสมผสานระหว่างความเป็นไซไฟ และตั้งคำถามต่อการเป็น “มนุษย์ที่สมบูรณ์ในสังคมปัจจุบัน” ได้เป็นอย่างดี เรื่องสั้นที่มีชื่อเรื่องยาวที่สุดและมีขนาดยาวที่สุดในรวมเรื่องสั้นชุดนี้ ซึ่ง หมอกมุงเมือง ใช้เป็นเรื่องสั้นปิดท้ายในเล่มก็คือเรื่องสั้นที่มีชื่อเรื่องว่า สัญชีวนีมหามนตรา ‘เรื่องสั้นขนาดยาว’เรื่องนี้ถือว่าเป็นความ ‘กล้า’ ให้กำไรแก่ผู้อ่านเลยก็ว่าได้ ทั้งด้วยความยาวของเรื่องและลักษณะของโครงเรื่องที่ออกไปในทาง ‘นิยายขนาดสั้น’ ประกอบกับข้อมูลทางภาษาศาสตร์และปกรณัมที่เรียกได้ว่า ‘ใส่มาเต็ม’ จนสามารถขยายพลอตเรื่องไปเขียนเป็นนวนิยายขนาดยาวได้อย่างสบาย ทั้งตำนานของ คัมภีร์สัญชีวนี ที่ปรากฏใน เวตาลปัญจวิงสติ หรือ นิทานเวตาล และเกร็ดความรู้ความลับเกี่ยวกับภาษาโบราณที่น้อยคนรู้จักอย่าง ภาษากูโบ๊ส ทั้งสามระดับ แนวคิดเชิงเปรียบเทียบระหว่างพุทธปรัชญากับวิทยาศาสตร์ ปรจิตวิทยา และหลักปรัชญาของโยคะ เป็นต้น หมอกมุงเมือง ปิดสโมสร (ปิดเล่ม) รวมเรื่องสั้น สนธยาสโมสร ชุดนี้ของเขาด้วยการเชื้อชวนให้ผู้อ่าน ‘วนลูป’กลับไปยัง ปีศาจสโมสร ซึ่งเคยตีพิมพ์เมื่อ 10 ปีที่แล้วของเขาอีกครั้ง จึงทำให้รวมเรื่องสั้น ปีศาจสโมสร-สนธยาสโมสร กลายเป็น ‘จักรวาล’ เรื่องสั้นของเขาและของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ไปโดยปริยาย ซึ่งหากนักอ่านท่านใดอยากทราบว่ารวมเรื่องสั้นทั้งสองชุดนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไรนั้น คงต้องไปสัมผัสความเสียวสันหลังกันเองได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป หรือสั่งจับจองโดยตรงได้ที่ สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ครับภาพประกอบ โดย ผู้เขียน