"ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ มูเตลู ไม่เข้าใครออกใคร" วลีนี้เป็นวลีฮิตของรายการที่คนมีของ คนมีความเชื่อ เลื่อมใสศรัทธา ในเกจิอาจารย์หรือวัตถุมงคลต่างๆต้องติดตาม นั่นก็คือ รายการ มูไนท์ ของช่อง ThairathTV ซึ่งเป็นที่มาของการได้รู้จักกับ ไอ้ไข่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราชและได้รับรู้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ดังนั้นเราจึงได้ออกเดินทางเพื่อไปตามหา ไอ้ไข่วัดเจดีย์ แห่ง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช กันค่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ไม่ได้ศรัทธาหรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นแนวของกุมารทองเพราะเป็นคนที่กลัวสิ่งเล้นลับ แต่เมื่อได้มาดูรายการมูไนท์ ย้อนหลังเป็นเทปเกี่ยวกับ บุกถิ่น “ไอ้ไข่ วัดเจดีย์”เปิดกรุ “กุมารเทพ” ออกอากาศเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2560 ได้ฟังประวัติของไอ้ไข่วัดเจดีย์ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่ทวด ซึ่งเราได้เคารพศรัทธาท่านอยู่แล้วเลยทำให้เกิดความสนใจก่อนเป็นอันดับแรกและเมื่อได้ดูจนเกือบถึงช่วงสุดท้ายของรายการก็เกิดความคิดว่า ถ้าหากเรามีความเชื่อว่า ไอ้ไข่วัดเจดีย์ สามารถให้ในสิ่งที่เราขอให้แม้จะผ่านทางหน้าจอโน้ตบุคก็ขอลองสักครั้ง พอคิดแบบนั้นก็ได้เปิดไปคลิปไปยังช่วงที่มีรูปไอ้ไข่แล้วพนมมือตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอบารมีไอ้วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ขอให้ข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้ไปเห็นไอ้ไข่วัดเจดีย์สักครั้งหนึ่ง และแล้วเราก็ได้ไปจริงๆ ในระหว่างที่เตรียมตัวรอการแต่งตั้งเข้ารับราชการ ก็ได้วางแผนที่จะเดินทางไปตามหาไอ้ไข่วัดเจดีย์ ซึ่งก็ได้เวลาที่เหมาะสมเป็นช่วงสิ้นเดือนตุลาคม (27-28 ตุลาคม 2561) หลังจากที่บรรจุได้เกือบ 1 เดือน การเดินทางก็ยังคงใช้บริการสายการบิน Airasia เช่นเคย เดินทางจาก ดอนเมือง - นครศรีธรรมราช สำหรับตั๋วเครื่องบินช่วงนั้นอยู่ที่คนละประมาณ 890 บาทรวมภาษีแล้ว ไปกลับก็เดือบ 4,500 บาท ครั้งนี้เราเช่ารถเช่ารถในการเดินทางจาก nakhon carrent รถเช่า นครศรีธรรมราช บริการดี เป็นกันเอง รับรถ-คืนรถได้ที่สนามบิน ในวันที่เราไปนั้นเราเช่ารถsuzuki ciaz ราคาในการเช่า 1,100 บาทเนื่องจากเราไประยะสั้นราคาจึงสูง อ่อ สำหรับในวันที่ส่งคืนรถ เราก็ต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังเหมือนตอนที่เรารับรถ ตอนนั้นเติมคืนกลับไปน่าจะ 600 บาท เมื่อรับรถแล้วเราจึงเดินทางไปไหว้ศาลหลักเมืองถือเป็นการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครศรีธรรมราชและเอาฤกษ์เอาชัยก่อนการขับรถเดินทางไปหา ไอ้ไข่วัดเจดีย์ แต่อย่างที่เขาว่า กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราจึงแวะรับประทานอาหารเพื่อเติมพลังกันก่อน ที่ร้าน "โกปี๊" เมนูที่สั่งก็ข้าวขาหมู ติ่มซำ บักกุ๊ดเต๋และโอเลี้ยง หลังจากเติมพลังแล้วเราก็เดินทางไปยังวัดเจดีย์ บอกได้เลยว่า การเดินทางในครั้งนี้เราต้องใช้ตัวช่วยอย่าง google map ก็มาเป็นครั้งแรกเนาะแต่ถนนหนทางถือว่าโอเคมากๆ พอเราเดินทางใกล้ถึงวัดก็จะสังเกตเห็นรูปปั้นไก่เรียงรายเต็มไปหมดตลอดสองข้างทางถือว่าแรงศรัทธาล้นหลามจริงๆ เมื่อเราเดินทางมาถึงวัดต้องตกใจและตะลึงกับผู้คนจำนวนมากที่มาทั้งไหว้ ทั้งแก้บน เยอะมากจนไม่รู้ว่าเราจะเริ่มไปจุดไหนก่อน ที่แน่ๆเราต้องไปเตรียมสิ่งของที่มาถึงแล้วไม่ทำไม่ได้คือ การจุดปะทัด อ่อลืมบอกไปว่า เราได้เตรียมของเล่นเด็ก ชุดทหาร รูปปั้นไก่ชนมาแก้บนในครั้งนี้ด้วย แต่ของอย่างอื่นเราก็มาหาที่วัด อย่างเช่น น้ำแดง ปะทัด (ปะทัดเราเลือก 2,000 นัดราคาประมาณ 200-300 บาท ขออภัยที่จำราคาไม่ได้) ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าต้องจุดปะทัดเท่าไหร่ดีเลยเลือกตามจำนวนที่ใจอยากจุด หลังจากที่เราได้เข้าไปบอกกล่าวไอ้ไข่แล้ว ก็จะมานำรูปปั้นไก่ไปวางไว้บริเวณที่เค้ามีให้และนำปะทัดไปให้พี่เค้าเพื่อจะนำไปจุดให้เรา ก็เป็นอันเสร็จสิ้น เมื่อได้มาแก้บนไอ้ไข่ตามที่ได้ตั้งจิตอธิษฐานแล้ว เราก็เดินทางไปยังวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (พระธาตุไร้เงา) โบราณสถานสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความอัศจจรย์ก็คือ องค์พระธาตุจะไม่มีเงาทอดลงพื้นไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางไหน น่าทึ่งจริงๆ!!! จากนั้นเราก็ได้ไปเยี่ยมชมสถานที่น่าสนใจต่างๆในบริเวณวัดมหาธาตุ เช่น .วิหารพระแอด ที่วิหารพระแอดนี้จะมีรูปของเด็กๆเยอะมากเพราะเป็นที่ๆพ่อแม่หลายๆคนที่มีลูกยากหรือมีปัญหาการมีบุตรยาก จะมาขอลูกจากท่าน ทำให้เมื่อได้ตามที่ขอแล้วก็จะนำรูปลูกของตนเองมาให้ท่านดู เหมือนจะบอกว่าเป็นลูกหลานของท่าน เป็นต้น เมื่อได้ไหว้พระทำบุญกันเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มจะหมดแรงกันแล้ว จึงตัดสินใจว่าคงต้องเดินทางไปยังที่พักเพื่อพักผ่อนเนื่องจากเดินทางกันมาทั้งวัน สำหรับคืนนี้เราพักกันที่ สิชล คาบาน่า บีช รีสอร์ต เราพักแบบ วีคเอนเดอร์ ราคา ณ ตอนนั้นคืนละ 1,500 บาท โดยรวมคือประทับใจมากเพราะบริการดี มีความเป็นส่วนตัวและที่สำคัญพักติดทะเลด้วย อันนี้คือชอบที่สุด^^ และจากประสบการณ์ที่เกี่ยวกับความเชื่อและศรัทธา จนได้มาตามหาไอ้ไข่วัดเจดีย์ที่ได้เล่าสู่กันฟังมานี้ ก็อยากจะให้ผู้อ่านได้ลองมาเที่ยวและชมสถานที่สำคัญต่างๆของจังหวัดนครศร๊ธรรมราช แล้วท่านจะติดใจ^^ ก่อนจะจากกันในวันนี้ก็อยากจะฝากเอาไว้ว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นย่อมเกิดมาด้วยความพยายามของตัวเราเองเป็นหลัก ให้เราใช้ความสามารถที่เรามีให้เต็มที่แล้วสิ่งที่เราคิดหรือหวังไว้ยังไงก็สำเร็จ ขอเพียงแค่เราลงมือทำ ... แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ