ภาพประกอบโดยผู้เขียนขอออกตัวก่อนนะคะว่าตอนประถมจนถึงมัธยมปลาย เป็นคนที่ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย แต่ยังไม่ถึงขั้นเกลียดนะคะ พ่อแม่จะบังคับแต่เรียนตลอดค่ะ ให้ฝึกภาษาอังกฤษไว้ ซึ่งก็พยายามทำนะคะ แต่ทำในแบบของตัวเองค่ะ ทุกวิธีที่ทำส่วนใหญ่จะไม่ใช่การเรียนรู้โดยตรงจากการเรียนกับครู หรืออาจารย์ แต่เป็นการทำจากประสบการณ์ และการใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่ค่ะโดยผู้เขียนเป็นคนที่ค่อนข้างขี้เกียจเลยค่ะ อยากทำแค่ตอนที่อยากทำ แต่พอขึ้นมหาวิทยาลัยการเรียนก็เปลี่ยนไปทำให้ผู้เขียนต้องปรับตัวในการเรียนภาษาอังกฤษใหม่ค่ะ แต่ก็ยังคงใช้วิธีแบบเดิม ๆ ที่ใช้มา ซึ่งวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังค่ะแรงจูงใจใช่ค่ะ ทุกคนต้องมีแรงจูงใจอยู่แล้ว เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เราสามารถทำยิ่งนั้นได้อย่างมีเป้าหมาย โดยแรงจูงใจของผู้เขียนคือ การได้ไปแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศค่ะ ผู้เขียนได้ดูยูทูบที่พาชมมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของต่างประเทศทำให้ผู้เขียนรู้สึกชอบเลยนำมาเป็นแรงจูงใจค่ะฟังเพลงภาษาอังกฤษโดยมีซับไตเติ้ลผู้เขียนจะใช้วิธีนี้เป็นส่วนใหญ่ค่ะ เนื่องจากเป็นคนขี้เกียจเรียน แต่ชอบฟังเพลงมาก เลยพยายามหันมาฟังเพลงสากลค่ะ โดยจะเลือกเพลงที่มีซับไตเติ้ลให้ จากนั้นจะพยายามร้องตาม แล้วก็อ่านคำแปลด้วยค่ะ วิธีนี้ค่อนข้างช่วยได้เยอะเลยค่ะ รู้สึกไม่ทรมานเหมือนตอนนั่งเรียนค่ะ และสามารถจำคำศัพท์ได้เยอะค่ะสนทนาออนไลน์กับชาวต่างชาติวิธีนี้ผู้เขียนได้ทำบ่อยช่วงจะเปิดเทอมขึ้นปี 1 ค่ะ ช่วงนั้นรู้สึกเหงา เลยพยายามคุยเพื่อเพิ่มทักษะต่าง ๆ ค่ะ โดยหากเป็นชาวต่างชาติผู้เขียนจะพยายามจดจำ บทสนทนาที่เป็นพื้นฐาน จากคู่สนทนาไว้ค่ะ เพื่อใช้กับคนอื่น ๆ อีก มันช่วยได้เยอะค่ะ เรารู้ประโยคสนทนามากขึ้น เวลาแปลประโยคของคู่สนทนาผู้เขียนจะแปลหลาย ๆ เว็บนะคะ ไม่ก็แปลแค่บางศัพท์ค่ะว่ามีความหมายโดยนัยหรือไม่ แต่ขอเตือนนะคะชาวต่างชาติส่วนใหญ่ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับแกรมมาร์นะคะหากใครที่ต้องการแกรมมาร์แบบเป๊ะ ๆ ไม่ขอแนะนำวิธีนี้ แต่หากต้องการแค่สนทนารู้เรื่อง วิธีนี้ถือว่าดีเลยค่ะสรุปเนื้อหาหลังเรียนแต่ละบทวิธีนี้จะค่อนข้างอาศัยความพยายาม อดทน ตั้งใจหน่อยค่ะ โดยผู้เขียนจะสรุปแต่ละบทไว้แบบเข้าใจง่าย ๆ และเขียนคำศัพท์ของบทนั้นไว้ด้วยค่ะ ถ้าเรียนบทนั้นจบแล้วจะรีบทำไว้เลยค่ะ แล้วแปะผนังไว้ในที่ที่เราสามารถเห็นได้ทุกครั้ง มันจะเกิดภาพจำในกระดาษแผ่นนั้นทันทีค่ะดูคลิปสอนสั้น ๆเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ไม่ค่อยชอบภาษาอังกฤษจะไม่ชอบดูคลิปการสอนอย่างแน่นอนค่ะ ผู้เขียนขอแนะนำดูคลิปการสอนที่สั้น ๆ ไม่เกิน 2.5 นาทีค่ะ ในคลิปสั้น ๆ ส่วนใหญ่จะสอนการใช้คำให้ตรงกับสถานการณ์ และสอนเปรียบเทียบคำค่ะ วิธีนี้ผู้เขียนรู้สึกว่าได้ประโยชน์มากเลยค่ะ เพราะผู้เขียนเองก็ไม่ชอบดูคลิปที่ยาว ๆฝึกจากแอปพลิเคชันโดยผู้เขียนจะโหลดแอปพลิเคชันที่ช่วยฝึกเอาไว้ โดยจะทำวันละบท เพื่อพัฒนาไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน จะทำให้เราจำได้มากยิ่งขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ง่ายมาก ๆ จนถึงระดับปัจจุบันที่เราควรต้องเรียน วิธีนี้ช่วยได้เยอะพอสมควรค่ะและนี่คือวิธีที่ผู้เขียนได้ทำค่ะ แล้วเห็นผลค่ะ โดยผู้เขียนเป็นคนที่ไม่ค่อยเก่งภาษาอังกฤษเลยค่ะ แต่พอได้พยายามลองทำแล้วรู้สึกว่า เข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้นเลยค่ะ แต่วิธีที่ผู้เขียนได้แชร์ไป อาจจะสามารถทำให้บางคนเข้าใจมากขึ้นได้ และสำหรับบางคนอาจจะยังไม่เข้าใจ ลองปรับเปลี่ยนหาวิธีใหม่ ๆ ดูค่ะ หาวิธีที่เข้ากับตัวเองเพื่อให้เกิดการพัฒนา สำหรับใครที่ยังไม่เห็นว่าภาษาอังกฤษสำหรับ ผู้เขียนอยากจะบอกว่า ฝึกไว้เถอะค่ะ สักวันต้องได้ใช้แน่นอนขอบคุณภาพจาก PEACHIIขอบคุณภาพจาก MISOภาพประกอบโดยผู้เขียนขอบคุณภาพจาก krupann.english