ไลฟ์แฮ็ก

เทคนิคจัดการกับอารมณ์ด้านลบ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เทคนิคจัดการกับอารมณ์ด้านลบ

ผมเชื่อว่าทุกคนเคยได้ยินคำว่า ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว ใช่ไหมครับ ซึ่งแน่นอนว่าคำนี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องจริงเลยทีเดียว หลาย ๆ คนทำภารกิจยาก ๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้ เพราะว่ามีกำลังใจที่ล้นหลาม มีความมุ่งมั่นอยากจะพยายามทำให้สำเร็จ เห็นได้ชัดก็คือหลาย ๆ คนที่ วิ่งมาราธอนจนสำเร็จโดยที่ซ้อมมายังไม่ถึงระยะที่จะวิ่งตามจริง  แต่ก็ยังฝืนวิ่งต่อไปเรื่อย ๆ จนจบนั่นเอง  นั่นก็เพราะว่า จิตใจของเขาเข้ามาทำงานแทนที่ สั่งให้ร่างกายวิ่งต่อไปจนเข้าเส้นชัยนั่นเอง ช่วงเวลานี้แหละเป็นช่วงเวลาที่ใจเข้ามาเป็นนาย กายจึงต้องเป็นบ่าว

จิตใจของเรามีประสิทธิภาพส่งผลต่อร่างกายเรามาก มันส่งผลต่อเนื่องกันทั้งระบบ เช่น อารมณ์ดีแล้วก็จะฉีกยิ้มกว้าง แต่เวลาเราเศร้า เราก็ทำหน้าบึ้งนี่คือผลต่อเนื่องกัน คงไม่มีใครที่เศร้าแล้วก็ฉีกยิ้มกว้างใช่ไหมครับ

Advertisement

Advertisement

วันนี้ผมเลยจะมาแชร์เทคนิคให้กับเพื่อน ๆ ในการจัดการกับอารมณ์ด้านลบกันนะครับ

https://unsplash.com/photos/X_znrYlFBksภาพจาก https://unsplash.com/photos/X_znrYlFBks

อารมณ์ด้านลบ

ถือเป็นอันตรายร้ายแรงที่สุดของสุขภาพ ความเครียดนั้นเกิดจากการสะสมอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์เอาไว้ ทีละเล็กทีละน้อย จากการไม่พอใจเรื่องบางอย่าง ความไม่ได้ดั่งใจ ความต้องการของเราที่ไม่สมปรารถนา การที่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครรัก ความต้องการเหล่านี้ทั้งหมดล้วนทำให้ร่างกาย และ สมองเกิดสภาพความตึงเครียด

อารมณ์ด้านลบที่เราเก็บกดไว้ในร่างกายจะรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จนรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ขึ้น ซึ่งเกิดเป็นความเจ็บป่วยต่อร่างกาย ความจริงอารมณ์ด้านลบนั้นมีผลโดยตรงต่อสภาพร่างกาย เมื่ออารมณ์ใด ๆ เกิดขึ้น ร่างกายจะตอบสนองลักษณะของอารมณ์นั้นเป็นแบบหนึ่ง เช่น เมื่อมีอารมณ์โกรธร่างกายจะตอบสนองด้วยการหายใจถี่สั้นอย่างรวดเร็ว เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย และ ไปเลี้ยงที่ใบหน้าเป็นส่วนใหญ่หัวใจจะเต้นแรง และ เร็ว กล้ามเนื้อจะมีความตึงเกร็ง  นี่คือตัวอย่างชั้นดีที่บ่งบอกว่า ของสภาพอารมณ์ด้านลบนั้นส่งผลต่อร่างกายโดยตรง

Advertisement

Advertisement

ในขณะที่เรามีอารมณ์ไม่ดี ร่างกายของเราจะสูญเสียสมดุลไปชั่วขณะ เมื่ออารมณ์ดีขึ้นร่างกายก็จะผ่อนคลาย เลือดลมจะเดินได้สะดวกตามปกติธรรมชาติจะสร้างมาให้เราเป็นแบบนี้ ถ้าเราเข้าใจว่าผลร้ายจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่อารมณ์เราไม่ดี เราก็ควรจะปลดปล่อยอารมณ์นั้นออกไปโดยเร็วไม่ต้องไปเก็บมันไว้ในภายในจิตใจของเรา อย่างเช่น ถ้าวันนี้ไปโรงเรียนแล้วมีเรื่องให้ทุกข์ใจคุณครูดุด่าบ้าง พอกลับมาบ้านก็อย่าเอาอารมณ์นั้นมาเก็บไว้ในใจแต่ให้ทิ้งมันไว้ที่โรงเรียน อยู่ที่บ้านก็จงมีความสุขกับช่วงเวลานั้น

https://unsplash.com/photos/FRWEi-3Qjk4ภาพจาก https://unsplash.com/photos/FRWEi-3Qjk4

เราควรปรับเปลี่ยนอารมณ์ให้ทันก่อนที่จะเกิดอารมณ์รุนแรงขึ้น

ก่อนจะโกรธนั้นเราสามารถควบคุมตัวเองไม่ให้โกรธได้ โดยที่เก็บอารมณ์ไว้ และ ไม่ไปต่อยอดของอารมณ์นั้น เมื่อเฝ้าดูไปเรื่อย ๆ สุดท้ายอารมณ์ก็จะลดตัวลงจนหายไปเอง เมื่อเราทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราจะมีความสามารถในการต่อกรกับอารมณ์ของเรามากขึ้น มันอาจจะยากนิดนึง ในการควบคุมไม่ให้เราโกรธ ไม่ให้เราโมโห ไม่ให้เราหงุดหงิด ไม่ให้เราทุกข์ใจ แต่มนุษย์ทุกคนมีความสามารถในการทำแบบนั้นได้ เราต้องใช้ สติ เป็นตัวนำ และคอยสังเกต เพราะอารมณ์ไหนจะแสดงขึ้นต้องมีสิ่งเร้ามากระทบ สำคัญเสมอหากเราสังเกตตัวเราบ่อย ๆ เข้า เราจะรู้ได้ว่าถ้ามีสิ่งมาเร้ากระทบ แล้วเราจะแสดงอารมณ์ใดต่อไป เช่น ตามองเห็นข้าวผัด จมูกได้กลิ่นหอมของอาหาร หูได้ยินเสียงข้าวกำลังผัด เรารู้แน่เลยว่าเดี๋ยวจะมีอารมณ์อยากกิน ถ้าเราไม่อยู่ในภาวะที่จะกินได้ และ ต้องจัดการอย่าให้อารมณ์อยู่กับเรานานเกินไป พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเมื่อมีประสาทสัมผัสทั้ง 5 มากระทบเราก็อยากให้อารมณ์มาเป็นนายของเรา นั่นเองครับ

Advertisement

Advertisement

เมื่อเรารู้ตัวว่าจะแสดงอารมณ์แบบใด เราก็ต้องตัดสินใจว่าเราจะรับอารมณ์นั้นไว้หรือไม่ ถ้าเป็นอารมณ์ที่ไม่ดีเราไม่ต้องการ เราก็ต้องพยายามตัดมันทิ้งออกไป ต้องรู้เท่าทันก่อนที่มันจะเกิดเสมอดีกว่าที่เราจะปล่อยให้มันเกิดอารมณ์มันขึ้นแล้วเราค่อยมานั่งจัดการแก้ปัญหาทีหลังในสิ่งที่เราได้ทำลงไป แต่ว่าถ้าอารมณ์นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนสติแล้วตามไม่ทันพอสติมาเมื่อไหร่แล้ วก็ค่อยตามมาให้ทันแล้วปลดปล่อยอารมณ์ออกไป อย่ายอมให้มันอยู่กับจิตใจของเราตลอด

พยายามทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เห็นผลบ้าง หรือ ไม่เห็นผลก็ไม่เป็นไร ยังไงทุกครั้งที่เราทำเราก็จะเก่งขึ้นเสมอ เราจะเกิดความชำนาญขึ้นเรื่อย ๆ สักวันแล้วก็จัดการกับอารมณ์ด้านลบของเราได้อย่างแน่นอน เมื่อเราจัดการกับอารมณ์ด้านลบของเราได้แล้วร่างกายก็จะเกิดสมดุลจิตใจก็จะปลอดโปร่งโล่งสบาย ส่งผลให้ร่างกายของเราผ่อนคลายสบายตามไปด้วยนั่นเองครับ

https://unsplash.com/photos/Neiy9IkHUkkภาพจาก https://unsplash.com/photos/Neiy9IkHUkk

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์