เทคนิคการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน เพื่อพิชิตใจนายจ้างชาวต่างชาติยุคสมัยที่เศรษฐกิจเป็นแบบเปิด ทำให้เกิดการไหลของแรงงาน บางครั้งเราก็ไปเจอหมอชาวเนปาลที่อเมริกา เจอวิศวะกรชาวอินเดียที่ออสเตรเลีย หรือเจอเชฟชาวไทยฝีมือดีที่แอฟริกา เหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จนแทบจะเป็นเรื่องปกติของสังคมยุคปัจจุบัน แล้วเราเคยเกิดความสงสัยมั้ย ว่าทำไมบุคคลเหล่านี้เค้ามีคุณสมบัติอะไร ที่ทำให้เค้าได้ทำงานที่ต่างประเทศ หรือได้มีโอกาสร่วมงานกับนายจ้างชาวต่างชาติ หลาย ๆ คนอาจจะแอบตอบในใจ ว่าเค้ามีความสามารถ บางคนอาจจะคิดว่าเพราะเค้ามีโอกาส คนส่วนหนึ่งก็แย้งว่าโชคช่วย สำหรับผู้เขียนสิ่งเดียวที่โชคช่วยได้ ก็คือการเสี่ยงดวงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหวย ลอตเตอรี่ การลุ้นรางวัลจากสลากต่าง ๆ อันนี้คงต้องเพิ่งดวงใคร ดวงมัน ถ้าใครยังมั่นใจว่าเป็นเพราะโชคช่วย ผู้เขียนก็แนะนำให้ผู้อ่านติดตามการดูดวงจากบรรดาหมอ ๆ ทั้งหลายนะจ๊ะนอกจากความสามารถ และประสบการณ์การทำงานอันโชกโชนแล้ว ส่วนใหญ่เค้าได้งานจากโอกาสที่เค้าได้รับ โอกาสในที่นี้อาจจะเป็นโอกาสที่ได้พบเจอ หรือรู้จักกันมาก่อนล่วงหน้า หรือโอกาสที่เค้าได้เข้าไปสมัคร หรือสัมภาษณ์งาน ซึ่งการสมัครงานทุกวันนี้เป็นอะไรที่ง่ายมาก เมื่อเทียบกับยุค 30-40 ปีที่แล้ว ที่ต้องเดินทางไปสมัครด้วยตนเอง ในยุคนี้ทำรายการทุกอย่างทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นอะไรที่สะดวกสบายและรวดเร็วมาก และไหน ๆ เราก็ผ่านจนถึงขั้นตอนการสัมภาษณ์แล้ว เราก็ต้องพยายามคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะโอกาสอาจจะไม่ได้มาหาบ่อย ๆ เนอะและนี่คือ 4 เทคนิคการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน เพื่อพิชิตใจนายจ้างชาวต่างชาติ1. ซีวี (เรซูเม่) และจดหมายแนะนำตัวที่น่าสนใจ เพื่อให้เราได้มีโอกาสเข้าไปให้เค้าสัมภาษณ์ และก่อนไปสัมภาษณ์ควรอ่านซีวีตัวเองซ้ำหลาย ๆ รอบ จะได้ไม่ตอบไปคนละประเด็น2. หาข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงาน และบริษัทที่เราจะไปสัมภาษณ์งาน ข้อนี้สำคัญมาก เพราะแสดงถึงความสนใจของผู้สมัครงาน ว่าเราพร้อมที่จะร่วมงานกับบริษัทมั้ย3. ศึกษาหาข้อมูลของนายจ้างที่จะสัมภาษณ์งาน ว่าเป็นคนชาติใด มีลักษณะนิสัยอย่างไร ส่วนนี้ก็ค่อนข้างสำคัญ เพราะบางชาติอาจไม่ชอบให้คนสมัครงาน ถามถึงแต่เรื่องสวัสดิการ หรือเงินเดือน พอเราไปถามถึงเรื่องสวัสดิการ อาจกลายเป็นว่าเราจ้องหาแต่ผลประโยชน์ ไม่ได้สนใจที่จะทำงานจริง ๆ แต่เอาจริง ๆ เราทำงาน เราก็อยากได้เงินเดือนดี ๆ ไม่มีใครจะอยากทำงานให้ใครฟรีหรอกนะ แต่บางครั้งการโฟกัสแต่เรื่องเงิน ก็ทำให้เสน่ห์ในตัวเราลดลงไปเช่นกัน4. การแต่งกายไปสัมภาษณ์งาน ซึ่งสมัยก่อนการไปสมัครหรือสัมภาษณ์งาน จะเป็นแบบจัดเต็ม ใส่สูท ผูกเนคไท แต่สมัยนี้จะเน้นความคล่องตัว หลาย ๆ งาน อาจจะไม่ต้องจัดเต็มขนาดนั้น เพราะบางครั้งการจัดเต็ม อาจได้ผลเสียมากกว่าผลดี ตัวอย่างที่ผู้เขียนเคยเห็นมา ก็คือในกรณีการใส่สูทไปสัมภาษณ์งานด้านครีเอทีพ ซึ่งทางบริษัทประเมินว่าผู้มาสัมภาษณ์ไม่มีความเป็นครีเอทีพ โอ้!! มายก้อด โลกมันไปไกลขนาดนี้แล้วหรือ ? แต่บางงานการแต่งตัวเรียบร้อย ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่นะ ซึ่งผู้ไปสัมภาษณ์ควรศึกษาหาข้อมูลส่วนนี้ด้วย เพื่อที่เราจะได้ไม่พลาดโอกาสดี ๆ ไงหล่ะทุกวันนี้โอกาสเปิดกว้างสำหรับทุกคน แค่เรามีอินเทอร์เน็ต ความสามารถ และแรงบันดาลใจ เราก็อาจจะก้าวไปได้ไกล ได้มากกว่าที่เราคิดนะ ผู้เขียนขอเป็นกำลังให้ผู้ที่กำลังหางานทุก ๆ คนนะ"วันนี้อาจไม่ใช่วันของเรา แต่มันคงต้องมีสักวัน ที่เป็นวันของเรา"By Nurseonomyเครดิต ภาพปก / ภาพที่ 1 /ภาพที่ 2/ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4