อื่นๆ

เทคนิคการ "ปิดการขาย"

794
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เทคนิคการ "ปิดการขาย"

ขอบคุณภาพหน้าปกจาก Tamanna Rumee / Unsplash

สวัสดีค่ะ! สถานการณ์ช่วงโควิด ทำให้ผู้คนหันมาขายของกันเยอะแยะเต็มไปหมด และต่างก็มีเทคนิคมาแชร์กันสารพัด สิ่งสำคัญในการขายในขั้นตอนปลายสุดก่อนที่คุณจะได้เงินนั่นก็คือ


การปิดการขาย

การปิดการขาย เป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง นักขายหลายคนที่เป็นมือใหม่ อาจจะมีการปิดการขายที่ไม่เฉียบคม ทำให้ลูกค้าหลุดมือไปหลายราย


บทความนี้ เราจะได้เรียนรู้วิธิการปิดการขายที่ได้เสมอ ย้ำว่า ได้ผลเสมอ ตราบใดที่โลกนี้ยังมีการขายและการตลาดเกี่ยวข้องกับธุรกิจ มาดูกันเลยค่ะว่ามีวิธีอะไรบ้าง บางวิธีคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้ อ่านให้จบนะคะ อย่าเพิ่งรีบปิดหนีไปก่อนค่ะ

1. "บีบลูกค้าให้ซื้อตอนนี้" (ถ้าไม่ซื้อก็หมดโอกาสแล้วนะ!)

โอกาสสุดท้ายภาพจาก Riley McCullough / Unsplash

เป็นเทคนิคที่เหมาะกับการขายแทบจะทุกรูปแบบ วิธีการทุกคนน่าจะเคยประสบพบเจอกันอยู่แล้วแน่นอน และน่าจะแทบทุกคนที่ทนไม่ไหว ซื้อไปเรียบร้อย กับคำว่า สินค้าจะหมดแล้วนะ, วันสุดท้าย, สิบนาทีสุดท้าย, 50สายแรกเท่านั้น เป็นต้น หรือเป็นการชั่งน้ำหนักวัดใจไปเลย ตัวอย่างเช่น
“ลดสุดๆแล้วชิ้นนี้ชิ้นสุดท้ายค่ะ ถ้าไม่ซื้อตอนนี้ แม่ค้าอาจจะต้องขายให้ลูกค้าอีกรายที่สนใจเหมือนกัน”

Advertisement

Advertisement

“ถ้าคุณตัดสินใจซื้อตอนนี้ แม่ค้าจะจัดทีมงานให้เร็วพิเศษตอนนี้เลย เพื่อให้งานเสร็จตามกำหนด”

จะเห็นว่า “ความเร่งด่วน” (Sense of Urgency) เป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้าหยุดลังเล และตัดสินใจซื้อเพราะได้รับสิ่งที่เป็นโอกาสที่ไม่สามารถปล่อยให้หลุดมือไปได้
แต่! ไม่ใช่ทุกจังหวะ ที่จะใช้ได้ผล คุณต้องรอ รอให้ลูกค้าลังเลถึงคุณค่าที่คุณเสนอให้ซะก่อน ถ้าคุณใช้มันเร็วเกินไปทั้งๆ ที่ลูกค้ายังไม่ยอมรับว่าสิ่งที่คุณเสนอมีคุณค่ากับพวกเขาเพียงพอคุณจะไม่สามารถปิดการขายได้ คุณต้องใช้มันเมื่อแน่ใจว่าลูกค้าอยากได้จริงๆ และเห็นคุณค่าของสินค้า

2. สรุปรวบรัดเหมารวม ว่าลูกค้าซื้อแล้วให้ลูกค้าไปเลย

ปิดการขายแบบเออ-ออห่อหมกภาพจาก Xiaolong Wong / Unsplash

เป็นวิธี “รวบรัด-เหมารวม” นำไปซ้าย ลูกค้าก็เออ-ออตามไปซ้ายเลยแบบรวดเร็วไม่รู้ตัว เราจะได้ยินบ่อยตามการขายประกันทางโทรศัพท์ ลูกค้าจะรู้สึก “เออ-ออห่อหมก” ไปกับคุณ แล้วสร้างความรู้สึกร่วมให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ตัวอย่างเช่น

Advertisement

Advertisement

“วันนี้ให้เอกสิทธิ์เพิ่มเติมให้กับลูกค้าบัตรที่ลูกค้าเป็นสมาชิกอยู่ค่ะ คือทางเราได้จัดทำโครงการ เราจะมีบัตรการ์ดให้กับลูกค้า 2 ใบ จากซิกก์แซก(นามสมติบริษัทประกัน) จัดส่งให้ลูกค้าพกติดกระเป๋าไปได้เลยนะคะ ลกค้าสนใจร่วมโครงการใหม่กับเราเลยไหมคะเพื่อรับผลประโยชน์สำหรับสมาชิกเดิมค่ะ”

รู้ตัวอีกที ก็ตอบค่ะไปเรียบร้อย ฮ่าๆๆ วิธีนี้จะเป็นการสรุปประโยชน์ของสินค้าของคุณ พ่วงด้วยการเร่งระยะเวลาตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพื่อให้พวกเขาได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนคุณก็ได้เงินเร็วขึ้นแน่นอน

3.วัดใจแลกสัญญา วัดใจเมื่อถูกลูกค้าขอส่วนลด หรือขอประโยชน์เพิ่ม เราจะทำเป็นว่ายอมเสียผลประโยชน์เพื่อปิดการขาย

วัดใจแลกลายเซ็นภาพจาก Kajetan Sumila / Unsplash

เวลาขายของ เรามักจะ "ตั้งราคาเผื่อต่อ" ไว้อยู่แล้ว ซึ่งจะเข้าแผนการปิดการขายนี้แน่นอน วิธีนี้จะช่วยลดโอกาสการถูกต่อรองมากเกินความจำเป็น และลูกค้าจะต้องตัดสินใจซื้อกับคุณด้วยวิธีการพูดถึงการยอมเสียเปรียบของเรา  เมื่อลูกค้าเริ่มการต่อรอง อย่าเพิ่งงงค่ะ ไปดูตัวอย่างกันเลย

Advertisement

Advertisement

เมื่อลูกค้าขอส่วนลดเพิ่ม คุณจึงพูดไปว่า “ถ้าลูกค้าต้องการส่วนลดเท่านี้ เกินกว่าราคาที่เราจะลดให้ได้ แต่ถ้าลูกค้าเซ็นสัญญาเลยตอนนี้ แม่ค้าจะยอมเสียผลประโยชน์ส่วนตัวนิดหน่อยให้ค่ะ แม่ค้าได้ยอด ลูกค้าได้ความพอใจ เซ็นเลยนะคะ”

แน่นอนว่า ลูกค้าจะไม่กล้าต่อรองคุณเพิ่ม แต่ก็ต้องวัดใจไปเลยว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อนะคะ

วิธีปิดการขายที่กล่าวมา ถือว่าคลาสสิก และทุกคนเคยสัมผัสมาแล้วแน่นอน ปัจจุบันมีการปิดการขายอีกมากมาย เฉพาะออนไลน์ก็มี วิธีที่ปรับจากวิธีที่กล่าวมานี้ก็มี

แต่แนะนำให้ลองใช้วิธีคลาสสิกปิดการขายให้ได้ก่อน แล้วจะทดลองแนวทางอื่นๆ ก็จะไม่ใช่ปัญหาแล้วค่ะ

ขอให้แม่ค้าพ่อค้าทุกท่านเฮงๆรวยๆ ขายดิบขายดีกันทั่วหน้าค่ะ


เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์