สวัสดีค่ะน้อง ๆ และท่านผู้อ่านทุกท่าน อยากทราบว่าคนไหนกำลังสนใจจะเรียนต่อสายการท่องเที่ยวบ้างเอ่ย ยกมือขึ้น!! ไม่ต้องยกมือก็ได้ แค่อ่านบทความนี้ก็พอแล้วค่ะ ก่อนอื่นขออนุญาตออกตัวก่อนเลยว่าพี่เพิ่งจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญาตรี สาขาการท่องเที่ยวมาหมาด ๆ เลยมาเขียนบทความที่อาจเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่สนใจที่จะเรียนต่อสาขาการท่องเที่ยวว่าต้องเรียนอะไร เตรียมตัวอย่างไร เพื่อเป็นแนวทางในการประกอบการตัดสินใจ ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยค่ะ1. ต้องรู้จักรหัสอักษรเพื่อใช้สะกดชื่อรหัสสะกดชื่อคืออะไร ? หากจะเรียนสายการท่องเที่ยวน้อง ๆ ต้องรู้จักและท่องจำรหัสตัวอักษร A-Z ซะก่อน รหัสอักษรก็คือการใช้คำเรียกแทนอักษรนั้น ๆ เพื่อป้องกันความสับสนและการการฟังผิดพลาด ซึ่งจะเกิดขึ้นบ่อยมากเนื่องจากเสียงที่คล้ายคลึงกันนั่นเอง รหัสอักษรที่นิยมใช้โดยทั่วไปของสายการท่องเที่ยวเป็นแบบนี้ค่ะA = ABLE B = BAKER C = CHARLIE D = DOG E = EASY F = FOX G = GEROGE H =HOW I = ITEM J = JIMMY K = KING L = LOVE M = MIKE N = NAN O = OBOE P = PETER Q = QUEEN R = ROGER S = SUGAR T = TARE U = UNCLE V = VICTOR W = WILLIAM X = X – RAY Y =YOKE Z = ZEBRA2. “ใจกล้า หน้าด้าน” คติประจำใจเด็กการท่องเที่ยวการเรียนสายการท่องเที่ยวนั้นน้อง ๆ จะถูกฝึกสอนให้มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก โดยการฝึกสอนที่ว่านั้นคือ “การนำเสนอหน้าห้องเรียน” นั่นเอง ขอบอกเลยว่าส่วนใหญ่ทุกวิชาที่เรียนน้อง ๆ จะต้องทำงานเป็นกลุ่มและต้องนำเสนอหน้างานหน้าห้องเรียน ถ้าใครคิดว่ายากหรือขี้อายแล้วล่ะก็ พี่ขอบอกเลยค่ะว่าในตอนแรกเป็นกันทุกคน พอได้ทำบ่อย ๆ ก็จะกล้าพูดกล้าแสดงออกมากขึ้นจนไม่รู้ตัวเลยล่ะ ฟันธง!3. ภาษาอังกฤษมีทุกเทอมแน่นอนอยู่แล้วเรื่องภาษาเด็กท่องเที่ยวก็ต้องเน้นค่ะน้อง ๆ ใครที่ไม่ชอบเรียนภาษาอังกฤษเพราะกลัวที่จะสื่อสารกับชาวต่างชาติล่ะก็ต้องเปลี่ยนแนวคิดใหม่นะคะ การเรียนภาษาอังกฤษของสายการท่องเที่ยว ถึงจะต้องเรียนบ่อยก็จริงแต่การเรียนส่วนใหญ่จะเน้นไปที่บทสนทนา และเรียนในเรื่องเฉพาะที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิเช่น การบอกเส้นทาง การรับจองบุ๊คกิ้งผ่านทางโทรศัพท์ คำศัพท์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เป็นต้น4. การจำลองจัดนำทัวร์เป็นการจำลองการจัดนำทัวร์จริง คิดโปรแกรมทัวร์เอง คิดราคาขายเอง หาลูกค้าเอง ไปสถานที่จริง และเป็นไกด์จริงค่ะทุกคน ไม่ต้องตกใจนะคะก่อนการจำลองจัดนำทัวร์นั้นอาจารย์ผู้สอนจะสอนให้อย่างละเอียดและคอยช่วยทุกขั้นตอนค่ะ5. ฝึกประสบการณ์กับสถานประกอบการเมื่อเรียนตามหลักสูตรเบื้องต้นจนครบแล้ว จะต้องมีการฝึกประสบการณ์กับสถานประกอบการเพื่อเรียนรู้การทำงานจริงและสร้างประสบการณ์การทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดีค่ะ ในที่นี้น้อง ๆ จะต้องเลือกฝึกงานกับสถานประกอบการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเองค่ะ อาทิเช่น โรงแรม บริษัทนำเที่ยว หรือฝึกงานที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวโดยตรงค่ะ 6. การเก็บเส้นทางเพื่อสอบบัตรไกด์ในด่านสุดท้ายที่จะต้องเจอเลยก็คือ การเดินทางไปจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยรวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสอบบัตรไกด์ค่ะ การเดินทางในที่นี้คือ การเดินทางไปกับเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนของตัวเอง และต้องแบ่งกันทำหน้าที่ไกด์ค่ะ ซึ่งตั้งแต่การเริ่มออกเดินทางนั้นคือการเริ่มสอบแล้วค่ะ โดยอาจารย์และไกด์ตัวจริงจะเป็นผู้คุมและประเมินการสอบครั้งนี้ จุดนี้จะว่ายากก็ยากอยู่นะคะเพราะต้องอธิบายสถานที่ที่จะไปและระหว่างทางบนรถอย่างเต็มรูปแบบ ถึงจะยากแต่ก็ผ่านกันทุกคน เป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะน้อง ๆ อ่านมาถึงจุดนี้แล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างเอ่ย ? ถึงหนทางการเป็นเด็กสายท่องเที่ยวมันจะยากและเหนื่อยหน่อย เชื่อเถอะค่ะสายอื่นก็ต้องมียากและเหนื่อยไม่แพ้กัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพยายามและอดทนด้วยนะ ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ อยู่แล้ว ระหว่างทางย่อมมีอะไรให้น่าจดจำเสมอ พี่ขอเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ ทุกคนที่เลือกเรียนสายการท่องเที่ยวนะคะ ขอให้สนุกกับการเดินมางครั้งใหม่ ขอบคุณค่ะ ขอขอบคุณภาพปก : Pexels / Pic 1 : Pexels / Pic 2 : Pexels /Pic 3 : Pexels /Pic4 : Pexels/ Pic5 : Pexels / Pic6 : รูปภาพโดยเจ้าของโพส