เชียงใหม่ ถือเป็นจังหวัดที่มีมนต์เสน่ห์มาก ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติอยู่แทบทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเดินป่า ขึ้นเขา ขับรถเที่ยวก็ชิลล์ไป ทุกสถานที่ต่างมีเรื่องราวที่น่าจดจำเมื่อไปเยือนแต่ละครั้ง อย่างที่หมู่บ้านนี้ หมู่บ้านแม่กำปอง หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาใน อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ของหมู่บ้านแม่กำปองโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์แม่น้ำลำธารไหลผ่าน อากาศดีตลอดทั้งปี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่แสนเรียบง่ายเป็นกันเอง ทั้งยังเป็นหมู่บ้านเชิงอนุรักษ์และมีบริการพักแบบโฮมสเตย์ จึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย ระหว่างทางกับถนนอันคดเคี้ยว โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ น้อยใหญ่ปกคลุมสองข้างทางระหว่างขึ้นไปยังหมู่บ้าน ลักษณะเป็นเขาสูง ต้องระวังหน่อยหากไม่ชินเส้นทาง มีอาการหูอื้อเป็นระยะ ๆ ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงหมู่บ้านแล้วค่ะ อากาศตอนเช้ากำลังพอดีไม่ร้อนมากเหมาะแก่การเดินป่า แนะนำให้ทาโลชั่นกันยุงไปด้วยเพื่อป้องกันเหล่าแมลงต่าง ๆ หากมาเป็นหมู่คณะมีไกด์เป็นผู้นำทาง ระหว่างทางมีดอกไม้สีเหลืองที่อยู่ข้างทาง สอบถามจากไกด์ได้ความว่า เป็นต้นกำปอง และดอกกำปองสีเหลืองก็เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านนั่นเอง แม่มาจากแม่น้ำ กำปองมาจากชื่อต้นไม้ เลยเรียกรวมกันว่า “แม่กำปอง” ตลอดเส้นทางการเดินป่าขึ้นเขา เราก็จะไปเจอกับใบเมี่ยง (ภาษาถิ่นของภาคเหนือที่แปลว่าใบชา) ที่ชาวบ้านปลูกไว้ทุกครัวเรือน พี่ที่เป็นไกด์เล่าว่า การเก็บใบเมี่ยงเป็นอาชีพหลักของคนที่นี่ การเก็บใบเมี่ยงจะเก็บในช่วงเดือนเมษายน เพราะใบเมี่ยงจะมีรสชาติฝาดและจะเก็บเพียงครึ่งใบเหลืออีกครึ่งใบ เพื่อให้ต้นเมี่ยงได้ใช้สังเคราะห์แสงและสร้างอาหาร ใบเมี่ยงยังมีสรรพคุณช่วยผ่อนคลานประสาทด้วยค่ะ “กินเมี่ยงเหมือนกินลูกอม” นอกจากจะสังเกตเห็นใบเมี้ยงแล้ว ที่หมู่บ้านแม่กำปองยังมีกาแฟที่ตากเรียงรายตามบ้านเรือน เป็นเปลือกชั้นใน(กะลากาแฟ)ของกาแฟอาราบิก้าที่ชาวบ้านตากแดดไว้รอจนแห้งสนิทเพื่อนำไปคั่วเป็นเมล็ดกาแฟสีเข้มที่ส่งกลิ่นหอม ที่นี่เป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟชั้นดี (อาราบิกา) เพราะอากาศเย็นตลอดทั้งปี ชาวบ้านปลูกกาแฟแบบธรรมชาติ ปลอดสารพิษ ชาวบ้านแม่กำปองเริ่มต้นปลูกกาแฟเป็นพืชเศรษฐกิจคู่ไปกับการปลูกเมี่ยง กาแฟอเมซอนที่เราซื้อกันทุกวันนี้ยังใช้กาแฟของที่นี่อีกด้วยค่ะ เสียงน้ำใสไหลเย็น ส่งความสดชื่นบวกกับกลิ่นอายหอม ๆ ของต้นไม้ และแล้วก็เข้ามาถึงน้ำตกแม่กำปอง เป็นสิ่งที่ห้ามพลาดสำหรับการมาเยือนแม่กำปอง เมื่อเดินลัดเลาะมาจะเห็นถนนที่ตัดผ่านเห็นน้ำไหลเป็นสายตามกระแสของน้ำ เมื่อเดินเข้าไปก็จะพบกับน้ำตกแม่กำปองของจริง น้ำตกจะมีทั้งหมด 7 ชั้นจนแทบแยกไม่ออกเลยว่าชั้นไหนเป็นชั้นไหน เพราะน้ำตกไหลลงข้างล่างอย่างเดียว ด้านข้างของน้ำตกก็จะมีบันไดทางขึ้นเพื่อไปน้ำตกชั้นต่อ ๆ ไป เมื่อลองเอามือไปจุ่มน้ำถึงกับสะดุ้ง เพราะน้ำเย็นมาก ๆ เลยและยังสดชื่นอีกด้วยเพราะอากาศเย็นตลอดทั้งปี เดินกลับเข้าที่พัก แวะพักผ่อนเอาแรงก่อนค่ะ ที่พักของแม่กำปองเป็นโฮมสเตย์ บ้านแต่ละหลังก็จะราคาแตกต่างกันออกไปค่ะ มีอาหารเช้า-เย็นให้ทาน คุณลุง-ป้า เป็นกันเองมาก ๆ เหมือนญาติมิตรคนนึง เที่ยงแล้วออกไปหาอะไรทานกันค่ะ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องไส้อั่วกับไข่ป่าม ว่าแล้วต้องไปชิม ตลอดสองข้างทางของบ้านเรือนเต็มไปด้วยร้านค้าน่ารัก ๆ ผู้คนที่นี่ดูอบอุ่น เดินลงไปเนินข้างล่างอีก มีร้านกาแฟซ่อนตัวอยู่ในป่าด้วยค่ะ ร้าน Ted du cafe มีเจ้าเหมียวนอนขี้เซาตัวกลม เห็นแล้วอยากเข้าไปจกพุงเลยทันทีบรรยากาศถือว่าดีเลยค่ะ มีน้ำตกไหลอยู่บริเวณข้าง ๆ ในป่ายิ่งทำให้ร่างกายรู้สึกดี สดชื่น มีอีกหนึ่งร้านกาแฟขึ้นชื่อของที่นี่ ไม่ว่าใครที่มาแม่กำปองคงจะไม่พลาดกับร้าน ชมนกชมไม้ แม้จะอยู่สูงแค่ไหนก็ไม่หวั่นสองเท้าเรา เมื่อขึ้นมาแล้วก็จะพบกับวิวสวย ๆ ของหมู่บ้านแต่ละหลังคาเรือนของแม่กำปอง นั่งหย่อนขารับบรรยากาศชิลล์ไปอีก หมู่บ้านที่ไม่ว่าอยู่นานแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อเลยเรียกว่ามาที่นี่แค่ครั้งเดียวก็ทำให้หลงรักเลยล่ะ หมู่บ้านเล็ก ๆ หมู่บ้านนึงอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติ อยู่ในภูเขาอันแสนสงบแห่งนี้ หมู่บ้านแม่กำปองเหมาะสำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบง่าย ๆ ไม่วุ่นวาย ไม่เร่งรีบ หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมือง ที่หมู่บ้านแม่กำปองเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มาก เป็นความลงตัวที่จะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง การได้นำพาตัวเองมาอยู่กับธรรมชาติใกล้ชิดกับธรรมชาติกับบรรยากาศที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงสายน้ำ เสียงนก เป็นการชาร์จแบตเพิ่มพลังอย่างหนึ่ง หากได้มีโอกาสมาสัมผัสธรรมชาติแบบนี้จะหลงไหลในมนต์เสน่ห์ของแม่กำปองอย่างแน่นอน ภาพทั้งหมดโดย : เจ้าของบทความ