เครดิตภาพหน้าปก : Canva เคยมีคนบอกไว้ “ว่าการตื่นนอนก่อนคนอื่นจะทำให้เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่น” เมื่อก่อนที่เราเคยนอนตื่นสายเราก็ไม่ค่อยเข้าใจประโยคนี้เท่าไหร่นักเพราะหลังตื่นนอนเราก็ใช้ชีวิตปกติทำทุกอย่างได้เหมือนคนอื่น ๆ จนเมื่อได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างของตนเอง โดยเริ่มตั้งแต่การฝึกเข้านอนเร็วและตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ จึงรู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีเวลามากกว่าคนที่นอนตื่นสายจริง ๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการออกกำลังกายยามเช้าที่ทำให้สุขภาพเราดีขึ้นในขณะที่บางคนกำลังนอนฝันดีอยู่เลย เราฝึกวินัยตนเองโดยการเข้านอนไม่ให้เกินสี่ทุ่ม เพื่อให้การตื่นนอนในตอนเช้าตรู่ไม่รู้สึกเพลีย 05.30 น. คือ เวลาที่เราตื่นนอนโดยอัตโนมัติ(หลังจากที่ฝึกจนกลายเป็นนิสัย) เมื่อทำภารกิจส่วนตัวเสร็จเวลา 05.50 น. เราก็ไปเดิน วิ่ง ออกกำลังกายที่ถนนสี่เลนในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นถนนสายใหม่ที่เพิ่งถูกตัดผ่านทางในหมู่บ้านและกลายเป็นสถานที่ออกกำลังกายในยามเช้าของชาวบ้านหลาย ๆ คน หกโมงกว่า ๆ แสงอาทิตย์เริ่มโผล่มาจากท้องฟ้า สายลมยามเช้าที่พัดมากระทบผิวกายนั้นทำให้รู้สึกสดชื่น อากาศบริสุทธิ์มาก ๆ วันใดที่เราได้ออกกำลังกายในยามเช้าวันนั้นทั้งวันจะรู้สึกสดชื่น แจ่มใส กลับกันวันใดที่ไม่ได้ออกกำลังกายและนอนตื่นสายจะทำให้รู้สึกงัวเงีย ไม่สดชื่น อากาศหม่น ๆ จนทำให้รู้สึกไม่อยากที่จะหยิบจับทำงานอะไรไปทั้งวันเลย การตื่นนอนในตอนเช้าตรู่ แล้วไปออกกำลังกายเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้อย่างมีคุณภาพมาก ทั้งทางด้านอารมณ์ สมอง และจิตใจ ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปทั้งวัน รวมทั้งการเคลื่อนไหวร่างกายที่กระฉับกระเฉงมากขึ้นด้วย สำหรับเพื่อน ๆ นักอ่านที่เคยตื่นนอนหลังดวงอาทิตย์ขึ้นเป็นประจำ ลองเริ่มต้นตื่นนอนในตอนเช้าตรู่แล้วสวมรองเท้าไปเดินออกกำลังกายดูนะคะ รับรองว่าวันธรรมดา ๆ จะกลายเป็นเช้าที่แสนสดใสและทำให้คุณรู้สึกสดชื่นแจ่มใส ไปทั้งวันเลยล่ะค่ะ บทความและภาพถ่าย : แว่นสุนทรีย์