อื่นๆ

เจ้าสาวริมทาง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เจ้าสาวริมทาง

ปี 2553 ตอนนั้นผมได้ไปทัศนศึกษาที่จังหวัดแห่งหนึ่งในภาคอีสาน เป็นการไปทัศนศึกษาเชิงอนุรักษ์ เมื่อรถได้ขับเคลื่อนออกจากโรงเรียน เสียงของนักเรียนก็พากันร้องเพลง ตามที่คนขับรถเปิดเป็นเพลงที่ดังและฮิตมากในสมัยนั้น

การเดินทางเริ่มขึ้นในเวลา 18:30น. เพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายในตอนเช้า ระหว่างทางมืดนักเรียนบางคนก็นอนหลับแต่ก็ยังมีบางคนที่ยังร้องเพลงอยู่ ตอนนั้นผมอยู่ชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ผมได้นั่งข้างกันกับเพื่อนสนิท และผมนั่งริมหน้าต่าง ตอนนั้นเพื่อนหลับกันแล้วเพราะตอนนี้ เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงในการเดินทาง และในขณะนั้นเองสายตาของผมก้ไปเห็นผู้หญิงเดินตามถนน เขาใส่ชุดเจ้าสาว

รูปที่หนึ่งและรถของผมก็ได้แล่นไปตามทางปกติ และเมื่อขับมาไม่นานนักผมก็ได้เห็นเธออีกครั้ง มาในชุดเดิมและท่าทางการเดินเหมือนเดิม ตอนนั้นใจของผมเริ่มเสีย เพราะนี่เป็นเวลาที่ดึกมากแล้ว คงไม่มีคนที่จะมาเดินที่ถนนได้ในเวลานี้  และเมื่อรถขับมาถึงจุดที่เป็นทางขึ้นเขา ผมก็เห็นเธออีกครั้ง ตอนนั้นบนรถน่าจะมีเพียงผมที่เห็นผมไม่แน่ใจว่าคนขับรถเห็นเหมือนกันกับผมหรือเปล่า ผมก็ได้สะกิดปลุกเพื่อนของผมขึ้น

Advertisement

Advertisement

เพื่อนผมก็ไม่ได้ถามอะไรว่าปลุกทำไม แต่ผมก็ได้บอกเขาไป

“นี่กิ๊ฟเมื่อกี้เราเห็นใครก็ไม่รู้เดินที่ถนน” ผมบอกเขาไป

”บ้า ใครเขามาทักเรื่องแบบนี้ตอนดึก” กิ๊ฟทำหน้าดุใส่ผม มันก็จริงที่เวลาเราเจอเรื่องแบบนี้ไม่ควรจะพูดตอนดึก

“แต่ว่า เราเจอเขามาหลายรอบแล้ว นี่อย่าพึ่งหลับนะ รอดูว่าจะเจออีกไหม”

”เออ ถ้าไม่มีนะจะตีเลย” กิ๊ฟบอกผม ตอนนั้นผมก็ได้เขยิบตัวให้มันได้มองเห็นที่หน้าต่าง

และไม่นานนัก ร่างของบุคคลที่ผมรอเจอก็ได้ปรากฏขึ้น ในช่วงที่รถกำลังขับผ่านจุดที่เธออยู่ ผมและกิ๊ฟก็ได้เห็นใบหน้าของเธอแบบชัดๆ

เธอสวมชุดแต่งงาน แต่ที่หน้าท้องของเธอมีรอยเลือดที่สีสดมาก ตอนนั้นเราทั้งสองต่างตกใจไม่แพ้กัน และเมื่อรถได้ผ่านไป ผมกับกิ๊ฟก็ได้หันกลับไปดูเธออีก ก็พบว่าเธอกำลังวิ่งตามรถมา

รูปที่สามผ้าห่มที่ผมเตรียมไปจากบ้านก็ได้คลุมผมกับกิ๊ฟไว้ และไม่รู้เลยว่าพวกเราหลับไปตอนไหน ตื่นมาอีกทีก็อยู่ที่วัดดังแห่งหนึ่งคุณครูได้เรียกให้ลงมาเปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างหน้าแปรงฟัน ก็ให้ไปซื้อของมาใส่บาตรตอนนั้นผมกับกิ๊ฟก็ยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง เพราะมันอาจจะเพราะดึกมากหรือบางทีเราก็อาจจะตาฝาดไป แต่เมื่อคิดได้ว่าเขาวิ่งตามหลังรถมา มันก็อดคิดไม่ได้ว่าเรื่องที่เจอกับสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริง

Advertisement

Advertisement

และเมื่อใส่บาตรอยู่ก็ได้ยินเสียงพระพูดขึ้น

“กลับไปในที่ของเจ้า อย่ามาหลอกหลอนคนที่พบเจอเลย”

หลังจากที่พระพูดเสร็จทุกคนก็มองหน้ากันแบบงงๆ มีเพียงผมกับกิ๊ฟที่รู้เรื่อง และครูก็ได้ไปถามว่ามีใครเจออะไรไหมทำไมพระถึงทักแบบนี้ คนขับรถเลยบอกแบบเดียวกันที่ผมเห็นเลย ตอนนั้นทำเอาคุณครูตกใจและจากเดิมที่จะไปเที่ยวตามที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ก็ได้เปลี่ยนไปเที่ยวตามวัดแทน ถือว่าเป็นการมาทำบุญ และตอนกลับเราก็ได้ไปอีกเส้นทางหนึ่ง และไม่ได้เจอกับเธอ ตอนนี้ก็ยังงงอยู่ว่าที่ตรงนั้นมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น


ขอบคุณที่อ่านนะครับ ไว้เจอกันใหม่ สวัสดีครับ

ขอบคุณรูปภาพ Pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์