“เงินกู้” แค่เสียงผ่านหู...ทำไมต้องเฮ??? ในปัจจุบัน สังคมไทยเรากำลังมีความเชื่อที่ผิดๆกันอยู่มาก กับคำว่า “ เงินกู้” ทำไมคนถึงใฝ่หากัน และดีใจทุกครั้งที่ได้ยินข่าวสถาบันทางการเงินที่ไหนมีการประกาศหรือโฆษณาปล่อยสินเชื่อ ไม่ว่าจะรูปแบบไหน ก็จะสร้างความฮือฮาให้แก่พี่น้องชาวไทยเราอย่างมหาศาล แต่หากว่า คนเรามองและตีความหมายของคำว่า “เงินกู้” ได้อย่างถูกต้อง คุณก็จะไม่รู้สึกดี๊ด๊า หรือว่าดีใจจนออกนอกหน้าเหมือนที่เคยเป็น “เงินกู้”นั้นถ้าจะให้ตีความหมาย ก็คือ การที่เราไปขอยืมเงินจากบุคคลหรือสถาบันการทางเงินหนึ่ง โดยมีการทำสัญญากันเพื่อระบุวันเวลาที่จะชดใช้หนี้สินนั้น โดยได้คุยรายละเอียดกันเลยว่าจะทำการผ่อนชำระเงินนั้นเป็นงวดยังไง โดยผู้ให้กู้สามารถคิดดอกเบี้ยกับผู้กู้ได้ตามอัตราที่ได้ตกลงกันไว้ การให้กู้นั้นจะได้มากหรือน้อยอยู่ที่หลักทรัพย์ที่ค้ำประกัน และอยู่ที่ว่าคนค้ำประกันมีอาชีพที่มั่นคงมากแค่ไหน ซึ่งนั่น คือ หนึ่งสิ่งที่อยากฝากให้คิด เพราะ “เงินกู้” คือเงินที่คุณจะต้องเสียดอกเบี้ย เป็นเงินที่คุณได้มาจากการกู้ยืม ไม่ใช่ค่าแรง ไม่ใช่โบนัส เป็นน้ำพัก น้ำแรงของตัวคุณเอง ดังนั้น เงินกู้ คือภาระหนี้สิน ที่จะเข้ามาวนเวียนกับชีวิตคุณ เปรียบเสมือนเลือดที่ไหลเวียนในร่างกาย คุณจะต้องทำงานหนักอีกหลายเท่าตัว เพื่อจัดการชดใช้หนี้สินให้หมดสิ้นไป ซึ่งการชดใช้หนี้สินนั้น จะช้าหรือเร็ว ก็อยู่ที่การชำระเงินคืนของตัวคุณ คุณจะขยันมากหรือขยันน้อยก็คือความเร็วและความช้าของตัวคุณ บางรายรับเงินเขาไปแล้ว ไม่คืน เงียบหาย ถ้าเป็นสถาบันทางการเงิน ก็ต้องมีการขึ้นศาล ไกล่เกลี่ยกันในเรื่องของการชำระหนี้สิน เสียเวลา เสียเงินจ้างทนายแทนที่จะหาเงินนำมาใช้คืน กลับกลายเป็นว่าต้องมาเสียเครดิต เสียชื่อเสียง และหากเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ ก็อาจโดนทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ หรืออาจถูกทำร้ายจนเสียชีวิต นี่คือโทษที่คุณจะได้รับ จะเห็นได้ว่า เงินกู้ หากคุณนำมาใช้แค่เฉพาะที่เดือดร้อน เอามาแต่พอดี คุณก็จะไม่มีภาระหนักหนาที่จะต้องบั่นทอนพละกำลังในการทำงาน แต่หากว่าคุณ กู้ยืมเงินมา เพื่อปิดภาระที่สินที่คุณไปเอามาจากตรงอื่นและนำมากิน เที่ยวเตร็ดเตร่ อย่างไม่มีสาระ คุณจะไม่หลงเหลือความสุขในชีวิตได้เลย “สบายมือตอนได้มา เสียน้ำตาตอนหาคืน” ฝากไว้ให้คิด......ออกแบบรูปภาพโดย นักเขียนขอขอบคุณภาพจาก Canvaภาพปก ภาพประกอบที่ 1 2 3 4