ไลฟ์แฮ็ก

เคล็ดลับการออมเงิน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เคล็ดลับการออมเงิน

ภาพจาก https://unsplash.com/photos/pElSkGRA2NU

ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ การซื้อของออนไลน์เป็นเรื่องง่ายมาก มีร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นในแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Facebook หรือ ในเว็บไซต์ซื้อขายอย่าง Lazada shopee ต่างก็มีโปรโมชั่น หรือ สินค้าลดราคาต่าง ๆ วางขายกันอย่างมากมาย บ้างก็ลดราคากันตามเทศกาล บ้างก็มีโค้ดส่วนลดแจก ถือเป็นที่ล่อตาล่อใจสำหรับผู้บริโภคอย่างพวกเรามาก

ซึ่งถือเป็นข้อดีเหมือนกันที่จะทำให้เราซื้อสินค้าต่าง ๆ ได้ในราคาที่ถูกลง แต่การซื้อที่ดีนั้น เราก็ควรจะต้องเก็บเงินออมเผื่อไว้ส่วนหนึ่งด้วยไม่ใช่มีเท่าไรก็ซื้อของมันทั้งหมด เพราะ เราไม่รู้ว่าในอนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราบ้าง ถ้าเรายังมีภาระต้องดูแล อย่างเช่น ยังมีลูกที่ต้องส่งเรียนหนังสือ ยังมีบ้าน มีรถที่ต้องผ่อนชำระ ยังมีพ่อแม่ที่ป่วยยังต้องเสียค่ารักษาพยาบาล เราก็ควรจะต้องวางแผนการเงินสักนิดไม่ใช่ซื้อของทุกอย่างตามความต้องการของเรา

Advertisement

Advertisement

https://unsplash.com/photos/I9qcFjyuJGwภาพจาก https://unsplash.com/photos/I9qcFjyuJGw

วันนี้ผมได้รวบรวมเทคนิคการออมเงินที่จะทำให้คุณสามารถวางแผนการเงินของคุณได้ รับรองว่าถ้าคุณทำตามอย่างเคร่งครัดการออมเงินก็จะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรอีกต่อไป

1. เก็บก่อนใช้ เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บออมเงิน แน่นอนว่าหลาย ๆ คนพอช่วงเงินเดือนออกก็จะนำเงินเดือนที่ได้ไปซื้อของที่อยากได้มาตลอดทั้งเดือน ไปท่องเที่ยวบ้าง ไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าบ้าง ไปกินอาหารภัตตาคารแพง ๆ บ้าง แล้วก็พูดว่าเป็นการให้รางวัลตัวเองที่ทำงานหนักมาทั้งเดือน(ผมไม่ได้บอกว่าการให้รางวัลตัวเองเป็นเรื่องที่ผิดนะครับ แต่ควรให้อย่างพอดี ไม่ใช่มากจนเกินไป) โดยที่เงินก้อนนั้นก็หายไปภายในวันเดียว จะเหลือเก็บก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเงินไม่พอก็ต้องไปหายืมคนอื่นมาใช้ก่อน ซึ่งแบบนี้ไม่ดีเลยครับ

Advertisement

Advertisement

การที่คุณจะเก็บเงินได้นั้นไม่ใช่ว่าคุณจะใช้เงินไปก่อน แล้วค่อยมาเก็บในภายหลัง แบบนี้เก็บทั้งชาติก็ไม่มีวันเก็บได้ตามจำนวนที่คุณต้องการ  เทคนิคที่ดีที่สุดก็คือคุณจะต้องเก็บเงินในจำนวนที่คุณต้องการก่อน  จากนั้นเหลือเท่าไร คุณจึงสามารถใช้ได้เท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น คุณได้เงินเดือน 20,000 บาท คุณมีเป้าหมายว่าอยากจะเก็บเงิน ให้ได้ปีละ 50,000 แบบนี้ถ้าคุณไม่มีการวางแผนที่ดีแล้ว เมื่อคุณได้เงินเดือน 20,000 บาทคุณก็จะใช้จนหมด เหลือเท่าไหร่ก็เก็บไว้ โอกาสที่จะได้ปีละ 50,000 ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถ้าหาก คุณออมเงินธนาคารเงินเดือนละ 5,000 บาทแค่ 10 เดือนเท่านั้นคุณก็จะสามารถเก็บเงินได้  50,000 แล้วโดยควรที่จะเก็บ 5,000 ไว้ก่อนแล้วค่อยเอา 15,000 บาทที่เหลือมาจับจ่ายใช้สอยโดยพยายามใช้อย่างประหยัดที่สุดจะดีมาก ถ้ายังมีเงินเหลือเก็บอีกได้ แต่ถ้าหากไม่พอใช้จริง ๆ ก็ค่อยถอน 5,000 ที่เก็บไว้มาใช้ได้

Advertisement

Advertisement

การเก็บแบบนี้จะถือเป็นการเซฟตัวเองจากการซื้อสินค้า และ บริการ ที่แพง เกินกำลังทรัพย์ของเรา จากเดิมเราซื้อได้ 20,000 แต่เมื่อออมไปแล้ว 5,000 ก็จะสามารถซื้อได้แค่ 15,000 เท่านั้น นอกจากนั้นก็ยังสามารถมีเงินเก็บสำรองเผื่อกรณีฉุกเฉินอีกตั้งเดือนละ 5,000 ยิ่งทำไปเรื่อย ๆ หลายเดือนเข้า เงินออมของเราก็ยิ่งมากขึ้นทุกที

https://unsplash.com/photos/QqAkoMIN5Jkภาพจาก https://unsplash.com/photos/QqAkoMIN5Jk

2. เลือกเก็บตามประเภทของแบงค์ เทคนิคนี้เป็นเทคนิคที่อาจจะทำให้คุณไม่ได้จำนวนเงินตามที่คุณคาดหวังไว้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นเทคนิคที่ดีเลยทีเดียว  ก่อนอื่นผมแนะนำให้คุณเตรียมกระปุกออมสินกระปุกหนึ่ง ซึ่งเป็นกระปุกใสจะเป็นขวดน้ำพลาสติกที่บ้านคุณก็ได้ จากนั้นก็ให้คุณเลือกประเภทแบงค์ที่คุณอยากจะเก็บไม่ว่าจะเป็นแบงค์ 1,000 แบงค์ 500 แบงค์ 100 แบงค์ 50 แบงค์ 20 จากนั้นก็สัญญากับตัวเองว่าทุกวันจะใส่แบงค์ 1 ใบลงในกระปุก ตามประเภทแบงค์ที่ตัวเองต้องการอยากจะเก็บออม

สมมุติว่าผมอยากจะเก็บแบงค์ 50 ทุกวันตอนเช้าผมก็ต้องหยอดแบงค์ 50 ลงกระปุกนั้นก็ผ่านไป 1 เดือน ผมก็จะได้เงิน 1,500 บาท และ เมื่อผ่านไป 1 ปีผมจะได้ได้เงิน 18,000 บาท ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากเลยทีเดียวสำหรับการเก็บแค่แบงค์ 50 ใบเดียวทุกวัน คุณอาจจะไม่ต้องเก็บเป็นวันก็ได้คุณอาจจะเลือกเก็บเป็นสัปดาห์ หรือ เป็นเดือน แล้วแต่คุณสะดวก แต่สิ่งสำคัญคือขอให้ซื่อสัตย์กับตัวเองว่าจะเก็บตามแบงค์ที่ตัวเองตั้งใจไว้เท่านั้น การเก็บแบบนี้แตกต่างจากการเก็บเป็นเหรียญที่เรานิยมเก็บกัน การเก็บเหรียญที่เรานิยมเก็บกันนั้นส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นเงินทอนจากการที่เราซื้อของเป็นส่วนใหญ่ จะเป็นเหรียญบาท เหรียญ 2 บาท ถ้าเป็นเหรียญ 10 กับเหรียญห้า ก็อาจจะมีบ้างแต่การเก็บแบบนี้เป็นการเก็บแบบสักแต่ว่าเก็บ เป็นเพียงแค่เงินทอนที่เหลือจากการใช้จ่ายของเรา ที่เรารู้สึกว่ามันหนักกระเป๋า จึงนำมาเก็บไว้มันจึงไม่ค่อยต่างอะไรจากการที่เราใช้ไปแล้วเมื่อเหลือจึงนำมาเก็บ เป็นการเก็บโดยไม่ได้มีเป้าหมาย และ จุดประสงค์การออมชัดเจน แต่ถ้าหากคุณตั้งเป้าว่าจะเก็บเหรียญให้เต็มกระปุกภายใน 1 เดือน แบบนี้แหละถือว่าเรามีเป้าหมายชัดเจน

ส่วนการเก็บแบงค์แบบนี้ เป็นการที่เราตั้งใจแล้วว่าวันนี้เราจะต้องเอาแบงค์ 50 บาทมาใส่ในกระปุกให้ได้ เพราะ ถ้าทำไม่ได้จะเป็นการผิดสัญญากับตัวเองทำให้รู้สึกเสียใจ แต่ถ้าทำได้จะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง  แบบนี้จะทำให้การออมมีประสิทธิภาพอย่างมากขึ้น ไม่ใช่ว่าสักแต่ว่าออมเหมือนแต่ก่อน

https://unsplash.com/photos/lCPhGxs7pwwภาพจาก https://unsplash.com/photos/lCPhGxs7pww

3. การตั้งเป้าหมาย และ การวางกฎกติกาการออม สืบเนื่องจากข้อที่ 2 การที่เราจะว่าใส่แบงค์ 50 ในกระปุกทุกวันได้นั้นอาจดูแล้วค่อนข้างเป็นเรื่องยากสักหน่อย คงไม่ง่ายเหมือนการตื่นนอนมาแล้วแปรงฟันแบบทุก ๆ วัน อาจมีบางวันที่เราขี้เกียจที่จะออม หรือ เป็นบางวันที่เราใช้เงินจนหมดเมื่อเป็นแบบนั้นจะทำให้การออมของเราไม่มีประสิทธิภาพ ผมแนะนำให้คุณทุกคน วางแผนกติกาการออมของคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น

ถ้าคุณสัญญากับตัวเองว่าเดือนนี้คุณจะเก็บเงินให้ได้ 3,000 บาท แต่ปรากฏว่าคุณเก็บไม่ได้ ก็ให้คุณกับสัญญากับตัวเองอีกว่าถ้าเดือนหน้าคุณเก็บไม่ได้ 3,000 บาทภายในเดือนหน้านั้น คุณจะไม่กินชานมไข่มุกอีกเลย เมื่อเป็นแบบนี้เป็นการเพิ่มบทลงโทษให้กับตัวเองซึ่งจะทำให้คุณมีวินัยในการออมมากขึ้น หรือ แนะนำให้คุณทำตารางการออม

โดยวันไหนที่ออมก็ให้ขีดกากบาทวันนั้นในปฏิทิน ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ขีดกากบาทวันต่อไปก็ให้ออมเพิ่มจากเดิมเป็น 2 เท่า เพื่อเป็นการชดเชย  ฟังดูแล้วแบบนี้อาจจะเป็นกันโหดร้าย และ เป็นการกดดันกับตัวเองสักหน่อย แต่วิธีการสร้างระเบียบ และ กฎกติกาของตัวเองแบบนี้เป็นเทคนิคที่ดีมากเพราะว่า คุณเป็นคนคิดกติกาขึ้นมาเอง เริ่มแรกคุณจะมีความตั้งใจอย่างมาก แต่แน่นอนว่าเป็นกันทุกคน ที่จะล้มเลิกความตั้งใจระหว่างทาง ถ้ามีกติกามารองรับ และ เป็นกติกาที่คุณตั้งไว้ด้วยตัวเองแล้ว จะทำให้คุณมีความรู้สึกอยากทำให้สำเร็จ และ เชื่อมั่นอย่างมากในการที่จะทำมันให้สำเร็จจนได้

คุณอาจไม่ได้ตั้งกติกาให้เกิดผลลบทางด้านลบอย่างเดียวก็เป็นได้ ตั้งกติกาว่า ถ้าสัปดาห์นี้ฉันเก็บเงินได้ 1,000 บาทฉันจะไปกินหมูกระทะกับเพื่อน ๆ แบบนี้ก็ช่วยเพิ่มกำลังใจให้ตัวเองได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งข้อดีของการตั้งกติกาแบบนี้นอกจากจะเป็นการทำให้เรามีระเบียบวินัยในการเก็บออมแล้วยังเป็นการให้รางวัลตัวเอง หลังจากที่เราทำการออมได้สำเร็จตามเป้าหมายแล้วอีกด้วย

https://unsplash.com/photos/lhltMGdohc8ภาพจาก https://unsplash.com/photos/lhltMGdohc8

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์