อื่นๆ

เก็บเงินอย่างไร ให้มีเงินเก็บ #วิธีออมเงินฉบับนิสิตนักศึกษาขี้เกียจ

162
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เก็บเงินอย่างไร ให้มีเงินเก็บ #วิธีออมเงินฉบับนิสิตนักศึกษาขี้เกียจ

การออมเงิน เป็นกิจวัตรอย่างหนึ่งที่พ่อแม่และครูปลูกฝังเรามาตั้งแต่เด็กๆ เพื่อที่ว่าเราจะได้รู้จักการคิดคำนวณ การประหยัด การเก็บรักษาและรู้ค่าของเงินที่ได้มา

หากวันหนึ่งเราถูกตาต้องใจอยากได้ของสักชิ้น เราก็แค่ทุบกระปุก ควักเงินออมของเรามาซื้อด้วยความภาคภูมิใจ ว่านี่แหละของที่ซื้อด้วยเงินของตัวเอง ไม่ได้ขอเงินจากพ่อและแม่เพิ่ม

แต่ก็นั่นแหละค่ะ นี่เป็นการออมในอุดมคติ ตอนเด็กๆก็ยังพอเก็บได้เพราะมีพ่อและแม่คอยเตือนให้หยอดกระปุกเสมอๆ พอโตขึ้นมาอยู่มหาวิทยาลัย เป็นวัยรุ่นที่อยากสวยอยากหล่อ อยากอินเทร็นด์ อยากได้ของที่ทันสมัย เห็นอะไรก็ดึงดูดใจให้อยากซื้อไปซะหมดทุกอย่าง จับจ่ายจนแทบจะไม่เหลือเงินเก็บเลย แถมขอพ่อกับแม่เพิ่มก็จะถูกบ่นเอาได้ เห้ออออ! เป็นวัยรุ่นนี่มันเหนื่อยใจจริงๆเลย! ต้องหักห้ามใจกี่หนกันนะ

Advertisement

Advertisement


ทุกคนรู้สึกเหนื่อยไหมล่ะคะ? กับการที่ต้องคอยจดบันทึกเพื่อคุมรายจ่ายต่างๆ ถึงจะจดอย่างไรก็ไม่เคยเหลือเงินมาหยอดกระปุกออมสินหมูตัวอ้วนที่ด้านในกลวงโบ๋สักที ขี้เกียจจดบันทึกแล้วก็ชอบลืมหยอดออมสินอีกด้วย พอมีของที่อยากได้ขึ้นมา ทุบกระปุกดูเงินออมก็มีไม่พอ น่าเศร้าใจที่สุดTT

วันนี้ Ajji อยากนำวิธีการออมเงิน ฉบับคนขี้เกียจแบบ Ajji มาฝากเพื่อนๆทุกคนค่ะ 5555555 ต้องบอกว่าได้ผลดีทีเดียวเชียว^^ ตามมาดูกันเลยค่าาาา

กระปุกออมสินฉบับAjji55555 อันนี้กระปุกออมสินของเราเอง ใช้เป็นที่ใส่ทิชชู เพราะว่าไม่กล้าทุบกระปุกที่สวยๆ รู้สึกเสียดายTT แถมอันนี้ยังไม่ดึงดูดสายตามากด้วย ไม่ค่อยไปแคะไปยุ่งเพราะมองแล้วรู้สึกว่า "นี่มันกล่องทิชชู" 5555


1. แบ่งเงินที่จะใช้ในแต่ละวัน

  • อันนี้ Ajji ได้มาจากเพื่อนคนหนึ่งค่ะ วิธีการก็คือ ให้เรานำเงินที่เราได้มา หารแบ่งเป็น 30 วันค่ะ เช่น เดือนนี้พ่อกับแม่ให้ค่าขนมมา 6,000 บาท เราก็หารด้วย 30 ก็ตกวันละ 200 บาทพอดิบพอดี พอสรุปได้ดังนั้นแล้ว เราก็ใส่เงินในกระเป๋าสตางค์แค่วันละ 200บาทเท่านั้น ห้ามนำเงินทั้งหมดที่ได้มาใส่กระเป๋าสตางค์ทีเดียวเด็ดขาด! เพราะมันจะปลิวไปไวมากๆค่ะTT แต่ถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ ก็ให้ใช้เงินในเน็ตแบงค์เอาค่ะ ไม่จับเงินก้อนๆ

Advertisement

Advertisement

ปล. เอาไป 200 บาทแล้วห้ามยืมเพื่อนเพิ่มนะคะเดี๋ยวงบบานปลาย


2. เหรียญมีไว้เก็บไม่ได้มีไว้ใช้

  • ถ้าหากว่าข้อแรกมันยากเกินไป ลองข้อนี้ดูสักหน่อยค่ะ วิธีก็ง่ายๆเลยค่ะ คือ หากเราใช้จ่ายอะไรแล้วมีเงินทอนมาเป็นเหรียญ เราก็เก็บเหรียญไว้ ห้ามใช้เลยนะคะ พอกลับหอมาก็เอาเหรียญที่เราได้จากเงินทอน มาหยอดใส่กระปุกค่ะต้องบอกว่า Ajji ชอบข้อนี้มากที่สุด เพราะมันทำให้กระเป๋าสตางค์ของเราใช้ทนใช้นานเพราะไม่ใส่เหรียญลงไป แถมยังได้เก็บเงินใส่กระปุกออมสินทุกวันอีกด้วย อีกอย่างหนึ่งที่อัจจิไปอ่านเจอก็คือการเก็บแบงค์ 50 ค่ะ ต้องบอกว่ายากนิดนึง แต่วันไหนที่นึกขึ้นได้ Ajji ก็ไม่ลืมที่จะเก็บแบงค์ 50 ด้วย เพิ่มเงินเก็บแต่วันนั้นคือกรอบเป็นข้าวเกรียบมากๆ Y_Y

และวิธีนี้ทำให้ Ajji มีเงินเก็บไปจัดฟันและซื้อโทรศัพท์ใหม่ด้วยเงินของตัวเองค่ะ สุดยอดไปเลยใช่ไหมล่าาาาาา?>< ซึ่งก็จะเชื่อมโยงไปสู่วิธีสุดท้ายนั่นเอง

Advertisement

Advertisement


3. ตั้งเป้าหมายว่าเก็บเงินเพื่ออะไร

  • การตั้งเป้าหมายว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้ทำอะไร จะทำให้เรามี passion ในการเก็บเงินเพื่อสิ่งที่เราต้องการค่ะ ต้องเท้าความก่อนเลยว่าในตอนนั้น Ajji มีปัญหาเรื่องฟันค่ะ จริงๆหมอฟันเคยบอกให้ Ajji จัดฟันตั้งแต่ม.5 แล้วค่ะ เพราะ Ajji มีปัญหาเรื่องฟันห่างและฟันล่างครอบฟันบน // ง่ายๆคือคางยื่น555555 ซึ่งถ้าไม่จัดหรือตัดขากรรไกร Ajji จะมีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยวและจะปวดหัวเวลาเคี้ยวอาหารได้ค่ะ ซึ่งตอนนั้นถามว่าอยากจัดไหม บอกเลยว่าอยากจะพิมพ์ฟัน แล้วติดเครื่องมือให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่!!!!! น้องชายสิคะ ดันลื่นล้มแล้วฟันกระแทกปูน ฟันแตกและเหยินมากๆ5555555 แม่ก็เลยพาน้องไปจัดฟันก่อนหน้าที่หมอจะบอกให้ Ajji จัดฟันแค่สัปดาห์เดียว ก็เลยต้องให้น้องจัดก่อนเพราะกลัวว่ารายจ่ายมันจะมากเกินไป ต่อมาพอเข้ามหาวิทยาลัยได้ก็ต้องนอนดึก ทำงาน หิว กิน แล้วกลับมาทำงาน จนกระทั่งสิ่งที่หมอบอกมันเริ่มมีอาการ ก็คือเริ่มปวดหัวเวาลากินอาหารค่ะ// กินเยอะค่ะยอมรับ 555555 ก็เลยเกิด passion การเก็บเงินจัดฟันนั่นเอง วิธีเก็บเงินก็ตามที่ได้กล่าวมาด้านบนเลยค่ะ

ฟันไม่สบกันเป็นปัญหาชีวิตอย่างหนึ่งภาพที่1 คือ ยังไม่จัดจ้า แต่เคี้ยวอะไรปุ๊บ เริ่มปวดขมับปั๊บ

เก็บเงินจัดฟันดีกว่าภาพที่2 คือ เก็บเงินด้วยวิธีเก็บเหรียญและแบงค์ 50 บวกกับ passion ที่อยากจัดฟันอย่างแรงกล้า

ถอดเหล็กละครับผมและผลลัพธ์ก็คือ ได้จัดฟันและตอนนี้ถอดเหล็กเรียบร้อยแล้วค่าาาา เย่!

ปีต่อมา Ajji ก็ใช้วิธีเดิมเลยค่ะ ก็สามารถเก็บเงินซื้อโทรศัพท์ใหม่ได้โดยไม่ได้ขอเงินพ่อกับแม่เพิ่มเลย


  • นี่ก็เป็นวิธีการออมเงินสไตล์ของคนขี้เกียจจดรายรับรายจ่ายแบบ Ajji นะคะ 55555 (ซึ่งจริงๆควรจดนะคะทุกคน จะได้รู้ว่าเราใช้เงินไปกับอะไรบ้างและใช้เงินกับของที่ไม่จำเป็นมากไปหรือเปล่า) ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็ลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้ดูนะคะ ได้ผลอย่างไรก็เอามาเล่าสู่กันฟังบ้างน้าาา^^

ภาพปกและภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน <3< p>

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์